สหรัฐอเมริกามองว่า การปล่อยให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นระบบเปิดนั้นจะทำให้ประเทศทั้งหลายขาดเอกภาพ และเท่ากับเปิดช่องให้พลังคอมมิวนิสต์เข้าแทรกแซงได้โดยง่าย ดังนั้นสหรัฐอเมริกาจึงสนับสนุนให้เหล่าอำนาจนิยมพากันยึดอำนาจ สหรัฐฯ ได้เลือกสนับสนุนเหล่าเผด็จการทหารเช่น จอมพลสฤษฎิ์ ธนะรัชต์ ในประเทศไทย ซูฮาโต้ในอินโดเนเซีย มาร์กอส ในฟิลิปปินส์ ยึดอำนาจจากรัฐบาลประชาธิปไตย โดยมุ่งหวังจะใช้อำนาจเผด็จการสร้างเอกภาพขึ้น ทั้งนี้เพื่อจะได้เกิดพลังในการต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์เสียแต่ต้นลม
อย่างไรก็ตาม คำอธิบายเพียงเท่านี้ อาจไม่เพียงพอต่อการอธิบายพลวัตรทางการเมืองภายหลังเอกราชของภูมิภาคนี้
James Hutton ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในคริสศตวรรษที่
18
และได้รับการเรียกขานว่า บิดาแห่งธรณีวิทยา
เขาเป็นคนแรกที่มองเห็นว่าโลกนั้นมีอายุเก่าแก่กว่าประวัติศาสตร์ของมนุษย์;
และฉุกคิดขึ้นมาถึงความเป็นไปได้ที่ว่า
โลกเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอย ู่และควรที่จะถูกศึกษาโดยศาสตร์ทางด้านสรีรวิทยา.
วิทยาศาสตร์ของ James Hutton เป็นทั้งคตินิยมลดทอนและเป็นองค์รวม
(บางส่วนจากบทความเรื่องนี้)
(เตรียมพบกับบทความใหม่นี้ในราวปลายเดือนกรกฎาคมนี้)
บทความถอดเทปจากชั้นเรียนมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
เรื่อง "ภิกษุณี คติหรืออคติ" (ช่วงสนทนากันในชั้นเรียน)
ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเนื้อหาของการสนทนาน่าสนใจมาก และเต็มไปด้วยความรู้อย่างกว้างขวาง
สำหรับบทความนี้ ทุกท่านจะได้ทราบถึง ความรู้เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ของอินเดีย
เช่น
การนับถือเทพเจ้าบนฟ้าที่เป็นผู้ชายของชาวอารยัน และการนับถือเทพเจ้าบนดินที่เป็นผู้หญิงของชาวฑราวิท(ดราวิเดียน)
อันเป็นที่มาของการกดขี่ทางเพศต่อมาในศาสนาพราหมณ์
นอกจากนี้ทุกท่านจะได้ได้รับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการแบ่งแยกวรรณะและการไม่กินเนื้อสัตว์ของชาวอารยันว่ามีที่มาอย่างไร,
ทำไมชาวอารยันจึงต้องมุ่งสู่ทิศตะวันออก และเครื่องหมายสวัสดิกะของชาวอารยัน
ในส่วนของเนื้อหาเรื่อง
"ภิกษุณี คติหรืออคติ"(ช่วงที่สองนี้)
ท่านจะได้ทราบถึงสังคมชาวพุทธเป็นสังคมที่ไม่ยกเอากรณีเพศมาเป็นเครื่องตัดรอนโอกาสหรือตัดรอนสิทธิ์ของคน
ซึ่งเป็นเรื่องที่ประพฤติกันมาแล้วกว่า 2500 ปี.
นอกจากนี้ยังมีการวิจารณ์ถึงคณะสงฆ์ไทยว่า เป็นคณะสงฆ์ที่ถือเคร่งในสิ่งที่เรียกว่าบทบัญญัติตามลายลักษณ์อักษร
นั่นก็คือ หมายความว่าคณะสงฆ์ไทยชอบอ่านพระวินัยปิฎกเป็นข้อๆ แล้วก็ยกขึ้นมาเป็นข้ออ้าง
ซึ่งพระวินัยจริงๆแล้ว ต้องมองให้เป็นชุดเป็นระบบของการประพฤติพรหมจรรย์
(หากนักศึกษา สมาชิก และผอ่านู้สนใจในเรื่องเหล่านี้ โปรดคลิกเข้าไปอ่านได้ที่แบนเนอร์)
ผมอยากจะพูดถึงเรื่องชาตินิยมที่ผมคิดว่า
มันมีรากอยู่ในเมืองไทย แล้วมันเป็นชาตินิยมที่ผมชอบ. ดีหรือไม่ดีเถียงกันได้
แต่ชาตินิยมแบบนี้ผมชอบ ถ้ายี่ห้อนี้ ผมเอา. ผมได้แบ่งเรื่องที่จะคุยในวันนี้เป็น
3 ประเด็นใหญ่ๆ
ประเด็นแรก "จุดกำเนิดความคิดเรื่องชาติไทย" แบบที่ผมชอบ ซึ่งผมคิดว่าเกิดขึ้นมาเมื่อ
พ.ศ.2475 แล้วก็เป็นจุดกำเนิดของชาตินิยมที่เป็นประชาธิปไตย.
ประเด็นถัดไป "ความคิดเกี่ยวกับชาติที่ต้องการให้ชาติเป็นประชาธิปไตย"
ประเด็นที่สาม โลกาภิวัตนกับความคิดเรื่องชาตินิยมที่เป็นประชาธิปไตย
(หากสนใจเรื่องข้างต้นนี้ กรุณาคลิกเข้าไปอ่านได้ที่แบนเนอร์)