ภาพประกอบดัดแปลง นำมาจาก BBC MUNDO.com / Lunes, 14 de mayo de 2001 - 22:47 GMT เพื่อใช้ประกอบบทความทางวิชาการ บริการฟรี
of Noam Chomsky on his views on Terrorism by Noam Chomsky 3:06pm Wed Sep 26 '01 (Modified on 3:41pm Wed Sep 26 '01) [email protected]
Recent Interview

ข้อความต่อไปนี้เป็นการสัมภาษณ์ นวม ชอมสกี้ ในทัศนะของเขาที่มีต่อลัทธิก่อการร้าย โดยได้มีตั้งคำถามไว้ 14 คำถามThe following is a recent interview with Noam Chomsky on his views on terrorism. There are fourteen transcribed questions. Please feel free to translate into another language other than English (preferably, Spanish, for our purposes here at the Mexico IMC).

แปลและเรียบเรียงโดย :
สมเกียรติ ตั้งนโม / คณะวิจิตรศิลป์ มช.
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

H
home
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ทางเลือกอุดมศึกษาเพื่อความเป็นไท : บทความใหม่ลำดับที่ 179 ประจำเดือนพฤษภาคม 2545 : ไม่สงวนลิชสิทธิ์ในการนำไปใช้เพื่อการศึกษา

ไม่ควรจะจำเป็นต้องชี้แจงว่าลัทธิก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นสิ่งประดิษฐ์มาตรฐานอันหนึ่งของรัฐต่างๆที่ทรงอำนาจ ดังที่ Stohl ได้ตั้งข้อสังเกต. บางกรณีไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาถกเถียงกัน ลองหยิบเอาเรื่องสงครามสหรัฐฯที่มีต่อนิคารากัวขึ้นมาดู ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้ผู้คนชาวนิคารากัวต้องเสียชีวิตลงถึง 1 หมื่นคนและประเทศต้องตกอยู่ในความหายนะ นิคารากัวได้ดึงดูดความสนใจต่อศาลโลก ซึ่งได้มีการประณามสหรัฐฯสำหรับลัทธิก่อการร้ายระหว่างประเทศ("ด้วยการใช้กำลังที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย") และได้มีคำสั่งให้ระงับการใช้กำลังดังกล่าวพร้อมทั้งให้เร่งปรับปรุงเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ แต่สหรัฐอเมริกากลับตอบโต้คำสั่งศาลโลกโดยการขยายสงครามอย่างแหลมคมเพิ่มมากขึ้น

การแผ่ขยายสงครามรวมไปถึงคำสั่งที่เป็นทางการต่างๆที่ให้โจมตี"เป้าหมายอ่อน"(soft targets) - เป้าหมายที่ไม่มีการป้องกันทางพลเรือน อย่างเช่นแหล่งสะสมทางด้านเกษตรกรรม และสถานพยาบาลด้านสุขภาพ - และหลีกเลี่ยงการโจมตีกองทัพของนิคารากัว. ผู้ก่อการร้าย(หมายถึงสหรัฐฯ)สามารถดำเนินการด้วยการให้บทเรียนเหล่านี้ได้สำเร็จ ขอบคุณต่อการควบคุมพื้นที่เวหาของนิคารากัวได้อย่างสมบูรณ์โดยสหรัฐฯและเครื่องมือสื่อสารต่างๆที่ก้าวหน้าที่จัดหามาให้พวกเขาโดยบรรดาที่ปรึกษาทั้งหลาย

แนะนำหนังสืออ่านเพิ่มเติม เพื่อเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับ แนวคิดของ Noam Chomsky ในเรื่อง What Uncle Sam Really Wants ในภาคภาษาไทย ได้มีการแปลเรียบร้อยแล้วในชื่อ "อเมริกา อเมริกา อเมริกา วิพากษ์นโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา" ผู้แปล : ภัควดี วีระภาสพงษ์ สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง 2544

 

Recent Interview of Noam Chomsky on his views on Terrorism
by Noam Chomsky
3:06pm Wed Sep 26 '01 (Modified on 3:41pm Wed Sep 26 '01)

สนใจต้นฉบับบทความชิ้นนี้ คลิกไปอ่านได้ที่
http://mexico.indymedia.org/front.php3?article_id=1157&group=webcast

อเมริกาก่อการร้าย บทสัมภาษณ์ นอม ชอมสกี้
สมเกียรติ ตั้งนโม : แปล

คำถามแรก : คุณประณามลัทธิก่อการร้ายใช่ไหม? เราสามารถตัดสินได้อย่างไรว่า การกระทำใดเป็นลัทธิก่อการร้าย และการกระทำใดเป็นเรื่องการต่อต้านของประเทศที่เข้าตาจน ต่อ ผู้กดขี่ หรือผู้ใช้อำนาจเข้าครอบครอง? เกี่ยวกับการจัดประเภทต่างๆข้างต้น คุณได้"แบ่งแยก"การโจมตีสหรัฐอมเริกาเมื่อเร็วๆนี้เป็นอย่างไหน ?

Noam Chomsky:
ผมเข้าใจศัพท์คำว่า"ลัทธิก่อการร้าย" ในความหมายที่นิยามกันในเอกสารทางราชการของสหรัฐอเมริกาดี: นั่นคือ มีการใช้คำๆนี้ในลักษณะของการคาดการณ์เกี่ยวกับความรุนแรง หรือการคุกคามด้วยความรุนแรงเพื่อบรรลุเป้าหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางการเมือง, ศาสนา, หรืออุดมการณ์ใดก็ตาม. มันถูกกระทำโดยผ่านการทำให้เกิดความกลัว, การข่มขู่, การคุกคาม หรือค่อยๆทำให้เกิดความหวั่นเกรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สอดคล้องกันและลงรอยกันสนิทกับการนิยามข้างต้น การโจมตีเมื่อเร็วๆนี้(ตึก World Trade Center)ต่อสหรัฐอเมริกา แน่นอน เป็นการกระทำของลัทธิก่อการร้าย, ในข้อเท็จจริง มันเป็นอาชญากรรมของผู้ก่อการร้ายที่ทำให้เกิดความหวาดกลัว. เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะมีใครไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั่วโลก หรือไม่ควรที่จะเป็นเช่นนั้น

แต่เคียงข้างกับความหมายตามตัวอักษรเกี่ยวกับศัพท์คำนี้ ดังที่อ้างในเอกสารทางราชการของสหรัฐฯ มันเป็นการนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงโฆษณาชวนเชื่อด้วย ซึ่งโชคไม่ดีที่มันเป็นมาตรฐานอันหนึ่ง : ศัพท์คำว่า"ลัทธิก่อการร้าย"ได้ถูกนำมาใช้อ้างอิงถึงการกระทำต่างๆของผู้ก่อการร้าย โดยมอบให้กับศัตรูต่างๆของสหรัฐฯและพันธมิตรของพวกเรา.

นักวิทยาศาสตร์ทางการเมือง Michael Stohl ถูกต้องทีเดียว เมื่อเขาเขียนว่า "พวกเราจะต้องยอมรับว่า โดยธรรมเนียมปฏิบัติ - และจักต้องเน้นว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติจริงๆ - การใช้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่และการข่มขู่ด้วยการใช้กำลัง ปกติแล้วได้รับการอธิบายในฐานะที่เป็นการฑูตในเชิงบีบบังคับชนิดหนึ่ง และมันไม่ใช่รูปแบบของลัทธิก่อการร้าย". ในทำนองเดียวกัน เหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยทั่วไปแม้ว่ามันจะเกี่ยวพันถึง "การคุกคามและมีการใช้ความรุนแรง และมันได้รับการอธิบายในฐานะที่เป็นวัตถุประสงค์ของการก่อการร้าย ซึ่งอันที่จริง มันไม่ใช่พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ใดๆเมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯ ของผู้ซึ่งกำลังกระทำการด้วยยุทธวิธีเดียวกันนี้

แท้จริงแล้ว การใช้ประโยชน์ทางด้านการโฆษณาชวนเชื่อมันเป็นไปในลักษณะสากล ทุกๆคนต่างตำหนิประณามลัทธิก่อการร้าย ในความหมายของรูปศัพท์ดังกล่าว พวกนาซีก็ประณามลัทธิก่อการร้ายอย่างเกรี้ยวกราด และวิพากษ์วิจารณ์ลัทธิก่อการร้ายในฐานะที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับพวกผู้ก่อการร้าย - ในกรีก เป็นตัวอย่าง - โดยพื้นฐานแล้ว สหรัฐอเมริกาก็เห็นด้วย

ได้มีการรวมตัว และปฏิบัติการในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับการต่อต้านลัทธิก่อการร้ายในกรีกและที่อื่นๆในช่วงปีหลังสงครามมานี้. ยิ่งไปกว่านั้น โครงการด้านการทหารที่เรียกว่า counter-insurgency ซึ่งมีการปฏิบัติการต่อสู้กับสมาชิกกองโจรและการปฏิวัติ ได้นำเอาแบบจำลองมาจากพวกนาซีมาใช้อย่างชัดเจนทีเดียว และได้รับการนำมาปฏิบัติด้วยความเอาใจใส่อย่างยิ่ง: กองกำลัง Wehrmacht (กองกำลังของเยอรมันจากปี 1921-1945)ได้รับการนำมาหารือ และคู่มือต่างๆของกองกำลังนี้ได้ถูกนำมาใช้ในการออกแบบโครงการด้านการทหารที่เรียกว่า counter-insurgency programs ไปทั่วโลก ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า counter-terrorism (การต่อต้านลัทธิก่อการร้าย)

ขนบธรรมเนียมต่างๆเหล่านี้ดังที่ยกมา คนๆเดียวกันแท้ๆและการกระทำอย่างเดียวกันเลยก็ว่าได้ สามารถที่จะปรับเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วจาก"การเป็นผู้ก่อการร้าย"(terrorists)มาเป็น"นักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ"(freedom fighters) และเปลี่ยนกลับไปอีกครั้ง. อันนี้เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ณ ประตูบ้านถัดไป อย่างเช่น กรีก ในไม่กี่ปีมานี้

โดยทางการแล้ว KLA-UCK ได้รับการประณามโดยสหรัฐฯในฐานะที่เป็น"พวกผู้ก่อการร้าย"ในปี 1998 เนื่องจากการโจมตีของคนกลุ่มนี้ต่อพลเรือนและตำรวจชาวเซิอร์บ[Serb (เซอร์เบีย)] ในความพยายามที่จะสวนกลับและต้องการตอบโต้กับความโหดร้ายของเซอร์เบีย ดังที่พวกเขาได้ประกาศออกมาอย่างเปิดเผย

และล่วงเลยมาถึงมกราคม 1999 อังกฤษ - ธาตุแท้ที่กระหายสงครามมากที่สุดในกลุ่ม NATO สำหรับเรื่องนี้ - เชื่อว่า the KLA-UCK จะต้องรับผิดชอบสำหรับความตายมากกว่าเซอร์เบียเสียอีก ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ แต่อย่างน้อยที่สุด มันก็บอกอะไรบางอย่างแก่เราเกี่ยวกับการรับรู้ต่างๆในระดับสูงของ NATO. ถ้าใครสักคนสามารถวางใจได้กับพยานเอกสารที่นำมาใช้ประกอบจำนวนมากที่จัดหามาโดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ, NATO, the OSCE, และแหล่งข้อมูลของตะวันตกต่างๆ, มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยโดยสาระสำคัญ จนกว่าจะมีการถอนตัวของหน่วยตรวจสอบ KVM และการทิ้งระเบิดในปลายเดือนมีนาคม 1999

แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายต่างทั้งหลายจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง: สหรัฐอเมริกาและอังกฤษตัดสินใจเข้าร่วมเพื่อโจมตีต่อเซอร์เบีย และบรรดาผู้ก่อการร้าย ได้กลายเป็นนักสู้เพื่ออิสรภาพไปในทันใด. ภายหลังสงคราม พวกเขากลายเป็น"พวกผู้ก่อการร้าย", "อันธพาล", และ"อาชญากร" ดังที่พวกเขาได้ดำเนินการจนถึงที่สุดในการปฏิบัติการทำนองเดียวกันต่อ Macedonia, ในฐานะพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา

ทุกๆคนต่างๆประณามลัทธิก่อการร้าย แต่พวกเราต้องตั้งคำถามถึงสิ่งที่พวกเขาหมายถึง คุณสามารถที่จะพบคำตอบต่อคำถามของคุณ เกี่ยวกับมุมมองของผมในหนังสือหลายต่อหลายเล่มและบทความหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งผมได้เขียนขึ้นมาเกี่ยวกับลัทธิก่อการร้ายในหลายสิบปีที่ผ่านมา แม้ว่าผมจะใช้ศัพท์คำนี้ในความหมายตามตัวอักษร และถึงกระทั่งบัดนี้ ผมก็ยังประณามการกระทำทั้งหมดของผู้ก่อการร้าย ไม่เพียงสิ่งเหล่านั้นที่ได้รับการเรียกขานว่า"ผู้ก่อการร้าย"ด้วยเหตุผลในเชิงโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น

ไม่ควรจำเป็นต้องชี้แจงว่า ลัทธิก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นสิ่งประดิษฐ์มาตรฐานอันหนึ่งของรัฐต่างๆที่ทรงอำนาจ ดังที่ Stohl ได้ตั้งข้อสังเกต. บางกรณีไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาถกเถียงกัน ลองหยิบเอาเรื่องสงครามสหรัฐฯที่มีต่อนิคารากัวขึ้นมาดู ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้ผู้คนชาวนิคารากัวต้องเสียชีวิตลงถึง 1 หมื่นคน และประเทศต้องตกอยู่ในความหายนะ นิคารากัวได้ดึงดูดความสนใจต่อศาลโลก ซึ่งได้มีการประณามสหรัฐฯสำหรับการกระทำที่ไม่ต่างอะไรกับลัทธิก่อการร้ายระหว่างประเทศ("ด้วยการใช้กำลังที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย") และได้มีคำสั่งให้ระงับการใช้กำลังดังกล่าวในทันที พร้อมทั้งให้เร่งปรับปรุงเพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์

แต่สหรัฐอเมริกากลับขานรับคำสั่งของศาลโลกโดยการขยายสงครามอย่างแหลมคมเพิ่มขึ้น และใช้อำนาจวีโต้(สิทธิยับยั้ง)การแก้ปัญหาของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ได้วิงวอนขอความร่วมมือทุกๆรัฐให้ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ

การแผ่ขยายสงครามของสหรัฐฯ รวมไปถึงคำสั่งที่เป็นทางการต่างๆที่ให้โจมตี"เป้าหมายอ่อน"(soft targets) - เป้าหมายที่ไม่มีการป้องกันทางพลเรือน อย่างเช่น แหล่งสะสมอาหารทางด้านเกษตรกรรม และสถานพยาบาลด้านสุขภาพ - และหลีกเลี่ยงการโจมตีกองทัพของนิคารากัว. ผู้ก่อการร้าย(หมายถึงสหรัฐฯ)สามารถดำเนินการด้วยการให้บทเรียนเหล่านี้ได้สำเร็จ ขอบคุณต่อการควบคุมพื้นที่เวหาของนิคารากัวได้อย่างสมบูรณ์โดยสหรัฐฯ และเครื่องมือสื่อสารต่างๆที่ทันสมัยซึ่งได้รับการจัดหามาให้พวกเขาโดยบรรดาที่ปรึกษาทั้งหลาย

ควรจะต้องตระหนักด้วยว่า การกระทำแบบเดียวกับผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ ได้รับการเห็นด้วยอย่างกว้างขวาง หนึ่งในผู้แสดงความคิดเห็นด้วยที่โดดเด่น Michael Kinsley, ในฐานะนักเสรีนิยมสุดขั้วของกระแสหลัก ให้เหตุผลว่า พวกเราไม่ควรโต้แย้งต่อการให้เหตุผลสนับสนุนของกระทรวงการต่างประเทศ สำหรับการโจมตีผู้ก่อการร้ายไปยัง"เป้าหมายอ่อนต่างๆ"(soft targets): "นโยบายที่มีเหตุผล "จะต้องบรรจบกับการทดสอบของการวิเคราะห์ในเรื่องต้นทุนและผลประโยชน์ การวิเคราะห์เกี่ยวกับปริมาณของเลือดและความทุกข์ยากที่จะเทลงไป และความเป็นไปได้ที่ประชาธิปไตยจะปรากฏขึ้นมา ณ จุดหมายปลายทางอีกด้านหนึ่ง - "ประชาธิปไตย" ดังที่สหรัฐฯเข้าใจในศัพท์คำนี้ เป็นการตีความอันหนึ่งที่แสดงภาพออกมาอย่างชัดเจนในเรื่องของพื้นที่

มันได้รับการทึกทักกันเอาเองว่า พวกหัวกระทิของสหรัฐฯมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะชี้นำและทำการวิเคราะห์ รวมทั้งดำเนินตามโครงการดังกล่าว ถ้าหากว่ามันได้ผ่านการทดสอบต่างๆของพวกเขาแล้ว เมื่อโครงการของผู้ก่อการร้ายประสบผลสำเร็จ และนิคารากัวยอมจำนนและอยู่ในความเชื่อฟัง ชาวอเมริกันทั้งหลายต่างก็พร้อมใจกันยินดี นิตยสาร the New York Time ประกาศว่า ตนรู้อยู่เต็มอกถึงเป้าหมายที่จะบรรลุถึงเป็นอย่างดี ดังที่ Time magazine บรรยายมันออกมาอย่างร่าเริงว่า

วิธีการต่างๆคือจะต้องสร้างความพินาศและปฏิบัติการสงครามตัวแทนความตายให้ยาวนาน จนกว่าชนพื้นเมืองไร้เรี่ยวแรงจะโค่นล้มรัฐบาลอันไม่เป็นที่ต้องการของพวกเขาลงได้ ด้วยต้นทุนของเราที่ลงไปน้อยที่สุด เราจะทำให้เหยื่อดังกล่าวประสบกับความทุกข์ยาก บ้านเมืองจะมีแต่สะพานที่ปรักหักพัง การก่อวินาศกรรมจะต้องเป็นไปทั่ว ทั้งสถานีไฟฟ้าและแหล่งพลังงานต่างๆ และจะต้องทำให้ไร่นาประสบกับความพินาศฉิบหาย ต่อจากนั้น ก็จัดหาคนที่จะเป็นตัวแทนของสหรัฐฯ สมัครรับเลือกตั้งขึ้นมาเป็นผู้นำและพาพวกเขาไปสู่ชัยชนะ

นี่คือจุดจบอันนำมาซึ่งความยากจนของชาวนิคารากัว มันเป็นความเคลิบเคลิ้มอย่างเป็นสุขต่อความสัมฤทธิผลที่ไร้ขีดจำกัดท่ามกลางพวกหัวกระทิ

แต่สงครามก่อการร้ายชองสหรัฐอเมริกาไม่ใช่"ลัทธิก่อการร้าย" มันเป็น"การต่อต้านการก่อการร้าย"โดยมาตรฐานคำสอนใหม่ และมาตรฐานสหรัฐฯได้มีชัยและแพร่ขยายไปเหนือผืนโลกจำนวนมาก ในฐานะผลลัพธ์อันหนึ่งของพลังอำนาจสหรัฐอเมริกา และต้นทุนของการท้าทายต่อประเทศนี้

อันนี้ไม่ใช่ตัวอย่างที่สุดขั้วที่สุด; ผมพูดถึงมันเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่มีข้อกังขาหรือถกเถียงกันอีกแล้ว ตัวอย่างการตัดสินของศาลโลกที่พูดถึง และเพราะความพยายามต่างๆที่ถูกทำให้ล้มเหลวดังกรณีนิคารากัวที่จะดำเนินรอยตามวิธีการทางกฎหมาย มันน่าจะไประเบิดที่วอชิงตันแทน ซึ่งเป็นที่ที่ได้จัดหาและตระเตรียมแบบจำลองอันหนึ่งขึ้นมาสำหรับโลกทุกวันนี้ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวอย่างเดียวเท่านั้น

คำถามที่สอง : (ตามลักษณะการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อเร็วๆนี้)ได้มีข้อถกเถียงอภิปรายกันมาก และช่วงนี้ก็มีความขัดแย้งกันอยู่ในประเทศกรีก(ผมอนุมานเอาว่า เวลานี้ยังมีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเกิดขึ้นในอีกหลายๆประเทศด้วย) ตลอดระยะเวลาทั้งหมดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ มันไม่เคยมีอภิมหาอำนาจทางด้านจริยธรรม หรือหลักปฏิบัติที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียวโดดๆ

จำนวนมากของนักวิเคราะห์ นักประวัติศาสตร์ นักการเมือง และนักวิชาการทั้งหลายต่างอ้างถึงอภิมหาอำนาจ, รัฐชาติ, และสถาบันของมนุษย์ต่างๆทั้งหมดว่า สนใจเพียงทำตัวของพวกมันให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น. กล่าวอีกนัยหนึ่ง พลังและอำนาจหน้าที่มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องคุณค่า, จริยธรรม, และความคิดเลย. พวกมันเพียงเกี่ยวข้องกับเรื่องของพลังที่เพิ่มขึ้น เงินทองที่มากขึ้น อิทธิพลที่เพิ่มพูนขยายออกไป และอำนาจหน้าที่ที่ใหญ่โตมโหราฬ. คุณเชื่อเช่นนั้นไหม? พวกเรามีตัวอย่างในประวัติศาสตร์สักตัวอย่างหรือไม่เกี่ยวกับจักรวรรดิ์ใดจักรวรรดิ์หนึ่ง, รัฐใดรัฐหนึ่ง, หรืออภิมหาอำนาจใด ซึ่งเกี่ยวพันกับโลกและพลโลกที่เหลือในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณค่าซึ่งมีอยู่ในใจบ้าง ?

Chomsky: ผมรู้สึกประหลาดใจจริงๆที่มันยังมีการโต้เถียงกันอยู่. รัฐต่างๆไม่ใช่ตัวแทนทางศีลธรรม พวกมันคือระบบของอำนาจ ซึ่งโต้ตอบกับการกระจายอำนาจภายใน. แต่อย่างไรก็ตาม ในทางตรงข้ามนั้นมนุษย์เป็นตัวแทนทางศีลธรรม และสามารถกำหนดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญต่อความรุนแรงของรัฐต่างๆของพวกเขาเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมต่างๆที่ค่อนข้างอิสระ. พวกเขาอาจล้มเหลวที่จะกระทำเช่นนั้นก็ได้; กล่าวในกรณีหนึ่ง พฤติกรรมระหว่างประเทศของเอเธนส์สมัยคลาสสิคไม่ค่อยน่ายินดีมากนัก และเราไม่ต้องพูดถึงตัวอย่างของประวัติศาสตร์สมัยใหม่เลย. แต่พวกเขาสามารถทำได้ และต้องทำบ่อยๆด้วย

แน่นอน ที่จริงแล้ว ทุกๆระบบอำนาจได้อธิบายตัวมันเองในฐานะที่มีมนุษยธรรมอย่างลึกซึ้ง และดำเนินรอยตามคุณค่าอันสูงส่ง และภารกิจแรกสุดของปัญญาชนชั้นหัวกระทิก็คือ ต้องนำพาหมู่คณะที่โห่ร้องไชโยทั้งหลายไป ดังที่พวกเขาทำแบบนี้เป็นปกติวิสัย. นั่นคือเรื่องราวอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งคงจะคุ้นเคยกันแล้ว และมันก็เป็นเช่นนั้นมาจนกระทั่งทุกวันนี้.

ผมมีหนังสืออยู่ 2 เล่มเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ซึ่งได้พิจารณาทบทวนว่า ทำไมบรรดาผู้คนที่มีความคิดอิสระ(คำอธิบายที่เหมาะสมของ Harold Rosenberg เกี่ยวกับปัญญาชนหัวกระทิ)จึงบรรลุบทบาทหน้าที่ของพวกเขาในอดีตที่ผ่านมาไม่กี่ปีนี้ได้, บางที มันจะสร้างบันทึกหน้าใหม่ให้กับความอัปยศและน่าอับอายของอาชีพปัญญาชน

คำถามที่สาม : เป็นที่ชัดเจนว่า บรรดานักการเมืองอเมริกันและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง(รintelligence officers)ที่ทรงสติปัญญาทั้งหลายต่างๆรู้อะไรมากมายที่เราไม่รู้เกี่ยวกับโศกนาฎกรรมดังกล่าว. ในหลายๆกรณี เราจะได้ยินข้อเท็จจริงซึ่งมีความจริงเพียงครึ่งเดียว และคำโกหกซึ่งๆหน้า. ผมได้อ่านบทความและหนังสือของคุณมากมายที่ว่า เมื่อนักการเมืองพูดโกหก เพียงในระยะเวลาสั้นๆ เขาก็จะเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ! (ผมขอโทษด้วยที่ไม่ได้อ้างถึงคุณลงไปอย่างชัดเจน)

คำถามของผมก็คือ ก). เราสามารถที่จะอธิบายท่าทีหรือทัศนคติเช่นนี้ได้อย่างไร? และ ข). คุณคิดไหมว่า นั่นคือคำโกหกคำใหญ่ที่สุด และเป็นข้อเท็จจริงเพียงครึ่งเดียวที่เราได้ยินมา จนกระทั่งถึงโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดนี้ ?

Chomsky: ผมไม่เห็นด้วย. ผมสงสัยว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯรู้อะไรมากมายที่คนอื่นไม่สามารถค้นพบ. นั่นคือกรณีทั่วๆไป ดังที่เราทั้งหลายได้เรียนรู้จากบันทึกมากมายทางด้านเอกสารที่คลายจากการเป็นเอกสารลับ(declassified documents) และจากบันทึกประวัติศาสตร์ด้วย. แต่เจ้าหน้าที่ทั่วไป และผู้คนทั้งหลายที่อยู่ในโอวาท ไม่ได้ถูกคาดหวังที่จะบอกความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขารู้. ตรงกันข้าม พวกเขาได้ถูกทึกทักให้ประกาศว่าพวกเราถูกตกเป็นเป้า เนื่องจากความผึ่งผายของพวกเรา: "พวกเขาเกลียดชังเรา เพราะว่าพวกเราเป็นผู้ชนะในระเบียบโลกใหม่ของลัทธิทุนนิยม, ปัจเจกนิยม, โลกวิสัยนิยม(secularism) และประชาธิปไตย ซึ่งควรจะเป็นบรรทัดฐานในทุกๆส่วนของโลก (respected liberal intellectual Ronald Steel, NY Times, Sept. 14).

ใครก็ตามที่ให้ความสนใจน้อยที่สุดต่อข้อเท็จจริงพวกนี้ต่างรู้ว่า เหตุผลหลายหลากนั้นมันแตกต่างไปเลยทีเดียว ไม่เพียงท่ามกลางเครือข่ายผู้ก่อการร้ายต่างๆที่ CIA ให้การช่วยเหลือในการจัดตั้ง, สนับสนุนทางด้านอาวุธ, ให้การฝึกฝน และอุปถัมภ์ค้ำชู เพื่อสงครามอันศักดิ์สิทธิ์ต่อชาวรัสเซีย แต่ยังรวมถึงท่ามกลางความมั่งคั่ง, สิทธิพิเศษ, และส่วนของประชาชนที่สนับสนุนอเมริกันด้วย.

วันเดียวกันนั้น นิตยสาร Wall Street Journal ได้ตีพิมพ์บทวิจารณ์อันหนึ่งเกี่ยวกับความคิดเห็นต่างๆของ"มุสลิมที่มั่งคั่งร่ำรวย"ในภูมิภาคนั้น เช่น นายธนาคาร, ผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพ, นักธุรกิจ. พวกเขารู้สึกตกใจและโกรธแค้นเกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯที่มีต่อรัฐเผด็จการที่เกรี้ยวกราด และอุปสรรคต่างๆที่วอชิงตันวางไว้กับการพัฒนาที่เป็นอิสระ และประชาธิปไตยทางการเมืองโดยนโยบายของมันเกี่ยวกับการให้ความสนับสนุนการปกครองที่กดขี่ขูดรีดทั้งหลาย"

อย่างไรก็ตาม ความเอาใจใส่แรกสุดของพวกเขาก็คือนโยบายฝาแฝดของวอชิงตัน เกี่ยวกับการสนับสนุนความโหดร้ายของอิสราเอล และการเข้ายึดครองทางทหารด้วยความเหี้ยมโหด รวมทั้งการทำลายล้างสังคมพลเรือนของอิรัค ด้วยการคร่าชีวิตผู้คนไปถึงหลายแสนคน ขณะที่ทำให้ Saddam Hussein เข้มแข็งขึ้น - ผู้ซึ่งพวกเขาต่างรู้ดีว่าได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากวอชิงตันและลอนดอนโดยผ่านช่วงระยะเวลาของความโหดร้ายเลวระยำของเขา, รวมทั้งการปล่อยแก๊สพิษต่อชาวเคิดและอื่นๆ

ท่ามกลางมวลชนที่ยากจนจำนวนมากและผู้คนที่ทุกข์ยาก ความรู้สึกในทำนองเดียวกันเป็นความขมขื่นอย่างเหลือล้น และพวกเขาไม่เคยพอใจเลยที่ได้เห็นความมั่งคั่งของภูมิภาคของเขาไหลหลั่งไปยังตะวันตก และชนชั้นหัวกระทิที่ปรับตัวเป็นตะวันตกกลุ่มเล็กๆและบรรดาผู้ปกครองที่โหดร้ายและทุจริตได้รับผลประโยชน์โดยการหนุนหลังด้วยอำนาจตะวันตก

Bin Laden เป็นผลของการกล่าวหาเดียวกันนี้ - ไม่กี่วันที่ผ่านมา อีกครั้ง ในการสัมภาษณ์อันยืดยาวของช่องสัญญานสถานีวิทยุอาหรับเสรี ซึ่งได้ถูกนำมาออกอากาศซ้ำโดย BBC. อย่างไรก็ตาม เขาและสมัครพรรคพวก มีเป้าหมายต่างๆที่แตกต่างออกไป: ในคำพูดของพวกเขา มันเป็นการบินโดยอิสลามเพื่อ"ย่ำยีน่านฟ้าต่างประเทศ"นอกดินแดนต่างๆของชาวมุสลิม เพื่อทดแทนระบอบการปกครองอันทุจริตที่เข้ามาครอบคลุม และปกป้องชาวมุสลิมที่ทำการต่อสู้เพื่อสิทธิอันชอบธรรมของพวกเขาในเชเชน, บอสเนีย, แคสชเมียร์, จีนตะวันตก, ฟิลิปปินส์, และที่อื่นๆ

ทั้งหมดนี้พวกเขามองมันในฐานะที่เป็นความต่อเนื่องของสงครามอันศักดิ์สิทธิ์ต่อชาวรัสเซียที่พวกเขาต่อสู้ด้วยโดยการสนับสนุนของ CIA, ซาอุดิอาราเบีย, และคนอื่นๆ ผู้ซึ่งพวกเขาพิจารณาว่าเป็นศัตรูทั้งหลายของอิสลาม

คำถามที่สี่ : เราเห็นว่าในทุกวันนี้คุณค่าของมนุษย์กำลังเสื่อมทรามลงอย่างรวดเร็ว คุณคิดไหมว่าปรากฎการณ์อันนี้จะยังคงเป็นอย่างนั้นไปเรื่อยๆ? รัฐบาลสหรัฐฯ(และคำพูดตะวันตกโดยทั่วไป)พิจารณาชีวิตมนุษย์ในฐานะที่เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าอย่างหนึ่งใช่ไหม?

Chomsky: อีกครั้งที่ผมไม่เห็นด้วย อะไรคือคุณค่าของชีวิตมนุษย์โดยตลอดประวัติศาสตร์ทั้งหมดของลัทธิจักรวรรดิ์นิยมยุโรป ? ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสหรัฐฯกำลังแผ่ขยายไปยังชายแดนประเทศของตน และมีชัยชนะเหนือ"ชนชาติที่อับโชคซึ่งเป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน พวกเราได้ทำลายพวกเขาลงอย่างสิ้นซากด้วยความโหดร้ายไร้ความปรานี และไร้สัจจะ" อันนี้เป็นการอ้างถึงคำพูดของประธานาธิบดี John Quincy Adams, ยาวนานหลังจากการให้ความช่วยเหลืออย่างมากมายต่ออุตสาหกิจและพาณิชยกรรม เขาได้หันกลับมารู้สึกเสียใจ แต่ก่อนหน้านั้นได้ตักตวงเอาผลประโยชน์อย่างน่าอับอายยิ่งกว่า

อะไรคือคุณค่าของชีวิตมนุษย์ เมื่อกษัตริย์ Leopold แห่งเบลเยี่ยมได้ฆ่าชาวคองโกไปถึง 10 ล้านคน(King Leopold of Belgium killed 10 million Congolese) ? หรือเมื่อประชากรหนึ่งในสามของเยอรมันนีได้ถูกฆ่าตายในสงครามคริสตศตวรรษที่ 17 โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงตัวอย่างอื่นๆอีกเมื่อไม่นานมานี้ อะไรคือคุณค่าของชีวิตมนุษย์ ? ตามข้อเท็จจริง เราสามารถย้อนกลับไปไกลได้ตามที่เราต้องการ ทุกๆคนต่างคุ้นเคย หรือควรจะเป็นเช่นนั้น กับการยกระดับของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในคัมภีร์ต่างๆที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของอารยธรรมตะวันตก

คำถามที่ห้า : มาถึงตอนนี้ เท่าที่มีการพุ่งเข้าชนตึกในแมนฮัตตันและตึกเพนตากอนดังที่เราสนใจกัน คุณตัดสินการรายงานข่าวเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมอันนี้โดยผู้สื่อข่าวอเมริกันอย่างไร ? คุณมีความคิดเห็นอย่างไรต่อคำอธิบายที่เสนอออกมาโดยสื่ออเมริกันจำนวนมาก ที่ว่า ผู้ก่อการร้ายโจมตีสหรัฐฯเพราะว่า พวกเขาเกลียดชังค่านิยมตะวันตก (เสรีภาพต่างๆของประชาชน, ความอดกลั้น, สวัสดิการ และ อื่นๆ ฯลฯ)

Chomsky: คำถามข้อที่สองเกี่ยวกับคำอธิบายนั้น เราสามารถเมินเฉยมันไปได้เลย มันเป็นการปกป้องตนเองที่ไร้สาระที่สุด และผู้ป้อนข้อมูลทั้งหลายเกี่ยวกับคำอธิบายนี้ แน่นอนรู้ดี, อย่างน้อยที่สุด ถ้าพวกเขามีความคุ้นเคยบางอย่างกับประวัติศาสตร์ปัจจุบัน รวมไปถึงความรู้เกี่ยวกับตะวันออกกลาง

โดยธรรมชาติแล้ว สิ่งเหล่านี้คือคำโกหกหลอกลวงที่ง่ายๆและสะดวก ซึ่งมันมารับใช้เพื่อบ่ายเบนความสนใจจากความไม่พอใจต่างๆที่แท้จริงออกไป มันได้รับการแสดงออกโดยรากฐานที่สำคัญต่างๆของการสนับสนุนตะวันตกส่วนใหญ่ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทราบดีกันอยู่ (in the words of the wall street journal article I quoted).

ในด้านของสื่อ เราต้องถามว่า พวกเขาเกี่ยวข้องกับคำถามต่างๆโดยพื้นฐานที่เกิดขึ้นกับกรณีของอาชญากรรมต่างๆอย่างไร เช่น: ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ? ควรโต้ตอบกับมันอย่างไร ? ทำไมมันจึงเกิดขึ้น ? อันที่จริงแล้ว ไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงคำถามต่างๆเหล่านี้เลย

การเรียกร้องของสันนิบาตอาหรับ, จีน, แม้กระทั่ง NATO ที่สหรัฐอเมริกาได้นำเสนอหลักฐานอันน่าเชื่อถือ ได้ถูกเมินเฉยหรือไม่พิจารณากันในฐานะที่เป็นความเหลวไหลไร้สาระ และในกรณีของทาลิบัน เป็นหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกระทำที่เป็นอาชญากรรมก็เช่นกัน. สหรัฐได้สร้างหนังสือปกขาวขึ้นมา ซึ่งบางทีจะได้รับการยอมรับโดยพันธมิตรต่างๆของตน แม้ว่าหลักฐานดังกล่าวแทบจะเป็นไปไม่ได้เอาเลยในการโน้มน้าวให้เชื่อตามมากกว่าที่มันเป็น

หลังจากการระเบิดของผู้ก่อการร้าย ในช่วงต้นๆก็ได้มีการอ้างเหตุผลถึงเครือข่ายผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ - ซึ่งเป็นไปได้มากที่จะถูกต้อง แต่การตัดสินต่างๆเช่นนั้นมันไม่มีหลักฐาน. ในส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งที่ควรจะทำนั้น โดยแท้จริงแล้ว มันไม่ได้มีการสนทนากันถึงวิถีทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ได้รับการดำเนินการไปตามหนทางที่ปฏิบัติกับนิคารากัว และประเทศอื่นๆ: เมื่อบรรดาผู้นำของเราเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรง พวกเราจะต้องปรบมือสรรเสริญให้กับการยึดมั่นในคุณธรรมและความกล้าหาญ. และที่เกี่ยวกับคำถามว่าทำไม นอกจากข้อยกเว้นไม่กี่ข้อดังที่ the wall street journal นำเสนอหลายๆครั้ง มันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากๆในกระแสหลัก

คำถามที่หก : คุณคิดอย่างไรกับ ก). ภาพฉากเหตุการณ์ที่จะดำเนินต่อไปข้างหน้าที่ดีที่สุด. ข). และที่เลวร้ายที่สุดเป็นอย่างไร. ค). ความเป็นไปได้มากที่สุดควรพัฒนาต่อไปอย่างไร ?

Chomsky: ปฏิกริยาที่เหมาะสมก็คือ "ดำเนินไปตามวิถีทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย": เหตุการณ์นิคารากัวที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น แทบจะไม่ได้รับการตระหนักถึงกันเลยว่า ผู้ก่อการร้ายสหรัฐได้โจมตีนิคารากัวอย่างไร มันสร้างความทุกข์ยากมากกว่าอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายนมากมายเท่าไหร่ อันนี้ไม่ได้นำมาครุ่นคิด ? และถ้าหากพิจารณาถึงอีกกรณีหนึ่ง อะไรคือวิถีทางที่ถูกต้องในการตอบโต้ของอังกฤษ สำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดโดยขบวนการ IRA ในกรุงลอนดอน ? ทางเลือกหนึ่งคือส่งหน่วย RAF (กองทัพอากาศอังกฤษ) ไปถล่มสถาบันทางการเงินต่างๆ, ซึ่งเป็นสถานที่ที่คล้ายๆกับ Boston ที่ซึ่งผมอาศัยอยู่. เป็นไปได้ว่า นั่นมันเป็นพฤติกรรมที่โง่เง่าที่สุด

ความเป็นไปได้อีกอันหนึ่งจะต้องพิจารณากันถึงก็คือ เบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงและความคับข้องใจ และพยายามหาวิธีแก้ไขมัน ขณะเดียวกันก็ดำเนินรอยตามหลักการทางกฎหมายเพื่อลงโทษอาชญากรรมต่างๆ หรือมาดูกันที่กรณีการวางระเบิดอาคารรัฐบาลใน Oklahoma City โดยทันใดนั้นได้มีการเรียกร้องให้ไปทิ้งระเบิดที่ตะวันออกกลางทันที และมันเป็นไปได้ที่จะมีการกระทำเช่นนั้น ถ้าความจริงที่เกี่ยวกับการเชื่อมโยงบางอย่างไม่ถูกค้นพบ

เมื่อผู้ทำผิดกฎหมายถูกพบว่าเป็นใครบางคน ที่เชื่อมโยงกับกองทหารอาสาสมัครฝ่ายขวาหัวรุนแรง(ultra-right militias) ไม่มีใครเรียกร้องให้กำจัด Texas, Montana, Idaho และที่อื่นๆซึ่งกองทหาอาสาสมัครฝ่ายขวาเหล่านี้ตั้งอยู่ทิ้งไปเลย. ตรงกันข้าม เมื่อผู้ทำผิดกฎหมายถูกค้นพบ และได้ถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดี ในบรรยากาศนั้น ปฏิกริยาอันนี้เป็นสิ่งที่มีเหตุผล มันเป็นความพยายามที่จะทำความเข้าใจความไม่พอใจต่างๆที่อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมดังกล่าว และมีการพูดถึงปัญหาต่างๆเพิ่มขึ้น

อาชญากรรมเกือบทุกเรื่อง - ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปล้นกันบนท้องถนน หรืออาชญากรรมที่โหดเหี้ยมทารุณต่างๆ - มักจะมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเสมอ และปกติแล้วพวกเราพบว่าบางกรณีของอาชญากรรมเหล่านี้เป็นเรื่องที่จริงจังและควรได้รับการพูดถึง. อย่างน้อยที่สุด มันเป็นวิถีทางที่เราควรดำเนินไปตามครรลอง ถ้าหากเรามีความห่วงใยต่อความถูกต้องและความยุติธรรม และหวังว่าจะลดความน่าจะเป็นเกี่ยวกับความโหดร้ายในกาลภายหน้ามากยิ่งกว่าจะเพิ่มเติมมันมากขึ้น. หลักการอย่างเดียวกันนี้ควรยึดถือกันโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราควรยึดถือสำหรับกรณีนี้ด้วย

ฉากที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ปฏิบัติการโจมตีขนานใหญ่ ซึ่งนั่นจะเข่นฆ่าผู้คนบริสุทธิ์ให้ล้มตายลงเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น การที่สหรัฐได้ส่งกองกำลังทหารของตนไปโจมตีอัฟกานิสถาน, ไม่ใช่ทาลิบันแต่เป็นผู้คนธรรมดาที่ตกเป็นเหยื่อ. นอกจากตัวอาชญากรรมเองแล้ว นั่นจะตอบสนองการสวดอ้อนวอนต่างๆของ Bin Laden ด้วย

บรรดาแกนนำที่มีความรู้เรื่องต่างประเทศ, ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในภูมิภาคนั้น, และเป็นไปได้ที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯกำลังให้คำแนะกับวอชิงตัน มันจะมีการใช้วิธีการปลุกระดมความโกรธแค้นสุดๆของผู้คนที่สิ้นหวังขึ้นมาในการอ้างถึงมูลเหตุน่ากลัวต่างๆ และเพิ่มเติมวัฏจักรของความรุนแรงให้ยังคงหมุนอยู่ต่อไป ด้วยผลลัพธ์เช่นว่านี้อาจเป็นความหายนะอันใหญ่หลวงเกิดขึ้นตามมา

แม้ว่า Bin Laden จะถูกฆ่า, โดยการโจมตีที่รุนแรงดังกล่าว ซึ่งเป็นไปได้ที่จะได้ผลเช่นนั้น แต่จะทำให้ เขากลายเป็นบุคคลที่ได้รับความเห็นอกเห็นใจและชื่นชม สุ้มเสียงของเขาจะดังก้องไปทั่วโลกที่ใช้ภาษาอาหรับ และตอนนี้มันกำลังเป็นเช่นนั้นอยู่ ด้วยเทปคาสเซ็ทที่แพ่รกระจายไปเป็นจำนวนพันๆตลับเรียบร้อยแล้วเวลานี้

คำถามที่เจ็ด : คุณเชื่อไหมว่า การกระทำของผู้ก่อการร้ายครั้งนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ?

Chomsky : เป็นไปไม่ได้ที่จะตอบ มันขึ้นอยู่อาชญากรรมต่างๆที่พวกเรากำหนดเรียกว่า"ลัทธิก่อการร้าย" และเรื่องของช่วงเวลาที่เราเลือกนำมาพูด

คำถามที่แปด : คุณคิดว่าอะไรคือแรงกระตุ้นบรรดาผู้ก่อการร้ายทั้งหลายที่กระทำอาชญากรรมครั้งนี้ ? ศัตรูคือตึก World Trade คู่นั้นในแมนฮัตตัน, และตึกเพนตากอน หรือในที่อื่นๆ ? สถานที่ใดคือศัตรูที่แท้จริง ?

Chomsky : ดังที่ผมเคยพูด เรามีเหตุผลทุกอย่างที่จะหยิบยกขึ้นมาเป็นคำอธิบายของพวกเขา และคำอธิบายของพวกเขาก็ชัดเจนมาก ดังการกระทำที่เกิดขึ้นเมื่อราว 20 ปีมาแล้ว ตอนที่กองกำลังอิสลามิคหัวรุนแรงซึ่งได้รับการจัดตั้งโดย CIA, อียิปต์, ซาอุดิอาราเบีย, ปากีสถาน และอื่นๆ พวกเขาได้ปฏิบัติการโจมตีขึ้นมาเป็นครั้งแรกต่อบรรดาพวกที่สร้างพวกเขาขึ้นมา, การลอบสังหารประธานาธิบดีซาดัทของอียิปต์, หนึ่งในผู้ที่มีความกระตือรือร้นที่สุดของเรื่องเหล่านี้

คำถามที่เก้า : คุณเชื่อว่าใครเป็นผู้ทำการในครั้งนี้ ? เป็น Osama bin Laden ใช่หรือไม่ ?

Chomsky : ผมสันนิษฐานว่า ต้นตอคือเครือข่ายต่างๆของการก่อการร้ายที่มีความสัมพันธ์อย่างหลวมๆกับ Bin Laden, แต่เราไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องโดยตรงของ Bin Laden; ผนวกกับข้อสันนิษฐานของผม, หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯได้ทำการตรวจสอบองค์กรต่างๆเหล่านี้อย่างใกล้ชิด และเข้าใจพวกนี้อย่างละเอียดจากแหล่งต้นตอของพวกเขาที่ปฏิบัติการแทรกซึมในอัฟกานิสถาน

คำถามที่สิบ : คุณเชื่อไหมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานี้จะเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ(ทั้งนโยบายภายในและนโยบายต่างประเทศ ?

Chomsky : นั่นเป็นสาระอันหนึ่งเกี่ยวกับการกระทำ ไม่ใช่จะมาคาดการณ์หรือทำนายกัน. สิ่งที่เกิดขึ้นในที่อื่นๆ, รวมถึงกรีกด้วย, มันสามารถทำให้เกิดนโยบายที่แตกต่างได้ค่อนข้างมาก

คำถามที่สิบเอ็ด : อะไรคือสิ่งที่คุณกลัวที่สุดว่ามันจะเกิดขึ้น เนื่องมาจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ?

Chomsky : ความกลัวต่างๆที่เลวร้ายที่สุด คือการพูดถึงฉากอนาคตที่เราวาดขึ้นที่เลวร้ายที่สุด อันนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หรือกระทั่งเป็นไปได้สูง, ผมสงสัยว่าอย่างนั้น

คำถามที่สิบสอง : คุณเห็นด้วยไหมกับการประเมินที่ว่า วันที่ 11 เดือนกันยายน 2001 โลกได้เปลี่ยนแปลงไป ?

Chomsky : ไม่น่าสงสัยเลย. ประวัติศาสตร์ของยุโรปสมัยใหม่และเชื้อสายชาวอเมริกันทางตอนเหนือของมัน เป็นหนึ่งในการปฏิบัติการอาชญากรรมที่น่าสะเทือนขวัญต่อคนอื่นๆ - หรือการฆ่ากันและกันอย่างทารุณ ดังเช่นในสงครามกลางเมืองอเมริกันหรือสงครามต่างๆของชาวยุโรป. อันนี้เป็นครั้งแรกที่ปืนได้ถูกเล็งไปในทิศทางตรงข้าม อย่างน้อยที่สุดในขนาดสัดส่วนที่มีนัยสำคัญบางอย่าง. คองโกไม่ได้โจมตีเบลเยี่ยม, อินเดียไม่ได้โจมตีอังกฤษ, แอลจีเรียไม่ได้โจมตีฝรั่งเศส, หรือเม็กซิโกหรือฟิลิปปินส์ไม่เคยโจมตีสหรัฐอเมริกา. ความโหดร้ายต่างๆของวันที่ 11 กันยายนเป็นเรื่องที่พิเศษ - น่าเศร้าใจ - แต่นั่นคือเป้าหมาย.

คำถามที่สิบสาม : คุณเชื่อไหมว่า เหตุการณ์เช่นว่านี้จะเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ(อย่างเช่นกรีก) และคาบสมุทรบอลข่าน ทั่วๆไป? พวกเราอ่านมาหลายครั้งว่า Bin Laden ได้มีความเชื่อมโยงกับ KLA และพวกกองโจรชนกลุ่มน้อยอัลบาเนียนต่างๆ. คุณคิดไหมว่า กรีก (และขยายไปถึงโอลิมปิคเกมส์ในปี ค.ศ.2004) ตกอยู่ในอันตรายเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้าย, การทำสงครามกองโจร และผลที่ตามมาโดยทั่วไป มันจะบีบบังคับให้รัฐบาลกรีกต้องเลื่อนหรือยกเลิกโอลิมปิคเกมส์ไป อันนี้เป็นไปได้ไหม?

Chomsky : นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่มันเป็นไปได้ที่จะถูกทำให้มีผลโดยแนวทางที่สหรัฐฯและพันธมิตรของเราปฏิบัติอยู่ตอนนี้. ถ้าเราสนองการสวดอ้อนวอนของ Bin Laden, หากเป็นเช่นนั้น ความเป็นไปได้ของความโหดร้ายต่อๆไปจะเพิ่มมากขึ้น

คำถามที่สิบสี่ : อิสลามเป็นภัยอันตรายต่ออารยธรรมตะวันตก หรือว่าวิถีชีวิตตะวันตกมันคุกคามต่อมนุษยชาติ ?

Chomsky : คำถามนี้มันค่อนข้างกว้างและคลุมเครือสำหรับผมที่จะตอบ. อย่างไรก็ตาม มันควรจะเป็นที่ชัดเจนว่า สหรัฐฯไม่ได้พิจารณาอิสลามในฐานะที่เป็นศัตรู อย่างที่สนทนากัน

โลกนี้เต็มไปด้วยประเทศมุสลิมมากมาย อินโดนีเซีย ก็เป็นประเทศอันเป็นที่โปรดปรานของสหรัฐฯ นับแต่พวกทหารได้เข้ายึดอำนาจในปี 1965, มีการฆ่าฟันกันอย่างทารุณครั้งหนึ่งซึ่ง CIA ได้นำไปเปรียบเทียบกับอาชญากรรมต่างๆของฮิตเลอร์, สตาลิน, และเหมา, และเหตุการณ์เหล่านี้ได้ล้วงเอาความรู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นสุขของตะวันตกออกมาจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ มันยังคงมีการให้การสนับสนุนการฆาตกรรมหมู่โดยอยู่ภายใต้การดูแล ดังที่ได้มีคนรวบรวมเรื่องเหล่านี้ไว้ว่าเป็นหนึ่งในบันทึกต่างๆเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนที่น่ากลัวมากที่สุดของคริสตศตวรรษที่ 20

รัฐมูลรากอิสลามสุดขั้ว(extreme Islamic fundamentalist state)ที่สุด นอกจากหน่อเนื้อทาลิบันแล้ว ก็มีซาอุดิอาราเบีย ลูกค้าของสหรัฐฯรายหนึ่งนับตั้งแต่ที่ได้ก่อกำเนิดขึ้นมา. ในคาบสมุทรบอลข่าน สำหรับเหตุผลต่างๆที่เราไม่สามารถวินิจฉัยได้ในที่นี้ สหรัฐฯเลือกที่จะให้การสนับสนุนชาวมุสลิมต่างๆต่อสู้กับพวกคริสเตียน

ในทศวรรษที่ 1980s, เป้าหมายสำคัญอันหนึ่งของสงครามก่อการร้ายของสหรัฐฯในอเมริกากลาง ได้ทำให้ผู้คนหลายแสนคนกลายเป็นศพและทำให้สี่ประเทศในภูมิภาคนั้นประสบกับความหายนะ, เป็นโบสถ์แคธอลิค, ซึ่งได้ทำการมอบบาปอันแสนทุกข์ทรมานให้กับคนยากจนที่รับเอามันมาในฐานะที่เป็นทางเลือกที่ดีกว่า". วิถีชีวิตแบบตะวันตก รวมถึงความหลากหลายของรากฐานต่างๆ สิ่งที่น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างสูงมากมาย, ได้ถูกรับเอามามากด้วยความกระตือรือร้นในโลกอิสลาม ซึ่งรวมถึงอาชญากรรมอันมากมายและแม้กระทั่งการคุกคามต่อการอยู่รอดของมนุษย์ด้วย

สำหรับ"อารยธรรมตะวันตก", บางทีเราอาจจะสนใจคำพูดต่างๆที่ให้เหตุผลเอาไว้โดยท่านมหาตมะ คานธี เมื่อท่านถูกถามว่า "ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับ"อารยธรรมตะวันตก ?": ท่านตอบว่า มันอาจจะเป็นไอเดียที่ดีอันหนึ่ง

 

กลับไปหน้า Home Page ของ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา I webboard

e-mail : midnightuniv(at)yahoo.com

หากประสบปัญหาการส่ง e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com

ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม

 

สำหรับสมาชิกที่ต้องการ download ข้อมูล อาจใช้วิธีการง่ายๆดังต่อไปนี้

1. ให้ทำ hyper text ข้อมูลทั้งหมด หรือ Ctrl + A
2. copy ข้อมูลด้วยคำสั่ง Ctrl + C
3. เปิด word ขึ้นมา (microsoft-word หรือ word pad)
4. Paste โดยใช้คำสั่ง Ctrl + V จะได้ข้อมูลมา ซึ่งยอหน้าเหมือนกับต้นฉบับทุกประการ