Natural Captitalism
ทุนนิยมธรรมชาติ (ต่อ)
หลักการข้อที่สี่

ตอบ : ปัจจัยข้อที่สี่ก็คือ กำลังมีการลงทุนใหม่กันอีกครั้งในการฟื้นฟู, การผดุงรักษาเอาไว้ และการขยายคลังสินค้าของทุนธรรมชาติ, เช่นดังที่นายทุนหรือนักทุนนิยมซึ่งมีความรอบคอบสุขุมกระทำกัน. นั่นเป็นก้าวย่างหรือขั้นตอนที่ง่ายมาก เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้เป็นผู้สร้างผลผลิตขึ้นมา; เราเพียงแต่ไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องนั้น และปล่อยให้ชีวิตเจริญงอกงามไปตามความสามารถเมื่อมีโอกาสเท่านั้น. อันนี้ได้สร้างคุณค่าทางธุรกิจเพิ่มขึ้น.

เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์จำนวนมากในอเมริกันตะวันตก กำลังค้นหาวิธีและเทคนิคใหม่ๆเกี่ยวกับการจัดการดูแลสัตว์ในการกินหญ้า พวกเขาสามารถยอมให้ความหลากหลายของหญ้าเกิดขึ้นและอุดมสมบูรณ์มากกว่า และเปลี่ยนให้ทิวเขาที่เป็นทะเลทรายไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ที่แท้จริง, พวกเขาสามารถมีหญ้าเลี้ยงสัตว์ได้มากขึ้น แต่ในแนวทางที่แตกต่าง ซึ่งได้ไปจำลองเอาวิธีการที่หญ้า และสัตว์ที่กินหญ้าได้วิวัฒนาการขึ้นมาในประวัติศาสตร์ร่วมกัน.

เรามีบริษัทใหญ่ๆอยู่ในแถบตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ ซึ่งได้เปลี่ยนสนามหญ้านอกอาคารสำนักงานใหญ่ไปเป็นทุ่งหญ้า, ต้นทุนในการทำดังกล่าวและการดูแลรักษาจัดว่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับสนามหญ้าในเชิงพาณิชย์ คนที่ทำสัญญาก็จะทำอย่างมีความสุขที่ได้ทำสิ่งนี้ขึ้นมาแทน สำหรับต้นทุนในการดูแลรักษาที่ประหยัดโดยไม่มีการจ่ายเพิ่ม. ความเปลี่ยนแปลงอันนี้ได้สร้างชุมชนอันหลากหลาย และความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งที่มีชีวิตขึ้นมามากมาย เต็มไปด้วยดอกไม้ที่งดงามบานสะพรั่ง และผู้คนจากทุกสารทิศของประเทศ ต่างมาชื่นชม. สำหรับทุ่งหญ้าและพันธุ์พืชเหล่านี้มันต้องการการดูแลเพียงเล็กน้อยและรักษาตัวมันเองให้มีสุขภาพที่ดีโดยไม่ต้องมีการรดน้ำ การใช้ปุ๋ย หรือสิ่งอื่นใดเลย, ทั้งนี้เพราะมันคือสิ่งที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อเจริญเติบโต ณ ที่นั้น.

อันนี้คือสิ่งที่เรารู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับงานของ Wes Jackson ที่ the Land Institute. เขากำลังเปลี่ยนแปลงทุ่งกว้างทางเกษตรกรรมให้คืนกลับสู่บางสิ่งบางอย่างที่มองดูแล้วเหมือนกันมากกับทุ่งหญ้าแพรี่. มันเป็นการบ่มเพาะความหลากหลายตลอดทุกฤดูกาลซึ่งไม่ต้องการ การหว่านไถ, การใส่ปุ๋ย, หรือการสเปรย์น้ำแต่อย่างใด. คุณนั่งอยู่ที่นั่นและจ้องมองมันเจริญเติบโต และบางครั้งบางคราวคุณก็เก็บเกี่ยวมันบ้าง, จะด้วยเครื่องจักรหรือปล่อยสัตว์เท้ากีบเข้าไป เพื่อทดสอบ. อย่างน้อย มันก็เป็นผลผลิตเท่าๆกันกับธัญญาหารลูกผสมที่เข้มข้น - และมันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น, เพราะในช่วงระหว่าง 3.8 พันล้านปีของการคัดสรรและการทดลองอันยาวนาน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำขึ้นมาด้วยโรงงานหรือเครื่องจักร! ทุ่งหญ้าแพรี่เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเกี่ยวกับการใช้แสงอาทิตย์ได้อย่างทนทานและยั่งยืนในสถานที่แห่งนั้น. ถ้ามันจะมีหนทางใดๆที่ดีกว่าที่จะกระทำสิ่งเหล่านี้, มันก็ได้มีอยู่ ณ ที่นั้นเรียบร้อยแล้ว.

ถาม : หลักทั้ง 4 ประการนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่ฉลาดมากๆและเป็นจริงเป็นจัง, แต่คุณกำลังพูดถึงเรื่องของการทำเงินควบคู่กันไปกับการปกป้องโลกในเวลาเดียวกัน. คุณคิดว่านี่เป็นวิธีการที่ปฏิบัติได้จริงเกี่ยวกับลัทธทุนนิยมธรรมชาติ สามารถที่จะโน้มนำเราได้มากพอหรือ ?

ตอบ : ก็ยังคงไม่มากพอ ถ้าความโลภยังคงไร้ขีดจำกัดอยู่อย่างนี้ - แม้ว่าสำนึกการประหยัดทรัพยากรสามารถที่จะจัดการกับความโลภได้บ้างก็ตาม แต่ผมคิดว่า ตามแนวทางนี้ ดังที่เราปฏิบัติกับธรรมชาติในฐานะที่เป็นแบบจำลองและที่ปรึกษาที่ชาญฉลาด, และไม่เข้าไปยุ่งในฐานะที่เป็นสิ่งซึ่งก่อความรำคาญหรือไปยักย้ายเปลี่ยนแปลงมัน แน่นอน เราจะได้เรียนรู้ถึงการเคารพนับถือได้มากสำหรับชีวิต ยิ่งกว่าที่เรากำลังแสดงให้เห็นกันอยู่ตอนนี้. และด้วยหนทางดังกล่าว เราจะได้เรียนรู้ถึงความสำคัญเกี่ยวกับการบรรลุถึงความต้องการและความต้องการที่ไม่ใช่เรื่องของวัตถุ โดยเครื่องมือหรือวิธีการที่ไม่ใช่วัตถุ. จากนั้นเราจึงจะถามว่า เท่าไหร่จึงจะมากพอ.

สิ่งที่เรียกว่าอุตสาหกรรมบันเทิง ยากมากที่จะเป็นตัวแทนของความสนุกสนานเฮฮาหรือชีวิตครอบครัว หรือชุมชนที่มีชีวิตชีวาที่แท้จริงไปได้ มากกว่ายามที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของการปกป้องภยันตราย, หรือการประกันสุขภาพ. ผู้คนมากมายในสังคมต่างๆกำลังเลือกสรร และกล่าวว่า "ไม่, ฉันไม่ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของความมั่งคั่งร่ำรวยภายนอก และยากจนภายใน", พวกเขากำลังกล่าวว่า "ฉันปรารถนาที่จะสร้างชีวิตของฉันขึ้นมารายรอบสิ่งต่างๆที่นับได้จริงๆ ไม่ใช่ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้นซึ่งเป็นเพียงสามารถนับได้เท่านั้น".

อะไรจะเกิดขึ้นมากับกรอบความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงขนบประเพณี ถ้าเผื่อว่าผู้คนเริ่มซื้อสิ่งของที่พวกเขาต้องการกันจริงๆ, และโรงงานอุตสาหกรรมก็ผลิตเพียงสิ่งซึ่งเป็นที่ต้องการเพียงเท่านั้น ? (ซึ่งไม่ใช่เป็นอย่างปัจจุบันนี้). บริษัทที่ฉลาดต่างๆกำลังตั้งคำถามแบบนี้ และได้ใช้แนวคิดเกี่ยวกับทุนธรรมชาติเพื่อวางกรอบเรื่องคุณค่าขึ้นมา. ลูกค้าจะต้องเป็นคนที่นิยามเรื่องคุณค่า - ไม่ใช่ตัวแทนโฆษณาหรือนักสร้างภาพชวนเชื่อทั้งหลาย เป็นคนที่สร้างคุณค่าเทียมขึ้นมา.

เรากำลังเริ่มต้นค้นหาแบบจำลองที่น่าสนใจสองสามอย่างทางธุรกิจที่ทำเงินโดยการไม่ขายสิ่งที่ใครคนหนึ่งอาจคิดว่าเป็นสินค้า. มันคือความธรรมดาสามัญเกี่ยวกับแนวทางสำหรับบริษัทไฟฟ้าและน้ำที่จะขาย เนกกาวัตต์ และเนกกาลิตร (คำนี้เป็นคำแผงเมกกาวัตต์และเมกกาลิตร เป็นไปในเชิงปฏิเสธ) - นั่นคือ การช่วยให้ลูกค้าของพวกเขาใช้ไฟฟ้าและน้ำอย่างมีประโยชน์มากที่สุด ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการใช้สิ่งเหล่านี้น้อยลง และเป็นไปในหนทางที่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้มันดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำได้ดีขึ้น และต้นทุนก็ลดลงด้วย

เราจะต้องมามองดูกันถึงสิ่งที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกันนัก ยกตัวอย่างเช่น สถานที่ให้บริการปรับปรุงเรื่องสุขภาพร่างกาย(หรือ body shop คำนี้แต่เดิมหมายถึงโรงซ่อมรถ) ที่ช่วยยกระดับหรือเสริมภาพลักษณ์ของตัวตนของบรรดาคนหนุ่มสาว เพื่อว่าพวกเขาจะได้มีความสุขด้วยการรู้ว่าพวกเขาคือใคร แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช้เครื่องสำอางค์ก็ตาม. คุณอาจคิดไปว่า บริษัทนี้จัดอยู่ในธุรกิจเครื่องสำอางค์: กระนั้นก็ตาม บริษัทดังกล่าวไม่ได้พยายามที่จะขายเรื่องทางด้านวัตถุให้กับลูกค้าคนหนุ่มคนสาว เพื่อให้ไปบรรลุถึงความเคารพนับถือหรือยกย่องในตนเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องทางด้านวัตถุ อันที่จริง บริษัทที่ว่านี้ช่วยให้คนหนุ่มสาวเข้าถึงการเคารพนับถือในตนเองโดยปราศจากการต้องพึ่งพาเครื่องสำอางค์. ด้วยเหตุดังนั้น ลูกค้าเหล่านี้จึงรู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับบริษัท และอาจใช้จ่ายเงินกับบางสิ่งบางอย่าง ที่พวกเขาต้องการจริงๆ ซึ่งอาจจะเป็น ตัวอย่างเช่น สินค้าทางด้านสุขภาพเพื่อทะนุถนอมผิวให้มีความชุ่มชื้นอย่างเหมาะสม มากกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงผิวหนังเพียงภาพปรากฎของมันเท่านั้น

เธอทำงานร้านขายตุ๊กตา แต่แนะนำให้พ่อแม่เด็กไม่ควรซื้อ
ตุ๊กตาหรือของเล่นเด็กบ่อยจนเกินไป
ทางที่ถูกต้อง ควรหาวิธีการที่จะ
เล่นกับพวกลูก ซึ่งมีราคาถูกกว่า
และเป็นสิ่งที่ครอบครัวต้องการ
จริงๆด้วย

ผมได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ซึ่งทำงานในร้านที่เรียกว่า ร้านขายตุ๊กตา. ผมได้พบวิธีการนี้เพราะว่า เธอช่วยให้ลูกค้าประจำที่เดินเข้าออกร้านที่เธอทำงานอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ไม่ควรซื้อตุ๊กตาหรือของเล่น แต่ให้เรียนรู้ให้มากที่จะเล่นกับพวกลูกๆของพวกเขา, มันมีหนทางต่างๆที่สร้างความสนุกสนานและเป็นการเรียนรู้ นอกจากนี้มันยังราคาถูกด้วย. แน่นอน นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ทั้งหลายต้องการจริงๆ, มากกว่าการหาซื้อตุ๊กตาหรือของเล่นที่มีราคาแพงอยู่เป็นประจำอย่างกับยาเสพติด, ตุ๊กตาหรือของเล่นที่ดูหรูหรา บ้าคลั่ง ซึ่งเล่นกันเพียงแค่ชั่วคราว อันเป็นตัวแทนของความรักที่แท้จริง และชีวิตครอบครัวอันลึกซึ้ง.

ผมเข้าใจว่าคุณอาจจะพูดว่า เจ้าของร้านนี้กำลังทำหน้าที่คล้ายๆกับผู้ให้การบำบัดเรื่องภายในครอบครัว หรืออะไรทำนองนั้นไม่มากก็น้อย. อันที่จริง เธอขายบางสิ่งบางอย่างได้ดี; ขณะที่ลูกค้าก็เรียนรู้มากขึ้น. แต่ตามที่ปรากฏ ร้านของเธอ หลายครั้งหลายครา ปริมาณการขายนั้น คุณอาจคาดหวังถึงปริมาณ, และบรรดาลูกค้าที่มีความสุขกันมาก, แม้ว่าเธอจะดำเนินธุรกิจไปในทางตรงข้ามกับแบบจำลองของขนบประเพณีทางด้านอุตสาหกรรมด้านการค้าตุ๊กตาและของเล่น - ร้านนี้ไม่ได้ขายสินค้าบ่อยนัก แต่ค่อนข้างจะแสดงบทบาทไปในแง่ของการให้บริการที่อำนวยความสะดวกมากกว่า.

มาถึงตอนนี้ คุณก็ได้เห็นแล้วว่ากรณีธุรกิจสองสามกรณีมีความเหมือนกัน คุณเริ่มที่จะตระหนักว่า มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าสนใจมากทีเดียวที่ดำเนินการอยู่. บรรดาผู้นำทางธุรกิจจำนวนมากกำลังตั้งคำถามเบื้องต้นต่างๆเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจที่พวกเขาทำอยู่, ทำไมพวกเขาจึงทำอย่างนั้น และมันสามารถนำมาใช่ในฐานะที่เป็นเครื่องมืออันหนึ่งในการรักษามนุษย์รวมทั้งชุมชนพืชและสัตว์ในธรรมชาติได้อย่างไร.

แน่นอน เราเห็นเรื่องเช่นนั้นใน Green Development Services ของสถาบัน Rocky Mountain Institute. บรรดานักพัฒนา real estate เป็นจำนวนมาก(real estate คำนี้หมายถึง ที่ดินที่รวมเอาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างที่ถาวรมาอยู่ร่วมกัน )กำลังให้นิยามใหม่ในทางที่แตกต่างเกี่ยวกับธรรมชาติในอาชีพการงานของพวกเขา ในลักษณะของการฟื้นฟูปฏิสังขรณ์มากกว่าที่จะใช้หาประโยชน์. อันนี้ได้ช่วยปรับปรุงตลาดของพวกเขา และการบรรลุเป้าหมายทางการเงินของพวกเขา เนื่องจากการออกแบบที่รวมตัวกันเข้าที่เหมือนๆกัน ซึ่งได้ทำให้โครงการต่างๆดีขึ้นในหลายด้าน ทั้งการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และทรัพยากร.

ถาม : ที่คุณกล่าวมา หมายความว่า การดำเนินการที่ดี จะช่วยสร้างคุณค่าที่ดีขึ้นมาไม่มากก็น้อยใช่ไหม โดยอัตโนมัติ ?

ตอบ : ผมไม่ได้คิดว่า มันจะเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์, แต่การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง แน่นอน จะเป็นสื่อนำไปสู่คุณค่า และความยั่งยืนมากขึ้น, และทุนนิยมธรรมชาติมีแนวโน้มที่นำทางไปสู่การดำเนินชีวิตที่ถูกต้องและชอบธรรม.

ถาม : และคุณยังกล่าวด้วยว่า บริษัทต่างๆเหล่านี้จะยังสามารถมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไปโดยไม่ทำให้ทรัพยากรสูญสิ้นและก่อมลภาวะใดๆใช่ไหม ?

ตอบ : แน่นอน พวกเขาสามารถที่จะกระทำเช่นนั้นได้ แต่พวกเขาอาจจะต้องพัฒนาในหนทางที่แตกต่างด้วย.
คุณทราบว่าเด็กๆเจริญเติบโต จนกระทั่งพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่; ถัดจากนั้น พวกเขาก็หยุดเจริญเติบโต. ถ้าเผื่อว่าพวกเขายังคงเจริญเติบโตต่อไปในทางร่างกาย, พวกเขาก็จะกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่มหึมา น่าเกลียดน่ากลัว หรืออาจเป็นมะเร็งได้. ณ จุดใดจุดหนึ่งซึ่งพวกเขาหยุดการขยายตัวและเริ่มโตเต็มที่. ชุมชนหรือสิ่งที่มีชีวิตต่างๆและธุรกิจทั้งหลายก็ต้องกระทำอย่างเดียวกัน - นั่นคือ พัฒนาการมากกว่าการเจริญเติบโต(developing rather than growing).

ไม่มีอะไรที่ถูกฝังอยู่ใต้ก้อนหิน กล่าวคือ ธุรกิจต่างๆจะต้องมีรายได้สูงขึ้นเสมอๆ เพื่อที่จะผลิตความสุขมากขึ้นให้กับบรรดาลูกค้าของพวกเขา, ความพึงพอใจสำหรับคนงานของพวกเขา, ความยุติธรรมสำหรับชุมชนของพวกเขา, และกำไรสำหรับผู้ถือหุ้น. สิ่งที่พิเศษมากๆในการปรากฎตัวขึ้นมาของบริษัททุนธรรมชาติต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่การบรรลุถึงเป้าหมายในรูปตัวเงินแต่เพียงเท่านั้น แต่ระดับของพลังงาน, การริเริ่มและการกระตือรือร้น ซึ่งจะปรากฎตัวขึ้นมาในทุกๆระดับของบริษัท และสิ่งที่พวกเขาต้องการสำหรับพวกเด็กๆและชุมชน เมื่อพวกเขากลับไปบ้าน ควรเป็นเป้าหมายที่จะต้องบรรลุถึงด้วย.

ถาม : การปกปักษ์ชีวิตป่าและพื้นที่ป่าจะว่าอย่างไร ? ทั้งนี้เพราะพื้นที่ป่าก็คือทุนธรรมชาติชนิดหนึ่งด้วย.

ตอบ : อันที่จริง สิ่งเหล่านั้นคือแหล่งสะสมหรือแหล่งสำรองเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ในหนทางต่างๆที่เราทั้งหลายต่างเข้าใจกันอย่างคลุมเครือมาก ซึ่งถ้าหากถูกทำลายไป มันก็ไม่อาจที่จะทดแทนคืนมาใหม่ได้เลย เช่นเดียวกับ ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรียที่ถูกเผาไป และดูเหมือนจะมากไปกว่านั้น เพราะคุณจะต้องรอคอยอย่างไม่มีที่สิ้นสุดที่จะฟื้นคืนสิ่งที่ได้สูญเสียไปให้กลับคืนมาใหม่ได้.

ผมคิดว่า ความตระหนักที่ถูกรู้สึกโดยนักชีววิทยาเชิงอนุรักษ์ส่วนใหญ่ มองว่า การเผาห้องสมุดเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว. บริษัทที่รับผิดชอบ(หมายถึงต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)เป็นจำนวนมาก มาถึงตอนนี้ กำลังเริ่มแบ่งปันกัน เกี่ยวกับความตระหนักและความต้องการที่จะทำให้มั่นใจว่า พวกเขาไม่ได้เป็นผู้ที่ส่งเสริมให้เกิดปัญหาอันนั้น. ส่วนพวกที่ยังไม่มีข่าวสารอันนี้ กำลังสูญเสียชื่อเสียงและความโด่งดังของพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในธุรกิจของพวกเขา, และผมไม่ได้คาดหวังว่า จำนวนมากในหมู่พวกเขาจะยังคงอยู่ในธุรกิจได้ยาวนานนัก.

พื้นที่ป่า บ่อยครั้งได้รับการพูดถึงอย่างถูกต้องว่า มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างยิ่ง แต่ผมคิดว่า พื้นที่ป่ายังมีความสำคัญทางจิตวิญญานและความสำคัญทางธรรมชาติในตัวมันเองอย่างยิ่งยวดด้วย ซึ่งเราต่างละเลยและเมินเฉยต่อภยันตรายและหายนะของเรา. ดังที่ Wendell Berry ได้กล่าวเอาไว้, เราเกือบจะไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ เมื่อเราไปทำลายพื้นที่เหล่านั้น, เพราะว่าเราไม่รู้ถึงสิ่งที่เราไม่ได้ทำ. ขณะที่เราเริ่มต้นที่จะค้นพบหรือตรวจตราความอุดมสมบูรณ์อันน่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับโลกที่มีชีวิต, เราเข้าใจมากขึ้น และเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับว่า อาชญากรรมหรือความไร้สำนึกของเรา มันได้ไปทำลายบทบาทหน้าที่พื้นฐานของธรรมชาติอย่างไร และนั่นเป็นอันตรายต่อการอยู่รอดของตัวของเราเองมากมายแค่ไหน.

เอกสารทางวิทยาศาสตร์เมื่อๆไม่นานมานี้ - เพียงหยิบเอาตัวอย่างธรรมดาๆขึ้นมาชิ้นหนึ่ง - ก็จะแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าที่ใดก็ตาม สิ่งมีชีวิตระหว่าง 99% และ 99.9% ที่มีอยู่ในดิน ซึ่งมองดูแล้วเหมือนกับแบคทีเรียภายใต้กล้องไมโครสโคป ไม่อาจที่จะถูกเพาะขึ้นมาได้โดยเครื่องมือเพาะแบคทีเรียธรรมดา, และพวกเราก็ไม่มีไอเดียแม้เพียงเลือนลางที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกมันเป็นและสิ่งที่พวกมันทำ. พวกมันคือความไม่รู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ธรรมดาๆมาก. ดังนั้น หน้าดินจึงเป็นเรื่องของความลึกลับอันยิ่งใหญ่และกว้างขวางมาก;
ถ้าหากว่านักชีววิทยาดาวอังคารคนหนึ่งได้มายังโลกและลงจอด ณ ทุ่งโล่งข้างนอกนี้, ผมคาดว่าเขา หรือเธอ อาจจะสนใจเกี่ยวกับหน้าดินของเรามากๆยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก. หน้าดินเป็นระบบนิเวศวิทยาซึ่งมีความสลับซ้อนและละเอียดอ่อนมากซึ่งเราต่างก็รู้, และในเวลาเดียวกัน เราก็เกือบจะเมินเฉยหรือไม่ใส่ใจกับมันเลยจริงๆ. อย่างไรก็ตาม หากปราศจากมันก็จะไม่มีอะไรที่จะกิน.

ผมได้รับการศึกษามาทางนักฟิสิกส์คนหนึ่งในโลกทัศน์ของ Cartesian (หมายถึงแนวทางของ Descartes)อย่างเต็มที่. ในเค้าโครงทางกลศาสตร์นั้น โลกประพฤติตัวค่อนข้างที่จะเหมือนกับลูกบิลเลียดมาก. แต่อันที่จริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นสักนิดเลย. เราจะต้องเรียนรู้ถึงระบบของชีวิตกันใหม่ ซึ่งมันมีความสลับซับซ้อนจนไม่อาจที่จะจินตนาการได้ และละเอียดอ่อนยิ่งกว่านั้นมาก, บ่อยทีเดียวกระทำสิ่งต่างๆไปโดยไม่ได้เป็นไปแบบเส้นตรงและย้อนคืนกลับมาไม่ได้. ผมทำนายว่า ในทศวรรษต่อไปหรืออีกสองทศวรรษข้างหน้า มันจะมีอ่าวหรือรอยแตกขนาดใหญ่ที่แยกระหว่างชีววิทยาและชีวเทคโนโลยี(biotechnology)ออกจากกัน. ในหนทางที่แปลกประหลาด พืชพันธุ์ที่มีการยักย้ายจีนส์(transgenic crops)จะเป็นการหายใจหอบครั้งสุดท้ายของแบบจำลองอันเก่าแก่ - นั่นคือวิธีการยักย้ายจัดการ, วิธีการทางกลศาสตร์ที่มีต่อชีวิต. และ อาจบางที อาการหอบครั้งสุดท้ายต่อมา เพราะด้วยญานวิทยาอันผิดพลาด, นาโนเทคโนโลยี(nanotechnology - จุลเทคโนโลยี)ก็จะแสดงให้เห็นถึงความบกพร่องที่เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงได้.

ถาม : อะไรคือนาโนเทคโนโลยี

ตอบ : นาโนเทคโนโลยีคือวิทยาศาสตร์ด้านพลังงานของการจัดการยักย้ายในระดับโมเลกุล. ผมคิดว่า มันเป็นสิ่งหนึ่งในฐานะเทคโนโลยีที่เผ่าพันธุ์ของเรายังไม่พร้อมที่จะควบคุมมันอย่างฉลาดได้. แต่ด้วยความเคารพต่อพืชพันธุ์ที่มีการยักย้ายจีนส์, ขอบคุณต่อระดับมาตราฐานของปฏิกริยาผู้คนที่ฉลาดมากในสหราชอาณาจักรและที่อื่นๆในยุโรป, ผมคิดว่าคำถามที่ถูกต้องต่างๆกำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อถามไถ่เกี่ยวกับการที่สิ่งนี้กำลังบ่ายหน้าไป และต้องการที่จะไปที่นั่น. เรื่องของการยักย้ายจีนส์เป็นลัทธิทุนนิยมที่ไม่เป็นธรรมชาติ. ลัทธิทุนนิยมธรรมชาติจะได้รับการวางพื้นฐานอยู่บนการเคารพ และเรียนรู้จากกฎเกณฑ์ของสิ่งต่างๆตามธรรมชาติ มากกว่าการพยายามที่จะทดแทนมันด้วยความฉลาดของมนุษย์.

ถาม : ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะเรียนรู้จากธรรมชาติมากกว่าการไปจัดการยักย้ายธรรมชาติใช่ไหม ?

ตอบ : ตามข้อเท็จจริงเรื่อง New Atlantis ของ Francis Bacon (คำว่า Atlantis ในตำนาน เป็นชื่อเกาะแห่งหนึ่งในมหาสมุทรแอทแลนติค ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของ Gibraltar (จิบรอลต้า)ที่ได้รับการพูดถึงโดยเพลโตว่า ได้จมลงไปใต้มหาสมุทรในช่วงระหว่างที่เกิดแผ่นดินไหว) ได้รับการเขียนขึ้นมาในราวปี ค.ศ.1614-1617, คุณจะพบได้โดยตลอด และคำอธิบายที่เฉยเมยเกี่ยวกับสิ่งที่บรรดานักเทคโนโลยีได้บรรลุในโลกที่แต่งขึ้นมาอย่างน่าพิศวง, คนที่พูดแทนเขากล่าวว่า:

"และเราทำขึ้นมาโดยศิลปะ, ในแปลงดอกไม้และผลไม้, ต้นไม้และดอกไม้ทั้งหลาย, มันผลิดอกออกผลมาแต่เนิ่นๆหรือหลังจากฤดูกาลของพวกมัน, และเพื่อที่จะเติบโตและออกผลเร็วกว่าวิถีธรรมชาติของมันที่เป็นไป. เราสร้างพวกมันขึ้นมาโดยศิลปะ ซึ่งยิ่งใหญ่เกินกว่าธรรมชาติของพวกมัน, และผลไม้เหล่านี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าและหวานกว่าด้วย, พร้อมทั้งรสชาติ กลิ่น สี และรูปร่างก็แตกต่างไปจากธรรมชาติของมัน. มากมายของพืชผลเหล่านี้เราสั่งให้มันเป็นสิ่งที่ใช้ประโยชน์ได้ทางยา.

เรายังมีเครื่องมือที่จะทำให้พืชพันธุ์อันหลากหลายงอกขึ้นมาโดยการผสมผสานของดินโดยปราศจากเมล็ดพันธุ์ด้วย, และนอกจากนี้ ก็ทำให้พืชพันธุ์ใหม่ที่หลากหลายมีความแตกต่างไปจากความธรรมดา, และทำให้ต้นไม้ต้นหนึ่งหรือพืชพันธุ์ชนิดหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นอีกชนิดหนึ่งได้.

โดยศิลปะในทำนองเดียวกันที่เราทำกับพืช, สัตว์ต่างๆ...ก็จะใหญ่และสูงกว่าชนิดของมันที่เป็นอยู่, และในทางตรงข้ามก็สามารถทำให้มันแคระแกร็นและหยุดความเจริญเติบโตของมันได้ด้วย; เราทำให้มันให้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์และออกลูกออกหลานได้มากกว่าชนิดของมันตามธรรมชาติ หรือทางตรงข้ามจะทำให้มันเป็นหมันและหยุดการกำเนิดก็ได้ด้วยเช่นกัน เราทำให้พวกมันแตกต่างในเรื่องสี รูปร่าง และพฤติกรรมได้ในหลายๆทาง. เราค้นพบวิธีการที่จะทำการผสมผสานและการรวมความหลากชนิด ซึ่งได้ผลิตชนิดหรือพันธุ์ใหม่ๆขึ้นมา, และถัดจากนั้นทำให้มันเป็นหมัน, เพื่อหยุดมันลงก็ได้. เรามิได้กระทำสิ่งนี้ไปด้วยความบังเอิญ แต่เรารู้แล้วล่วงหน้าเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นสาระและกระบวนการผสมผสาน รู้ว่าชนิดใดหรือเผ่าพันธุ์ใดของสิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้นเหล่านั้นจะผุดขึ้นมา".

Bacon ได้เตรียมสิ่งนี้ขึ้นมาในฐานะที่เป็นเป้าหมายอันพึงปรารถนา - "การขยายตัวเกี่ยวกับขอบเขตของอาณาจักรหรือจักรวรรดิ์ของมนุษย์ ซึ่งมีผลกระทบกับสรรพสิ่งเท่าที่จะเป็นไปได้".
มันเป็นเรื่องเล่าทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับสโลแกนเก่าของแคลิฟอร์เนียที่ว่า : ถ้ามันรู้สึกว่าดีแล้วละก็, ให้เราทำไปเลย" (If it feels good, do it). ผมคิดว่า เราสามารถที่จะค้นหาเป้าหมายที่มีคุณค่ามากกว่านั้นได้.

ถาม : ขอให้ย้อนกลับไปยังลัทธิทุนนิยมธรรมชาติของคุณ คุณรู้สึกไหมว่า หลักการฟื้นฟู 4 ประการของคุณเกี่ยวกับธรรมชาติ ปกติแล้ว ผู้คนจะถูกขัดขวางไม่ให้ดำเนินรอยตามเรื่องราวประเภทนี้ ?

ตอบ : ลัทธิทุนนิยมธรรมชาติได้รับการวางอยู่บนแนวทางที่ธรรมชาติทำงานตามที่เป็นจริง, ไม่ใช่ในหนทางที่เราปรารถนาให้ธรรมชาติทำ. ถ้าหากว่าเราปฏิบัติตามหลักการทั้งหลายของบรรดานักทุนนิยมธรรมชาติ, เกมของเทคโนโลยีชีวภาพในแบบปัจจุบัน, ส่วนใหญ่ของการลงทุนในทุกวันนี้จะไม่ถูกกระทำอย่างแน่นอน.

บริษัทต่างๆควรจะมีภาระรับผิดชอบที่เข้มงวดทางกฎหมาย สำหรับผลผลัพธ์ที่ตามมาเกี่ยวกับการกระทำของพวกเขา; เขาจะต้องทำป้ายปิดฉลากผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด เพื่อว่าพวกเราสามารถที่จะเลือกได้ว่าเราจะซื้อหามันมาหรือไม่; พวกเขาจะไม่ได้รับการปกป้องเทียมๆจากกฎข้อบังคับเรื่องความปลอดภัย; พวกเขาจะไม่สามารถเรียกร้องความปลอดภัยโดยการอ้างอิงต่อคณะกรรมการที่ไม่มีความรู้สึกรับผิดชอบ ซึ่งโดยสาระ แล้วคณะกรรมการเหล่านี้ประกอบกันขึ้นมาจากพวกเขากันเอง;
พวกเขาไม่สามารถที่จะปิดบังซ่อนเร้นพยานหลักฐานของสิ่งต่างๆซึ่งไม่น่าวางใจ ด้วยการโฆษณา. และด้วยเหตุนี้ มันจะเป็นโลกที่ปลอดภัยกว่าและเป็นประชาธิปไตยมากกว่า. ผมคิดว่าเรากำลังจะมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้น ซึ่งก็คือเหตุผลที่ว่าทำไม พืชดัดแปลงพันธุกรรมจึงลดราคาลงมาในเชิงการค้าทุกวันนี้ ส่วนพืชซึ่งไม่ได้มีการดัดแปลงพันธุกรรม ราคากลับสูงขึ้นๆตามลำดับ.

สิ่งที่เรากำลังมุ่งไปโดยตลอดตอนนี้ เป็นเพียงการต่อสู่เอาชนะความเร็ว และในรูปของอะไรที่จะไปถึงจุดดังกล่าวได้เท่านั้น. ท้ายที่สุด, ผมคิดว่าประชาธิปไตยต่างๆมีแนวโน้มที่จะมีความหมาย ไม่เพียงทำหน้าที่มอบกุญแจต่างๆให้กับทุกๆคน, แต่มันเป็นสิ่งที่คู่คี่สูสีที่งดงามอันหนึ่ง ซึ่งเรากำลังแก้ปัญหาอันนี้ได้ทันเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงหลุมฝังศพต่างๆที่มาขวางหน้าเรา.

ถาม : ในขณะนี้ เศรษฐศาสตร์ของอเมริกันดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทางบวก ตลาดหุ้นก็เป็นไปด้วยดี เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู และการจ้างงานก็สูง. การคิดคำนวณหรือคาดการณ์ของคุณ เมื่อเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางนี้ และตลาดกำลังเบ่งบาน ผู้คนเหล่านั้นจะหันมาให้ความสนใจวิสัยทัศน์ของคุณล่ะหรือ ?

ตอบ : ใช่, โดยเฉพาะ หากเป็นเช่นนั้น. แต่ขอให้มานิยามถึงหลักฐานสนับสนุนกันก่อนเป็นประการแรก. คุณทราบว่า มันมักจะมีความหลากหลายเสมออันนี้ ระหว่างบางสิ่งที่กำลังเลือนลางไป กับบางสิ่งซึ่งกำลังต่อสู้เพื่อที่จะถือกำเนิดขึ้นมา. แต่แน่นอน มันมีเหตุผลที่จะตั้งคำถาม ถึงความลึกซึ้งเกี่ยวกับความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันของอเมริกา และ เกี่ยวกับความยุ่งยากนานาประการทางเศรษฐกิจที่มีการชิงดีชิงเด่นกัน.

เรากำลังอยู่ในมาตรการที่นำมาวัดความสำเร็จที่เป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่งมันผิดพลาด, และแน่นอน เรากำลังกระทำในสิ่งที่ผิดพลาดเป็นประจำทุกวัน เกี่ยวกับการจำแนกแยกแยะผลผลิตมวลรวมประชาชาติด้วยความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน, ซึ่งมันเกือบไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันเลย. ตามข้อเท็จจริง, คุณสามารถที่จะสร้างกรณีที่ดีขึ้นมาอันหนึ่งซึ่งเป็นไปได้ที่ว่า ครึ่งหนึ่งของ GDP นั้นเป็นเรื่องเหลวไหลหรือขยะ, เงินตราได้ถูกใช้ไป หรือจ่ายเพื่อ รักษาบรรเทาผลกระทบต่างๆของความสูญเสียซึ่งไม่ควรที่จะเกิดขึ้นมาตั้งแต่แรกเลย.

ความพยายามของนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้มีการประเมินเรื่องเครือข่ายสวัสดิการ เสนอออกมาว่า ชาวอเมริกันมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย หากว่ามันจะมีอะไรดีขึ้นมาบ้างในช่วงนี้จากการที่พวกเขาเคยเป็นในช่วงต้นๆทศวรรษที่ 70. GDP ของพวกเขาเจริญงอกงาม ส่วนใหญ่ ผ่านมาโดยการสงเคราะห์ช่วยเหลือและการเยียวยาเรื่องต้นทุน. นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมผู้คนเป็นจำนวนมากจึงมีความรู้สึกว่า พวกเขากำลังดำเนินชีวิตไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น เพื่อที่จะธำรงสถานะเดิมของตนเอาไว้.

อย่างน้อยที่สุด ผมหวังว่าเพื่อนๆพลเมืองของผมจะกู้ความรู้สึกของประวัติศาสตร์และทัศนียภาพข้างหน้ากลับคืนมา. เช่นดังที่เราได้เห็นในกรณีของญี่ปุ่น, สิ่งต่างๆสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว. ขณะที่ส่วนใหญ่ของโลก, ผมคิดด้วยความมีเหตุผลว่า มันกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าสังเกตุทีเดียว และเป็นอยู่อย่างนั้นสม่ำเสมอในทิศทางเชิงโครงสร้าง. แต่มันไม่ใช่ว่าจะดีไปเสียทั้งหมด. เรามีงานเป็นจำนวนมากที่จะต้องทำ โดยเฉพาะงานภายใน(inner work)

ถาม : คำว่า"งานภายใน"(inner work)คุณหมายถึงอะไร ?

ตอบ : อืม... ผมอ้างตอนแรก ถึงความมั่งคั่งร่ำรวยภายนอก ซึ่งได้คลอเคลียไปกับความยากจนภายใน. ผมมาจากประเทศหนึ่งซึ่ง ในทางวัตถุแล้วถือว่า มีการพัฒนาไปไกลหรืออยู่เหนือคนอื่น ส่วนในเรื่องของจิตวิญญานนั้นกลับตกต่ำกว่าการพัฒนา. ในบางประเทศมีสภาพเงื่อนไขที่เป็นไปในทางตรงกันข้าม, และมันเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่มีช่องว่างที่ห่างกัน. แต่ ผมก็รู้สึกเบิกบานมากขึ้นว่า เราทั้งหมดอาจหลุดออกจากภาวะยุ่งเหยิงอันนี้ในระดับหนึ่ง.

แน่นอน โลกยังคงตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย และสิ่งที่เลวมากๆก็ยังคงเกิดขึ้นมาเท่าที่เป็นไปได้; แต่ผมก็ยังสงสัยถึง การแสวงหาชีวิตที่เฉลียวฉลาดมีสติปัญญาบนโลก เป็นไปได้ที่จะแปรเปลี่ยนบางสิ่งให้เป็นประโยชนขึ้นมาอยู่ดี

Amory Lovins เป็นผู้อำนวยการสถาบัน Rocky Mountain Institute.
เขาเป็นคนที่ร่วมเขียนเรื่อง Natural Capitalism กับ Paul Hawken และ Hunter Lovins, ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นมาโดย Earthscan (London)
and Little Brown (New York).

Back to the first page Back to midnight's home

E-mail - midnightuniv(at)yahoo.com