ข้อมูลข่าวสารจากองค์กรต่างๆ
ลำดับที่ 361 หัวเรื่อง
สารบัญข้อมูล ส่งมาจากองค์กรต่างๆ
สมเกียรติ
ตั้งนโม
และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ร่วมพิจารณาคัดเลือก
บริการเผยแพร่
เพื่อสาธารณประโยชน์
หากนักศึกษาหรือสมาชิก
ประสบปัญหาภาพและตัวหนังสือซ้อนกัน กรุณาลดขนาดของ font ลง จะแก้ปัญหาได้
บทความของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน สามารถคัดลอกไปใช้ประโยชน์ทางวิชาการได้ หากนำไปใช้ประโยชน์
กรุณาแจ้งให้ทราบที่
midnightuniv(at)yahoo.com
midnight2545(at)yahoo.com
แถลงข่าวองค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย
กรณีการลักลอบนำพันธุ์ข้าวหอมมะลิของไทย
ไปปลูกและวิจัยในต่างประเทศ
องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย
(BIOTHAI)
ตามที่มีรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับเกี่ยวกับการลักลอบนำพันธุ์ข้าวหอมมะลิของไทย ไปปลูกในประเทศเพื่อนบ้านนั้น องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย(BIOTHAI) ซึ่งได้ติดตามเกี่ยวกับกรณีการปกป้องข้าวหอมมะลิมานับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา เห็นว่า
1. นโยบายการส่งเสริมประเทศเพื่อนบ้านให้ปลูกข้าวและพืชเกษตรอื่นๆแล้วรับซื้อคืนกลับมานั้น เป็นนโยบายที่ถูกผลักดันมาโดยบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) มานานอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา โดยในการบรรยายครั้งหนึ่งของนายธนินทร์ เจียรวนนท์ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2540 นั้น มีเนื้อความว่า
"เราน่าจะไปส่งเสริมได้ทั้งบุญได้ทั้งคุณ ไปส่งเสริมเขาปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด ปลูกถั่วเหลือง ถ้าเราไม่ไปส่งเสริมวันหนึ่งคนอื่นๆก็จะไปส่งเสริม อย่านึกว่าเราไม่ส่งเสริมแล้วเขาจะอยู่กับที่ ไม่ใช่ เราน่าจะได้เปรียบต่อทุกประเทศ เขาจนเขาไม่มีเงิน แต่ผืนแผ่นดินเขาคืออุตสาหกรรม ถ้าเราเอาแทรกเตอร์ไปไถ เอาข้าวโพดไปหว่าน แม้อย่างขี้หมูขี้หมาได้ไม่มากก็น้อย เราต้องซื้อผลผลิตเขามา ไม่ใช่ว่ากลัวว่าซื้อแล้วจะทำให้ราคาตลาดในเมืองไทยตกต่ำ พวกเราฟังแล้วอาจจะงงว่าผมให้ราคาสินค้าเกษตรแพง แล้วทำไมส่งเสริมเพื่อนบ้าน แล้วไปซื้อของเขามา เราต้องซื้อมาเพื่อส่งออก เพื่อเพิ่มมูลค่า "
นโยบายของนายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่มีนโยบายรับซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านโดยปราศจากภาษีนำเข้าจึงเป็นการเอื้ออำนวยต่อบริษัทยักษ์ใหญ่การเกษตรของไทยที่ต้องการเอาพันธุ์พืชของไทยไปส่งเสริมในประเทศดังกล่าว แล้วรับซื้อมาเพื่อประโยชน์กับบริษัทของตน โดยหาได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับเกษตรกรภายในประเทศแต่ประการใดไม่
2. กรณีที่ นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์แบ่งรับแบ่งสู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่บริษัท ซี.พี.อาจมีโครงการวิจัยเรื่องข้าวในในต่างประเทศนั้น หากพบว่าเป็นการนำข้าวหอมมะลิไปวิจัยในประเทศเพื่อนบ้านจริง ก็หาทำให้รอดพ้นความผิดไปได้ไม่ เนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 บัญญัติให้ข้าวหอมมะลิเป็น "พันธุ์พืชพื้นเมืองทั่วไป" ซึ่งผู้ใดที่เก็บจัดหา รวมรวมพันธุ์พืชพื้นเมืองทั่วไปเพื่อทำการปรับปรุงพันธุ์ จะต้องได้รับคำอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และจะต้องทำสัญญาแบ่งปันผลประโยชน์ก่อนตามมาตรา 52 โดยหากไม่ดำเนินการ จะมีความผิดตามมาตรา 66 คือ จำคุก 2 ปี หรือปรับ 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทยเห็นว่า การให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมวิชาการเกษตรเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2547 ที่ว่า ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ กรณีที่มีการนำเอาพันธุ์ข้าวหอมมะลิไปปลูกในต่างประเทศนั้น ถือว่าเป็นคำให้สัมภาษณ์ที่หลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้ เนื่องจากอธิบดีกรมวิชาการเกษตรมีฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ แม้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดกับผู้ปลูกข้าวหอมมะลิในต่างประเทศได้ แต่อธิบดีกรมวิชาการเกษตรและรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร สามารถเอาผิดแก่ผู้ลักลอบนำข้าวหอมมะลิไปปลูกในต่างประเทศได้ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะเมินเฉยต่อการละเมิดกฎหมายและละเลยต่อการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศมิได้
4. โดยเหตุที่ผู้กระทำผิดตามบทบัญญัติในกฎหมายดังกล่าว อาจเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งการดำเนินการของอธิบดีกรมวิชาการเกษตรโดยลำพัง อาจไม่เพียงพอที่จะเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย จึงเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งรักษาการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนผู้ลักลอบนำข้าวหอมมะลิไปปลูกยังต่างประเทศเป็นการด่วน ทั้งนี้เพื่อหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ จะได้เป็นบรรทัดฐานสำหรับป้องปรามมิให้กลุ่มผลประโยชน์ใดๆนำข้าวหอมมะลิไปปลูกยังต่างประเทศอีก ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อชาวนาที่ปลูกข้าวหอมมะลิ และกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศโดยรวม
5. หากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่มีการดำเนินการใดๆเพื่อสอบสวนบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือบริษัทใดๆที่อาจเกี่ยวข้องกับการนำข้าวหอมมะลิไปปลูก หรือนำไปวิจัยในต่างประเทศซึ่งถือว่ามีความผิดตามมาตรา 52 ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ.2546 องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย จะประสานกับกลุ่มชาวนาที่ปลูกข้าวหอมมะลิ และองค์กรชาวนาที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ต่อไป
องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทยเห็นว่า ความขัดแย้งในเรื่องพันธุ์ข้าวในกรณีนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกี่ยวกับเพื่อนบ้าน รัฐมนตรีที่ที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตรควรดำเนินการสอบสวนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ในขอบเขตภายในประเทศก่อน โดยอาศัยกฎหมายภายในที่มีอยู่เป็นพื้นฐาน ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้าน และป้องกันมิให้เกิดความไม่เข้าใจระหว่างประชาชนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต
วันที่ 17 พฤษภาคม 2547
องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย(BIOTHAI)
801/8 งามวงศ์วาน 27 อ.เมือง จ.นนทบุรี โทรศัพท์ 02-9527953
www.biothai.netสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ 07-0368030
หมายเหตุ พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ.2542 มีมาตราที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ดังนี้
มาตรา 52 ผู้ใดเก็บ จัดหา หรือรวบรวมพันธุ์พืชพื้นเมืองทั่วไป พันธุ์พืชป่า หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของพันธุ์พืชดังกล่าว เพื่อการปรับ ปรุงพันธุ์ ศึกษาทดลอง หรือวิจัยเพื่อประโยชน์ในทางการค้า จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และทำข้อตกลงแบ่งปันผลประโยชน์ โดยให้นำเงินรายได้ตามข้อตกลงแบ่งปันผลประโยชน์ส่งเข้ากองทุนคุ้มครองพันธุ์พืช ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 64 ผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 33 หรือมาตรา 47 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ทรงสิทธิในพันธุ์พืชนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สารบัญข้อมูล : ส่งมาจากองค์กรต่างๆ
ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I ประวัติ ม.เที่ยงคืน
e-mail : midnightuniv(at)yahoo.com
หากประสบปัญหาการส่ง
e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com
ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม
สำหรับสมาชิกที่ต้องการ download ข้อมูล อาจใช้วิธีการง่ายๆดังต่อไปนี้
1. ให้ทำ hyper text ข้อมูลทั้งหมด
2. copy ข้อมูลด้วยคำสั่ง Ctrl + C
3. เปิด word ขึ้นมา (microsoft-word หรือ word pad)
4. Paste โดยใช้คำสั่ง Ctrl + V
จะได้ข้อมูลมา ซึ่งย่อหน้าเหมือนกับต้นฉบับทุกประการ
(กรณีตัวหนังสือสีจาง ให้เปลี่ยนสีเป็นสีเข้มในโปรแกรม Microsoft-word)
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
กลางวันเรามองเห็นอะไรได้ชัดเจน
แต่กลางคืนเราต้องอาศัยจินตนาการ
Website ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
สร้างขึ้นมาเพื่อผู้สนใจในการศึกษา
โดยไม่จำกัดคุณวุฒิ
สนใจสมัครเป็นสมาชิก
กรุณาคลิก member page
ส่วนผู้ที่ต้องการดูหัวข้อบทความ
ทั้งหมด ที่มีบริการอยู่ขณะนี้
กรุณาคลิกที่ contents page
หรือหน้าสารบัญ ซึ่งมีอยู่ 2 หน้า
และผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็น
หรือประกาศข่าว
กรุณาคลิกที่ปุ่ม webboard
หากต้องการติดต่อกับ
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ส่ง mail ตามที่อยู่ข้างล่างนี้
midnight2545(at)yahoo.com
midnightuniv(at)yahoo.com
ภาพรวมของเว็ปไซค์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ประกอบด้วย บทความทางวิชาการ บทความแปลและเรียบเรียง บทความถอดเทป บทความจากสมาชิกมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ข่าว และกระดานแสดงความคิดเห็น (สำหรับส่วนที่นักศึกษา และสมาชิกกำลังชมอยู่นี้ เป็นเว็ปเพจใหม่ ที่รวบรวมข่าวสารข้อมูลจากองค์กรต่างๆ ซึ่งส่งจดหมายมาถึงกองบรรณาธิการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เพื่อทราบ หากกองบรรณาธิการพิจารณาแล้วว่า จดหมายหรือข้อมูลใด เป็นประโยชน์ต่อสังคม จะนำมาเผยแพร่แพร่ต่อบนหน้านี้
ประวัติเกี่ยวกับ"หน้าสารบัญข้อมูล
จากองค์กรต่างๆ" เริ่มเปิดดำเนินการขึ้นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๔
มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๗ วัตถุประสงค์เพื่อ รวบรวมข่าวสารข้อมูล ที่มีสาระประโยชน์ต่อสังคม
และเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนในวงกว้าง หากสนใจส่งข่าวสารข้อมูล ส่งมาได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com
ข้อมูลหน้านี้
ได้รับจากองค์กรต่างๆซึ่งมีจดหมายมาถึง
กองบรรณาธิการ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
สนใจเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณชน
กรุณาส่งไปที่
midnightuniv(at)yahoo.com