เรื่องของไม้หลักปักขี้ควายอีกคำรบหนึ่ง
สมัชชาคนจน รวมตัวกัน ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2550 ออกแถลงการณ์
โจมตี คมช. รังแกคนจน แทรกแซงรัฐบาลให้ปิดเขื่อนปากมูน โดยแถลงการณ์ ระบุว่า
ด้วยในวันนี้ (17 มิ.ย.) เป็นวันเริ่มเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
29 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่การแทรกแซงโดย คมช.ได้ทำให้มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 12 มิถุนายน
2550 มีมติให้ปิดเขื่อนปากมูนถาวร เนื่องจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา
เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ รักษาระดับน้ำเขื่อนปากมูลไว้ที่ระดับ 106-108 ม.รทก.
ระดับน้ำที่ 108 ม.รทก.คือระดับเก็บกักน้ำปรกติของเขื่อนปากมูล และเมื่อเขื่อนปล่อยน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าระดับน้ำก็จะเหลืออยู่ที่ประมาณ
106 ม.รทก. เขื่อนปากมูลจึงไม่มีการเปิดในวันนี้
นั่นก็หมายความว่า เขื่อนปากมูลยังใช้งานตามปรกติ การรักษาระดับน้ำไว้ที่ระดับ 106-108 ม.รทก. เป็นเพียงการเลี่ยงบาลี นับแต่นี้ต่อไปหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างอื่น จะไม่มีการเปิดประตูน้ำเพื่อให้ปลาอพยพจากแม่น้ำโขงเข้าสู่แม่น้ำมูนอีกต่อไป พวกเราคนหาปลาในชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูน คือผู้รับชะตากรรมจากมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
หากย้อนไปในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้รับปากกับพวกเราว่า จะเปิดเขื่อนปากมูลตามมติคณะรัฐมนตรีเดิมที่มีอยู่ และต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี ยังมีมติยืนยันว่า ปีนี้เขื่อนปากมูนจะเริ่มระบายน้ำในวันที่ 7 มิถุนายน เพื่อเปิดประตูทั้ง 8 บานในวันที่ 17 มิถุนายน 2550 แต่เวลาเพียง 2 อาทิตย์ผ่านไป คณะรัฐมนตรีก็เปลี่ยนใจ ที่สำคัญเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ตัวแทนสมัชชาคนจนได้เปิดการเจรจากับนายกรัฐมนตรี กรณีเขื่อนปากมูลนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่ารัฐบาลตัดสินใจดีที่สุดแล้ว
พวกเราทราบว่ามติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ มาจากการกดดันของ คมช. ที่มอบหมายให้ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ผ่านกลไก กอ.รมน.ลงไปเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อรวบรวมรายชื่อชาวบ้านด้วยเล่ห์กลต่างๆ (รายละเอียดจะชี้แจงในโอกาสต่อไป) แล้วอ้างว่านี่คือการตัดสินใจด้วยประชามติและเสียงส่วนใหญ่มาผลักดันให้คณะรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ เป็นการแยกสลายและทำลายล้างสมัชชาคนจนด้วยมองว่า พวกเราเป็นภัยต่อความมั่นคง ทั้งที่พวกเราเป็นเพียงกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องสิทธิ์ และสำหรับกรณีเขื่อนปากมูล ก็มีรายงานทางวิชาการยืนยันว่า เขื่อนปากมูลล้มเหลวในทุกด้านทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
การเคลื่อนไหวมวลชนเป็นเพียงวิธีการเดียวที่จะสร้างความชอบธรรมให้กับการปิดเขื่อนปากมูล ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกันกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยให้สำนักงานสถิติแห่งชาติไปสำรวจความเห็นของชาวบ้านใน อ.โขงเจียม อ.สิรินธร อ.พิบูลมังสาหาร เพื่อทำให้พวกเรากลายเป็นคนกลุ่มน้อย และต้องจัดการตามความเห็นการของคนส่วนใหญ่ ต่างกันเพียงแค่รัฐบาลเก่ายอมเปิดทางให้พวกเราทำกิน 4 เดือน แต่ คมช.ปิดทางของพวกเราจนหมดสิ้น
สุดท้ายนี้ พวกเราขอยืนยันว่า การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากเขื่อนปากมูลนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลในยุคสมัยใดก็ตาม จะต้องยึดหลักแห่งเหตุผล ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ตัดสินจากจำนวนคนที่ระดมและรวบรวมมาโดยเล่ห์กลต่างๆ และตราบใดที่รัฐบาลยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรม พวกเราก็จะยังต่อสู้จนถึงที่สุด และจำเป็นต้องเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะคับขัน เพราะความเดือดร้อนจากการที่ คมช. ผลักดันให้ปิดเขื่อนปากมูล
การเคลื่อนไหวของพวกเราจึงเกิดจากภาวะการณ์ที่บีบบังคับและไม่ได้มีเจตนาซ่อนเร้นแอบแฝงในทางการเมืองแต่ประการใด แต่เพียงต้องการรักษาวิถีชีวิตและการฟื้นฟูทรัพยากรแม่น้ำมูน เพื่อความสงบสุขของคนในลุ่มน้ำมูน ที่ถูกทำลายลงด้วยการเปลี่ยนใจอย่างง่ายดายของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้
นำมาจาก : สมัชชาคนจน
ออกแถลงการณ์ ซัด คมช. 'รังแกคนจน'
ประชาไท - 18 มิ.ย.2550
สำหรับผู้ที่ต้องการสนับสนุนความเคลื่อนไหวทางการเมืองของสมัชชาคนจน
เพื่อรักษาวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ และฟื้นฟูทรัพยากรแม่น้ำมูล ด้วยการให้มีการนำมติคณะรัฐมนตรีวันที่
๒๙ พฤษภาคมมาใช้เพื่อเปิดประตูเขื่อนปากมูล สามารถลงชื่อสนับสนุนได้ที่ ... midnightuniv(at)gmail.com
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รายชื่อผู้สนับสนุนสมัชชาคนจน:
1. นิธิ เอียวศรีวงศ์ 2. จิตราภรณ์ ตันรัตนกุล 3. อรรถจักร สัตนานุรักษ์ 4. วารุณี
ภูริสินสิทธิ์ 5. สมเกียรติ ตั้งนโม 6. สายชล สัตยานุรักษ์ 7. สมชาย ปรีชาศิลปกุล
8. เกรียงศักดิ์ เชษฐพัฒนวนิช 9. ชัชวาล ปุญปัน 10. สุชาดา จักรพิสูทธิ์ 11.
ไพสิฐ พาณิชย์กุล 12. นัทมน คงเจริญ 13. พิกุล อิทธิหิรัญวงศ์ 14. วัลลภ แม่นยำ
15. อำพล วงศ์จำรัส 16. พรภิมล ตั้งชัยสิน 17. อรณิชา ตั้งนโม 18. ปราณี วงศ์จำรัส
19. นงเยาว์ เนาวรัตน์ 20. ชำนาญ จันทร์เรือง 21. ชาญกิจ คันฉ่อง 22. คมเนตร
เชษฐพัฒนวนิช 23. นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ 24. น.ส.กุลพร เปลี่ยนสมัย 25. ธงชัย
วินิจจะกูล 26. พรพิมล พลพร้อม 27. สลักจิต แก้วคำ 28. เอมอร สิงเทพ 29. สุรีย์
กฤษณะกานต์ 30. สำเนียง เค้าหัน 31. งามศุกร์ รัตนเสถียร 32. วีรบูรณ์ วิสารทสกุล
33. ปาริชาติ วลัยเสถียร, ภาควิชาการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
34. พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 35. อรรถสิทธิ์ บุญมาหา
36. วรรณสิริ รงรองเมือง 37. ลลิตา สุทัศน์วัฒนะ 38. ปริญญา นวลเปียน. 39 นายชำนาญ
ยานะ นักศึกษาปริญญาโท สาขาการแปล สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท
มหาวิทยาลัยมหิดล.
หากปิดเขื่อนปากมูนวันใด องค์กรประชาชนพร้อมฮือขับไล่ คมช.
รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ให้ "เปิดเขื่อนปากมูน ๔ เดือน" ตามมติ ครม. ของรัฐบาลเดิม แต่แล้วกลับมีการแทรกแซงของ คมช. โดยการชี้นำของพลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง และ กฟผ. ให้ออกมติคณะรัฐมนตรี ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๐ เพื่อเปลี่ยนมติ ครม. ที่เพิ่งตัดสินใจผ่านมาเพียง 2 สัปดาห์ ให้ "ปิดเขื่อนปากมูนถาวร" เพื่อกักน้ำในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเพื่อกักน้ำไว้เพื่อการเกษตรสำหรับเกษตรกรท้ายน้ำ
การที่ คมช. ที่มอบหมายให้ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ผ่านกลไก กอ.รมน. ซึ่งไปเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อรวบรวมรายชื่อชาวบ้านเพื่ออ้างว่าเป็นประชามติจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน จึงเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรี แบบพลิกลิ้น ด้วยหวังแยกสลายและทำลายล้างสมัชชาคนจนที่เป็นกลุ่มพลังมวลชนสำคัญในอีสาน เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีสานถือว่าเป็นมติอัปยศภายใต้การชี้นำของทหารที่กำลังหลงใหลมัวเมาในอำนาจ มิได้ใช้ความรู้ทางวิชาการเรื่องนิเวศน์แม่น้ำมูน การอพยพของปลาจากแม่น้ำโขงมาเป็นเหตุผล แต่ใช้เหตุผลทางการเมืองและการทหาร เพราะสถานการณ์ที่กำลังคุกรุ่นรัฐบาลทหารต้องการแยกขาวแยกดำแบ่งประชาชนออกเป็นแค่สองฝ่ายคือ "เอาทักษิณ หรือเอา คมช."
จากประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่ยาวนานของพี่น้องสมัชชาคนจน จากปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนต่าง ๆ ในอีสาน และกรณีปัญหาด้านทรัพยากรอื่น ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มพลังประชาชนที่ไม่ข้องเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการเมือง แต่มุ่งหวังเพียงแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตที่เกิดขึ้น ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติ ในน้ำ ในปลา ป่าไม้ แผ่นดิน และแร่ธาตุ เครือข่ายทรัพยากรฯ ขอยืนยันในอุดมการณ์ที่ชัดเจนคือ ก่อตั้งและดำรงอยู่เพื่อที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นกลุ่มชาวบ้านที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งรวมตัวกันเป็นองค์กรเครือข่ายที่สนับสนุนการทำงานเคลื่อนไหวร่วมกันมาตลอดเวลา
การที่ คมช. บังคับให้มีมติ ครม. ปิดเขื่อนปากมูลถาวรครั้งนี้ถือว่าเป็นการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของรัฐบาลทหาร ไม่ต่างไปจากวิธีการ "ใช้ปืนจ่อหัวชาวบ้าน" บังคับให้มีการปิดเขื่อนปากมูลถาวร ปิดชีพจรแห่งแม่น้ำมูล ปิดทางเดินของปลา และปล้นคร่าเอาเครื่องมือประมงที่เตรียมพร้อมสำหรับคืนสู่แม่น้ำของเหล่าชาวประมง เครือข่ายทรัพยากรฯ ไม่อาจทนนิ่งอยู่ได้ เพราะวันนี้เมื่อ คมช. ลงมือทำร้ายสมัชชาคนจน ก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลทหารพร้อมที่จะใช้ปืนชี้นำการแก้ปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศเช่นกัน จึงได้ออกแถลงการณ์เตือน คมช. หากไม่เร่งแก้ไขมติ ครม. ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๐ ที่กำลังจะบังคับให้ปิดเขื่อนปากมูลถาวร ฟางเส้นสุดท้ายระหว่างรัฐบาลทหารและเครือข่ายประชาชนอีสานก็ขาดลง เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศก็พร้อมจะลุกฮือขับไล่ คมช. ทันที
เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน
๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๐
ติดต่อประสานงาน ๐๘๑-๓๘๐๘๘๐๖
บิลล์ เกตส์: จงเป็นนักเคลื่อนไหวและประจัญกับความไม่เสมอภาคที่รุนแรง
เพื่อเป็นเกียรติให้กับการต่อสู้ของคุณเจริญ
วัดอักษร กระทั่งถูกลอบทำร้ายจนเสียชีวิต
ในปี ๒๕๕๐ คณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้จัดให้มีการแสดงปาฐกถาพร้อมมอบเหรียญเจริญวัดอักษร
ให้กับคุณ อรุณี ศรีโต นักต่อสู้เพื่อสวัสดิภาพด้านแรงงาน
วันเสาร์ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๐ : เริ่มงานตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ น
ณ ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ