หน้านี้เป็นการอุทิศให้กับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซึ่งก่อกำเนิดขึ้นมาแบบเล่นๆ แล้วพัฒนาไปสู่ความร่วมมือ ร่วมแรง เพื่อสร้างให้เป็นมหาวิทยาลัยนอกกระแส โดยให้ชื่อว่ามหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซึ่งต่างไปจากมหาวิทยาลัยกลางวัน. แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประวัติของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนไม่ได้มีเนื้อหาอะไรยืดยาวนัก จึงเปิดให้หน้านี้เป็นของทุกคนที่จะร่วมกันสร้างหน้าประวัติศาสตร์ขึ้นมา โดยใครที่มีเรื่องเล่าเก่าๆ หรือประวัติศาสตร์ของอะไร อยากจะเผยแพร่เพื่อให้สมาชิกหรือเพื่อนๆของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนทราบ ขอให้ e-mail ส่งมายัง midnightuniv(at)yahoo.com แล้วทางมหาวิทยาลัยฯ จะนำมาลงเผยแพร่ในหน้านี้ต่อไป

ถ้าถามว่า เราพัฒนาไปเพื่อจุดมุ่งหมายอะไร   ความคิดที่ซ่อนอยู่ข้างในหัวสมองก็คือ เพื่อให้คนไทย(ในเมือง) มีวัตถุปรนเปรอชีวิตเทียบเท่ากับมาตรฐานคนอเมริกัน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็กำลังต้องการโลกที่เราอยู่นี้อีก 4 ใบ

เพราะโลกมีทรพัยากรอยู่จำกัด และถ้าเราต้องการบริโภคมากกว่าคนอื่นถึง 4 เท่า เราจะหาสิ่งเหล่านี้ได้จากที่ใด ถ้าไม่ดูดจากคนอื่น และคนที่อ่อนแอที่สุดคือเหยื่อที่ต้องได้รับเคราะห์กรรมจากฐานคิดของการพัฒนานี้

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมเสวนาในหัวข้อเรื่อง "ชนชั้นกลางกับคนจน" นัดพิเศษ ในวันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2543 เวลา 13.00   น. ที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซอยวัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ พบกับการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาและความเดือดร้อนของคนจน จากโครงการพัฒนาของรัฐ และประเด็นเกี่ยวกับข้อสงสัยที่นักวิชาการมักจะพูดถึงกันเสมอว่า ปัญหาของคนจนเป็นปัญหาวิกฤตเชิงโครงสร้าง และทำไม คนจนจึงถูกสังคมมองว่าเป็นปัญหาของคนอื่น

รากฐานของความเป็นอัจฉริยะ / อะไรที่ทำให้อัลเบริท์ ไอน์สไตน์เป็นคนที่ฉลาดเป็นเยี่ยม ? บางที ดังที่บรรดานักวิจัยชาวคานาเดี่ยนค้นพบ นั่นคือ เป็นเพราะสมองในส่วนของอินเฟอเรีย พาเรียเทาโลบ อันเป็นฐานของการใช้เหตุผลแบบคณิตศาสตร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกตินั่นเอง แต่ที่แย่ก็คือ คุณไม่สามารถหาซื้อมันได้จาก Amazon.com ("ไทม์" 20 ธันวา 99 / หน้า 41)   

การค้นคว้าและการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายครั้ง มักจะมีการสังหรณ์ใจเสมอ พวกนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถที่จะอธิบายมันได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ปรากฎผลออกมาในท้ายที่สุดว่าถูกต้อง, อย่างน้อยที่สุดก็ในเรื่องเกี่ยวกับนวนิยายวิทยาศาสตร์หลายๆเรื่องที่เป็นพยานอยู่

[คลิกอ่านรายละเอียดเรื่องที่ 34] (ชุดความรู้"วิทยาศาสตร์เข้าใจง่าย"/(มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)

กิจกรรมของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เดือนมิถุนายน 2543

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน โดยความร่วมมือกับ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 จ.ลำปาง / สถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 ได้ร่วมกันจัดทำรายการ"ทีทรรศน์ท้องถิ่น" เพื่อเป็นสื่อและเสียงของคนท้องถิ่นในการเผยแพร่ ความคิด ความเห็นของคนท้องถิ่นต่อปัญหาของคนท้องถิ่น และนโยบายสาธารณะ ออกสู่สังคม. สำหรับวันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลา 12.05 น. รายการ"ทีทรรศน์ท้องถิ่น" ได้เสนอเรื่อง "ทีทรรศน์การศึกษาไทย" ทางช่อง 11 โดยถ่ายทอดสัญญานไปทั่วประเทศ

เมื่อราววันที่ 30 พค. จนถึง 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดประเด็นเสวนาผ่าน webboard ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนในหัวข้อเรื่อง"โลกาภิวัตน์" (ประเด็นที่ 00017) มีผู้สนใจเข้ามาแสดงความเห็น 26 ข้อความ ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่ยังมีผู้ให้ความสนใจพอสมควร หากผู้สนใจท่านใดยังสนใจปประเด็นนี้อยู่ กรุณาไปที่ webboard ดังกล่าว และเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นได้นะครับ. มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนขอสนับสนุนทุกๆความคิด

ที่ผมชวนคุยเรื่องโลกาภิวัตน์คืออะไรนั้น ไม่ได้ตั้งใจจะไปตรวจสอบความรู้ของผู้อื่น แต่ผมคิดว่าความเข้าใจเรื่องนี้สำคัญ เพราะเราเข้าใจอย่างไร ก็ไปกำหนดท่าทีของเราต่อกระแสนี้ไปด้วย

มักจะพูดกันว่าโลกาภิวัตน์เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งย่นทั้งเวลาและระยะทางจนทั้งสองอย่างนี้ไร้ความสำคัญไปเลยนั้น ผมมีข้อสงสัยว่าความเปลี่ยนแปลงของโลกนั้น มนุษย์มีส่วนกำหนดมากน้อยแค่ไหน มนุษย์เป็นเพียงเหยื่อของความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีโดยไม่มีทางกำกับควบคุม หรือเข้าไปมีส่วนร่วมบ้างเลยหรือ?

ถ้ามี ผมก็อยากเห็น”นักคิด”ระดับโลกซึ่งเป็นที่เชื่อถือกันทั่วไปในเวลานี้ ได้จาระไนให้ฟังบ้างว่า จุดถ่วงดุลย์ระหว่างกันและกันอยู่ตรงไหน และมีกระบวนการถ่วงดุลย์กันอย่างไร แต่เท่าที่ได้อ่านๆ ความเห็นของ”นักคิด”เหล่านั้นมา ทำให้เข้าใจว่ามนุษย์เป็นเหยื่อร้อยหรือเกือบร้อยเปอร์เซนต์ บางคนถึงกับบอกว่าถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยนตัวเองตามความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีแล้ว เราก็ตกขอบประวัติศาสตร์แหงแก๋ไปเลยเป็นต้น… ฉะนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามเป็นส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์ให้ได้ ไม่ให้น้อยหน้าคีย์บอร์ดและเมาส์

ในทางตรงกันข้าม มีความเปลี่ยนแปลงในระดับที่กว้างและลึกกว่าเทคโนโลยีเกิดขึ้นในโลก ที่สำคัญได้แก่การขยายตัวของทุน, ของระบบการเมืองที่เชื่อมโยงถึงกันใกล้ชิด (นับตั้งแต่ก่อนจะสิ้นสงครามเย็นด้วยซ้ำ), และของแนวคิดกับวัฒนธรรม ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจหลายอย่าง เช่นการค้าเงินแทนสินค้า, การเปลี่ยนการผลิตจากระบบอุตสาหกรรม(ในประเทศพัฒนา)ไปสู่การผลิตใน”เศรษฐกิจใหม่” ซึ่งใช้ความรู้และข้อมูลเป็นฐาน, การหากำไรจากสิทธิบัตร และการจัดการ, ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นโดยมีการตัดสินใจของมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทุกขั้นตอน มากบ้างน้อยบ้างตามแต่กรณี และในบรรยากาศอย่างนี้แหละที่ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีข่าวสารข้อมูลทำกำไรได้มาก จึงก่อให้เกิดเทคโนโลยีนั้นขึ้นมา ซึ่งยิ่งเพิ่มอำนาจการข้ามรัฐข้ามวัฒนธรรมได้มากขึ้นไปอีก เราอาจเรียกสภาวะเช่นนี้ว่าโลกาภิวัตน์ก็ได้

แต่ในขณะเดียวกัน เราก็อาจมองได้ด้วยว่า โลกาภิวัตน์เป็นอุดมการณ์อย่างหนึ่ง ซึ่งกล่อมให้คนส่วนใหญ่ในโลกยอมรับอย่างจำนน เหมือนกับว่าต้องเกิดขึ้นอย่างที่เราควบคุมไม่ได้เหมือนการระเบิดในดวงอาทิตย์ อุดมการณ์เช่นนี้เปิดทางให้แก่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วสามารถปรับตัวเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของตนในความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เช่นเพราะกุมความรู้ข้อมูลการจัดการ ฯลฯ สำหรับการประกอบการระดับโลกเอาไว้มากกว่าคนอื่น ก็สามารถขายความรู้นั้นในราคาแพงได้ โดยผลักภาระการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมประเภทเครื่องอุปโภคบริโภคไปให้แก่ประเทศบริวารได้สะดวก กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือหนีการแข่งขันซึ่งเห็นได้ว่าตัวต้องแพ้แน่ๆ ไปสู่อีกเวทีหนึ่ง ซึ่งเห็นได้ว่าต้องชนะแน่ๆ

ปัญหาของเราก็คือถ้าโลกาภิวัตน์ไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ แต่เป็นอุดมการณ์ด้วย เราจะจัดการกับโลกาภิวัตน์อย่างไร จึงไม่ตกอยู่ในฝ่ายเสียเปรียบตลอดไป

ผมไม่มีคำตอบ และอยากฟังความเห็นของคนอื่น แต่อยากชวนคุยด้วยการนิยามคำถามของตัวเองให้ชัดเท่านั้น

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้จัดหาเนื้อที่กระดานข่าวใหม่เป็นการเพิ่มเติม เพื่อให้นักศึกษา สมาชิก และผู้สนใจทุกท่านได้เข้ามาใช้เนื้อที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ทั้งนี้โดยผ่าน webboard ของ yahoo เนื่องจากได้รับแจ้งจากสมาชิก และผู้สนใจหลายท่านว่า ไม่สามารถส่งข้อความโต้ตอบกันได้ใน webboard เดิม เพราะไปติดขัดที่เรื่องการตรวจสอบคำไม่สุภาพ ดังนั้นเพื่อความสะดวกขอเชิญท่านร่วมแสดงความคิดเห็น เสนอแนะความรู้ ผ่านกระดานข่าวใหม่นี้โดยเสรีไม่มีการ censor / มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ไม่เห็นด้วยกับการเซ็นเซอร์ทุกชนิด เพราะเราเชื่อมันในเสรีภาพและคุณภาพของคนไทย เราไม่วางสมมุติฐานว่ามนุษย์เป็นคนชั่วมาแต่กำเนิด ซึ่งต้องมีผู้ที่มีศีลธรรมดีกว่าทำหน้าที่ตรวจสอบคนอื่น

Midnight's Webboard

กิจกรรมของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ร่วมกับ ชมรมเสวนาและการดนตรี คณะวิจิตรศิลป์ มช.
ได้จัดให้มีการเสวนาเรื่อง"การศึกษาเพื่อสันติภาพ" ณ ห้อง 1307 คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วันพฤหัสที่ 14 ธันวาคม 2543 เวลา 17.30 น.

งานนี้มีผู้ร่วมเสวนาคือ นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชัชวาล ปุญปัน, ประมวล เพ็งจันทร์,
วารุณี ภูริสินสิทธิ์, ไพสิฐ พาณิชย์กุล, สมเกียรติ ตั้งนโม.