นักศึกษา สมาชิก และผู้สนใจทุกท่าน หากประสงค์จะตรวจดูบทความอื่นๆที่เผยแพร่บนเว็ปไซค์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ท่านสามารถคลิกไปดูได้จากตรงนี้ ไปหน้าสารบัญ
ผลงานวิชาการชิ้นนี้ เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็ปไซต์ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ : ไม่สงวนสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์ทางวิชาการ
เว็ปไซต์นี้สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอุดมศึกษาได้โดยไม่จำกัดคุณวุฒิ
สำหรับผู้สนใจส่งบทความทางวิชาการเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน กรุณาส่งผลงานของท่านมายัง midarticle(at)yahoo.com หรือ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com
The author of this work hereby waives all claim of copyright (economic and moral) in this work and immediately places it in the public domain... [copyleft] กรุณานำบทความไปใช้ต่อโดยอ้างอิงแหล่งที่มาตามสมควร

The Midnight University

การต้อนรับประธานาธิบดีบุช"อย่างเผ็ดร้อน"ในอาร์เจนตินา
จักรวรรดิ์นิยมอเมริกากับการเจรจาในอาร์เจนตินา
ภัควดี วีระภาสพงษ์ : แปล
นักวิชาการอิสระ

หมายเหตุ
เรื่องราวเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศทวีปอเมริกา ๔-๖ พฤศจิกายน ๒๐๐๕
เรียบเรียงจาก
Ezequiel Adamovsky, "Bush in Argentina: Bringing Imperialism Back to Public Debate"
(November 05, 2005) ZNet http://www.zmag.org


ทางกองบรรณาธิการได้รวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของสารานุกรมมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
เพื่อใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการ

(บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
บทความฟรี มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ 744
เผยแพร่บนเว็ปไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘

(บทความทั้งหมดยาวประมาณ 3.5 หน้ากระดาษ A4)




การต้อนรับประธานาธิบดีบุช "อย่างเผ็ดร้อน" ในอาร์เจนตินา
การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศทวีปอเมริกา (The Summit of the Americas) เมื่อวันที่ 4-6 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่เมืองมาร์เดลปลาตา ประเทศอาร์เจนตินา เมืองตากอากาศชายฝั่งทะเลอันแสนสุขแห่งนี้ถูกกำหนดเป็นสถานที่ต้อนรับประมุขของประเทศในทวีปอเมริการวม 34 คน (ยกเว้นฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบาที่ไม่ได้รับเชิญ)

การประชุมสุดยอดครั้งนี้ ประธานาธิบดีบุชหวังว่าจะสามารถผลักดันการเจรจารอบใหม่ของเขตการค้าเสรีแห่งทวีปอเมริกา (FTAA หรือในภาษาสเปนคือ ALCA) ให้ลุล่วง แต่ประธานาธิบดีบุชต้องผิดหวัง ไม่เพียงแต่ความพยายามของเขาจะล้มเหลว การมาเหยียบบนแผ่นดินอาร์เจนตินา ยังทำให้เมืองตากอากาศแห่งนี้แปรสภาพกลายเป็นสนามรบระหว่างขบวนประท้วงกับตำรวจปราบจลาจล ทั้งเมืองคลุ้งไปด้วยแก๊สน้ำตาและยางรถยนต์ที่ถูกเผา

ประธานาธิบดีบุชรู้ตัวมาก่อนว่า เขาไม่เป็นที่ต้อนรับนักในอาร์เจนตินา ขบวนองครักษ์คุ้มกันของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงขนกันมาถึง 2000 นาย เขาพยายามใช้ประธานาธิบดีวิเซนเต ฟอกซ์ ของเม็กซิโก เป็นหุ่นเชิดเพื่อเป็นคนกลางเจรจากับผู้นำประเทศอื่น ๆ หลีกเลี่ยงที่จะจับมือหรือเผชิญหน้าตรง ๆ กับประธานาธิบดีอูโก ชาเวซแห่งเวเนซุเอลา และแม้ว่าประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร จะถูกกีดกันจากการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ประธานาธิบดีแห่งคิวบากลับมี "หัตถ์ของพระเจ้า" เสนอตัวมาประท้วงแทนอย่างนึกไม่ถึง

จอร์จ บุช ต้องเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามที่นำขบวนด้วยประธานาธิบดี, ว่าที่ประธานาธิบดี, สุดยอดนักฟุตบอล, นักดนตรี, เจ้าของรางวัลโนเบล และผู้ประท้วงอีกหลายหมื่นคน ที่พร้อมใจกันจัดกิจกรรมตลอดสัปดาห์ เพื่อเป็นเวทีคู่ขนานในนามของ "การประชุมสุดยอดของประชาชน"

แน่นอน ไฮไลท์ของการประท้วงอยู่ที่การมาถึงของรถไฟขบวน "ALBA express" (ALBA เป็นคำย่อของข้อเสนอเขตการค้าทางเลือกในทวีปอเมริกา ซึ่งประธานาธิบดีชาเวซเสนอเป็นคู่แข่งกับ ALCA) ในวันที่ 3 พฤศจิกายน บนรถไฟประกอบด้วยสุดยอดนักฟุตบอล ดีเอโก มาราโดนา, ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโบลิเวีย เอโว โมราเลส, นักร้องชาวคิวบา ซิลวิโอ โรดิเกซ พร้อมกับศิลปิน, นักเขียน, นักดนตรี, นักแสดงและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก 5 โบกี้ โดยมีเจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพชาวอาร์เจนตินา อดอลโฟ เปเรซ เอสกีวัล รอรับอยู่ที่สถานีรถไฟ

ดีเอโก มาราโดนา ผู้เป็นเสมือนเทพเจ้าในอาร์เจนตินา อาจเป็นความน่าประหลาดใจในการประท้วงครั้งนี้ เขามาพร้อมกับร่างผอมสะโอดสะองผิดหูผิดตาไปจากความอ้วนฉุจนต้องหามเข้าโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่ปีก่อน ชื่อเสียงของมาราโดนากำลังกลับมาโด่งดังอีกครั้งในอาร์เจนตินา แต่ไม่ใช่ในฐานะนักฟุตบอล เขากำลังอยู่บนเส้นทางอาชีพใหม่ของการเป็นพิธีกรรายการทอล์คโชว์ที่กำลังฮิตในประเทศบ้านเกิด รายการนี้เริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีนี้ โดยมีแขกรับเชิญคนแรกคือ เปเล่ แต่แขกรับเชิญคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาคือ ประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบา

มาราโดนาโคจรมาพบและกลายเป็นเพื่อนกับฟิเดล คาสโตรได้ ก็เพราะเขาเดินทางไปรักษาอาการติดโคเคนที่ประเทศคิวบา มาราโดนาประกาศว่า คาสโตรเป็นเสมือนเพื่อนและพ่อที่ช่วยชุบชีวิตใหม่ให้เขา "สำหรับผม เขา (คาสโตร) คือพระเจ้า" มาราโดนารักษาตัวอยู่ในคิวบานานถึง 4 ปี จนมีบ้านและไร่อยู่ที่นั่น เขาประกาศมาตั้งแต่ไปสัมภาษณ์คาสโตรแล้วว่า เขาจะเดินขบวนประท้วงประธานาธิบดีบุช เพราะ "บุชทำให้ผมอยากอ้วก" ครั้งนี้ดีเอโกไม่ได้ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เขาทำอย่างที่พูดไว้จริง ๆ

ขบวนคนดังทั้งหลายเคลื่อนตัวจากสถานีรถไฟเข้าสู่เมืองมาร์เดลปลาตา เพื่อสมทบกับกลุ่มแม่แห่งปลาซาเดมาโย (Mothers of Plaza de Mayo) กลุ่มสตรีนักเคลื่อนไหวที่เป็นตำนานและสัญลักษณ์ของการประท้วงความอยุติธรรมในอาร์เจนตินา กลุ่มสตรีวัยชรากลุ่มนี้เกิดมาจากการรวมตัวกันของแม่ที่ลุกขึ้นประท้วงรัฐบาลเผด็จการทหารในยุคมืดทมิฬที่สุดของทศวรรษ 1970 (จำเป็นต้องบอกอีกหรือไม่ว่า รัฐบาลเผด็จการนี้ได้รับการหนุนหลังจากมหาอำนาจประเทศใด?)

เมื่อคนหนุ่มสาวที่ตื่นตัวทางการเมืองจำนวนมากถูก "อุ้ม" หายไป ภัยสยองครอบคลุมทั้งประเทศจนไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วแม่ผู้เจ็บปวดกลุ่มหนึ่งก็พร้อมใจกันโพกผ้าคลุมศีรษะสีขาว ถือรูปลูกชายลูกสาวที่หายไปมานั่งประท้วงที่ปลาซาเดมาโยหน้าทำเนียบรัฐบาล ความกล้าหาญของพวกนางนี่เองที่จุดประกายให้ชาวอาร์เจนตินากลับมาต่อสู้ทางการเมืองอีกครั้ง

แต่หากขบวนของมาราโดนาเป็นริ้วธงสีสันของการประท้วง กระสุนปืนใหญ่ที่แท้จริงย่อมเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากประธานาธิบดีอูโก ชาเวซแห่งเวเนซุเอลา ศัตรูตัวฉกาจของบุชคนนี้กล่าวปราศรัยสองชั่วโมงในสนามกีฬาแห่งชาติ ที่ประดับด้วยรูปของเช เกวาราและนักต่อสู้เพื่อเอกราชคนอื่น ๆ ของละตินอเมริกา อัดแน่นไปด้วยประชาชนหลายหมื่นคน คำปราศรัยของเขาถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ประณาม "ลัทธิจักรวรรดินิยม", "เสรีนิยมใหม่", "ทุนนิยม" และการครอบงำของสหรัฐฯ

แต่ชาเวซไม่ได้หยุดแค่นั้น เขาอ้างถึงมาร์กซ์, เหมาเจ๋อตง, เช เกวารา, โรซ่า ลักเซมเบิร์ก และแน่นอน ย่อมขาดคาสโตรไปไม่ได้ ชาเวซเรียกร้องหาสังคมยุคหลังทุนนิยม ซึ่งเขาเรียกว่า "สังคมนิยมแห่งศตวรรษที่ 21" มาราโดนาพร้อมกับทุก ๆ คนปรบมือโห่ร้องจนสนามกีฬาแทบถล่ม

ตลอดการประชุมสุดยอด มีขบวนประท้วงตามท้องถนนในเมืองมาร์เดลปลาตา ในบูเอโนสไอเรส ในเมืองใหญ่น้อยของอาร์เจนตินากว่า 200 เมือง แม้กระทั่งสหภาพครูก็ประท้วงด้วยการหยุดการสอน การประท้วงยังลามไปถึงเมืองหลวงของอุรุกวัย จนมีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ อีกทั้งมีรายงานการประท้วงในบราซิล ในเวเนซุเอลา และในเมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ ในละตินอเมริกา

การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2005 โดยหนังสือพิมพ์ Clarin หนังสือพิมพ์กระแสหลักฉบับสำคัญของอาร์เจนตินา มีผลลัพธ์ออกมาว่า มีประชาชนเพียง 9% เท่านั้นที่เชื่อว่า การประชุมสุดยอดแบบนี้จะให้ผลดีต่อประชาชน ในด้านความนิยมต่อตัวบุคคลนั้น อูโก ชาเวซได้คะแนน "ภาพพจน์เชิงบวก" ถึง 38% ในขณะที่จอร์จ บุชได้ไม่ถึง 5% หนังสือพิมพ์ถึงกับกล่าวว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมแบบใหม่

ภาพลบของรัฐบาลอเมริกันในอาร์เจนตินากำลังกลายเป็นสามัญสำนึกของคนทั่วไป แม้แต่สื่อมวลชนกระแสหลักที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ก็ยังแสดงความรู้สึกแบบนี้เหมือนเป็นเรื่องปรกติธรรมดา ไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องอธิบายด้วยซ้ำ

สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังและโกรธแค้นรัฐบาลสหรัฐฯ ในหมู่ประชาชนละตินอเมริกา ก็คือนโยบายที่มุ่งตอบสนองผลประโยชน์ของบรรษัทข้ามชาติ และนายทุนการเงินที่คอยหนุนหลังประธานาธิบดีอย่างจอร์จ บุช การรุกรานอิรักก็เป็นประเด็นหนึ่งที่แสดงถึงการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ มุ่งแต่จะเข้าควบคุมและครอบครองทรัพยากรของชนชาติอื่น และส่งเสริมระบบทุนนิยมเสรีนิยมใหม่อย่างไม่สนใจไยดีต่อประชาชน

อาร์เจนตินาและละตินอเมริกามีบทเรียนเจ็บปวดจาก "การค้าเสรี" มาไม่น้อย เพราะภูมิภาคนี้มักตกเป็นหนูทดลองแก่นโยบายใหม่ ๆ ของวอชิงตัน ในยุคทศวรรษ 1990 อาร์เจนตินาเป็นสนามทดลองของวอชิงตันและไอเอ็มเอฟ ทั้งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ตัดลดงบประมาณและสวัสดิการด้านสังคม เปิดเสรีแก่เงินทุนต่างชาติ นโยบายเหล่านี้สร้างฟองสบู่ขึ้นมาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แล้วแตกออกเป็นวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม กลายเป็นบาดแผลที่ยังเรื้อรังมาจนถึงทุกวันนี้

การประชุมสุดยอดครั้งนี้ สหรัฐฯ มองไม่เห็นลู่ทางสดใสเลยที่จะผลักดัน FTAA ให้ก้าวไปข้างหน้า เขตการค้าเสรีทวีปอเมริกาที่รัฐบาลบุชใฝ่ฝันหา ถูกขัดขวางจากประเทศขนาดใหญ่ในทวีปนี้ โดยเฉพาะประเทศสมาชิกตลาดร่วม Mercosur ที่ประกอบด้วยบราซิล, อาร์เจนตินา, อุรุกวัย, ปารากวัยและเวนซุเอลา

แม้แต่รัฐบาลเจ้าภาพจัดการประชุม กล่าวคือประธานาธิบดีเนสเตอร์ เคิร์ชเนอร์แห่งอาร์เจนตินา ก็ดูเหมือนจะแอบสนับสนุนการประท้วงของประชาชนอยู่กลาย ๆ อย่างน้อยก็มุ่งหวังที่จะใช้การประท้วงนี้เป็นแรงกดดันให้วอชิงตันโอนอ่อนในทางที่เป็นประโยชน์ต่อการเจรจาของตน เคิร์ชเนอร์ปล่อยให้สมาชิกพรรคบางคนเข้าร่วมในการประท้วงทั้งบนท้องถนนและในสนามกีฬา

แม้แต่ในคำปราศรัยเปิดการประชุม เคิร์ชเนอร์ก็ยังพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ไอเอ็มเอฟและสถาบันการเงินระหว่างประเทศอื่น ๆ รวมทั้งฉันทามติวอชิงตัน ต้อง "แสดงความรับผิดชอบ" ต่อ "โศกนาฏกรรม" ที่เกิดจากการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในอาร์เจนตินาและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค เคิร์ชเนอร์ยังเจาะจงวิจารณ์ไอเอ็มเอฟที่พยายามบังคับใช้มาตรการแบบเดิม ๆ ต่ออาร์เจนตินาอีกในขณะนี้ เคิร์ชเนอร์จึงพยายามเจรจากับรัฐบาลบุช เพื่อให้บุชช่วยสนับสนุนการผ่อนคลายเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟ โดยแลกกับการเปิดเจรจา FTAA รอบใหม่ แต่สัญญาณทุกอย่างบ่งบอกว่า การเจรจาไม่ประสบความสำเร็จหรือมีความคืบหน้าใด ๆ เลย

รัฐบาลอาร์เจนตินาและประเทศในอเมริกาใต้อื่น ๆ กำลังเผชิญกับทางสองแพร่ง ในด้านหนึ่ง พวกเขาถูกกดดันจากวอชิงตันและองค์กรการเงินระหว่างประเทศ กับอีกด้านหนึ่งคือขบวนการประชาชนที่พร้อมจะลุกฮือยิ่งขึ้นทุกที ๆ เส้นทางของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้จะไปทางไหน คงต้องติดตามกันต่อไป

ภัควดี วีระภาสพงษ์
เรียบเรียงจาก
Ezequiel Adamovsky, "Bush in Argentina: Bringing Imperialism Back to Public Debate"
(November 05, 2005) ZNet http://www.zmag.org


 




บทความที่นำเสนอก่อนหน้านี้ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
หากนักศึกษาและสมาชิกท่านใตสนใจ
สามารถคลิกไปอ่านได้จากที่นี่...คลิกที่ภาพ

 

สารบัญข้อมูล : ส่งมาจากองค์กรต่างๆ

ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I
สารบัญเนื้อหา 3
I สารบัญเนื้อหา 4
ประวัติ ม.เที่ยงคืน

สารานุกรมลัทธิหลังสมัยใหม่และความรู้เกี่ยวเนื่อง

webboard(1) I webboard(2)

e-mail : midnightuniv(at)yahoo.com

หากประสบปัญหาการส่ง e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com

ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม

 

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกำลังจัดทำบทความที่เผยแพร่บนเว็ปไซคทั้งหมด กว่า 700 เรื่อง หนากว่า 10000 หน้า
ในรูปของ CD-ROM เพื่อบริการให้กับสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านในราคา 150 บาท(รวมค่าส่ง)
(เริ่มปรับราคาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548)
เพื่อสะดวกสำหรับสมาชิกในการค้นคว้า
สนใจสั่งซื้อได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ
midnight2545(at)yahoo.com

 

สมเกียรติ ตั้งนโม และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(บรรณาธิการเว็ปไซค์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
หากสมาชิก ผู้สนใจ และองค์กรใด ประสงค์จะสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชุมชน
และสังคมไทยสามารถให้การสนับสนุนได้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในนาม สมเกียรติ ตั้งนโม
หมายเลขบัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารกรุงไทยฯ สำนักงานถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หรือติดต่อมาที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com

 

 

 

H
ภาพประกอบดัดแปลงเพื่อใช้ประกอบบทความฟรีสำหรับนักศึกษา จัดทำโดยมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เพื่อให้ทุกคนที่สนใจศึกษาสามารถ เข้าถึงอุดมศึกษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น
ขอขอบคุณ www.thaiis.com ที่ให้ใช้พื้นที่ฟรี

Free Documentation License
Copyleft : 2005, 2006, 2007
Everyone is permitted to copy and distribute verbatim copies
of this license document, but changing it is not allowed.

ลิขซ้าย 2548, 2549, 2550 : สมเกียรติ ตั้งนโม
ผู้ที่นำข้อมูลวิชาการฟรีของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ไปใช้ประโยชน์ทางวิชาการ เผยแพร่ หรืออ้างอิง โดยต้องไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ได้รับความยินยอมจากผู้เรียบเรียง สำหรับการนำไปใช้ประโยชน์ตามที่ระบุไว้ กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาตามสมควร โดยกรุณาระบุถึงเว็ปไซต์ และ URL มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน www.midnightuniv.org

 

R
related topic
181148
release date
คลิกไปหน้าสารบัญ(1)
คลิกไปหน้าสารบัญ
(2)
คลิกไปหน้าสารบัญ(3)
คลิกไปหน้าสารบัญ(4)
เพื่อดูบทความใหม่สุด
เว็ปไซต์เผยแพร่ความรู้
เพื่อสาธารณประโยชน์

หากนักศึกษาหรือสมาชิก ประสบปัญหาภาพและตัวหนังสือซ้อนกัน กรุณาลด text size ของ font ลง
จะช่วยแก้ปัญหาได้

อุดมศึกษาบนเว็ปไซต์ เพียงคลิกก็พลิกผันความรู้ ทำให้เข้าใจและเรียนรู้โลกมากขึ้น
สนใจค้นหาความรู้ในสารานุกรมมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน คลิกที่แบนเนอร์สีน้ำเงิน
สนใจเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน คลิกที่แบนเนอร์สีแดง