นักศึกษา สมาชิก และผู้สนใจทุกท่าน หากประสงค์จะตรวจดูบทความอื่นๆที่เผยแพร่บนเว็ปไซค์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ท่านสามารถคลิกไปดูได้จากตรงนี้ ไปหน้าสารบัญ



The Midnight University

การเมืองฐานประชาชน
คำสั่งสอนพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย
พิภพ อุดมอิทธิพงศ์ : แปล
นักวิชาการและนักแปลอิสระ

บทความชิ้นนี้ กองบรรณาธิการได้รับมาจากผู้แปล
และได้รับอนุญาตให้เผยแพร่เพื่อประโยชน์สาธารณะ
หมายเหตุ : บทความชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งซึ่งนำมาจากหนังสือเรื่อง
รั้วกับหน้าต่าง เขียนโดย นาโอมี ไคลน์
เรื่องราวของการต่อสู้ของประชาชนทั่วโลกกับอำนาจทุนข้ามชาติขนาดใหญ่ในยุคโลกาภิวัตน์
สำหรับในหน้าเว็ปเพจนี้นำมาจากหัวข้อเรื่อง

ข้อจำกัดของพรรคการเมือง
ก้าวกระโดดจากการประท้วงสู่อำนาจ ต้องสร้างขึ้นจากฐานเบื้องล่าง

(บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ 786
เผยแพร่บนเว็ปไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๘
(บทความทั้งหมดยาวประมาณ 6 หน้ากระดาษ A4)



ข้อจำกัดของพรรคการเมือง
ก้าวกระโดดจากการประท้วงสู่อำนาจ ต้องสร้างขึ้นจากฐานเบื้องล่าง

ธันวาคม 2543

ดิฉันไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และไม่เคยเข้าร่วมประชุมพรรค ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว หลังจากถูกลากถูลู่ถูกังไปจนถึงคูหาเลือกตั้ง ดิฉันเกิดอาการเจ็บท้องอย่างหนัก เจ็บยิ่งกว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ปวดท้องเพราะกินบัตรเลือกตั้งลงไปเสียอีก แล้วทำไมดิฉันจึงเห็นด้วยกับความจำเป็นที่จะต้องมีพันธมิตรทางการเมืองใหม่ เพื่อสร้างเอกภาพให้กับกลุ่มพลังฝ่ายก้าวหน้าของประเทศแคนาดา ถ้าไม่ใช่พรรคการเมืองใหม่ล่ะ

มันเป็นข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นในทุกประเทศที่พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายอยู่ในภาวะยอบแยบ ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวกลับมีบทบาทมากขึ้น ตั้งแต่ประเทศอาร์เจนตินาถึงอิตาลี ไม่เว้นแม้แต่แคนาดา สิ่งที่ชัดเจนคือพรรคฝ่ายซ้ายในปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิกพรรคประชาธิปไตยใหม่ (พรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยของแคนาดา) ที่อ่อนแอและไร้ประสิทธิภาพ และการประท้วงตามท้องถนนอย่างไม่รู้จบสิ้น ซึ่งดูจะเป็นสูตรของการต่อสู้ราวกับคนบ้าคลั่ง เพื่อไม่ให้สิ่งต่าง ๆ เลวร้ายลงไปกว่านี้ ซึ่งแค่นี้ก็เลวร้ายมากพออยู่แล้ว

ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นกระแสการจัดตั้งทางการเมือง และการประท้วงอย่างดุเดือด นักศึกษาปิดล้อมที่ประชุมการค้า ซึ่งนักการเมืองกำลังเจรจาต่อรองอนาคตของพวกเขา ตามชุมชนพื้นถิ่นตั้งแต่เกาะแวนคูเวอร์ไปจนถึงเมืองเบิร์นท์เชิร์ช, นิวบรันสวิค มีแรงสนับสนุนมากขึ้นเพื่อเรียกร้องสิทธิการบริหารป่าไม้และแหล่งประมงกลับคืนมา ประชาชนเบื่อหน่ายที่จะอดทนรอให้รัฐบาลกลางในกรุงออตตาวายอมคืนสิทธิมาแต่โดยดี ทั้ง ๆ ที่ศาลได้ตัดสินให้คืนสิทธิดังกล่าวมาแล้ว. ที่กรุงโตรอนโต กลุ่มพันธมิตรออนตาริโอเพื่อต่อต้านความยากจน ได้เข้ายึดครองตึกอาคารและเรียกร้องสิทธิในการมีที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสิทธิของชาวแคนาดาทั้งมวล

การจัดตั้งอย่างเป็นระบบและอย่างถอนรากถอนโคนเกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่การเปลี่ยนให้กลุ่มพลังเหล่านี้เป็นกลุ่มพลังทางการเมืองอย่างเป็นระบบจำเป็นจะต้องใช้ "การประสานงาน" ที่ดีกว่าการประสานงานโดยนักเคลื่อนไหวแบบเก่า ๆ เราต้องมีการเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง และจำแนกฐานเสียงซึ่งเป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากแม่แบบเศรษฐกิจที่เป็นอยู่อย่างเป็นระบบ และเป็นกลุ่มที่กำลังจัดตั้งเพื่อต่อต้านแม่แบบเศรษฐกิจดังกล่าวอย่างเข้มแข็งที่สุดด้วย จากนั้นเราจึงเริ่มสร้างฐานการเมืองจากฐานเสียงนั้นขึ้นมา

ดิฉันคิดว่าวิสัยทัศน์เช่นนี้ไม่ค่อยคล้ายคลึงกับแนวนโยบายการเมืองของพรรคประชาธิปไตยใหม่สักเท่าไร ถ้าเรามีโอกาสเปิดใจรับฟังประชาชนชาวแคนาดาที่ถูกเอาเปรียบจากระบบเศรษฐกิจและสังคมมากที่สุด คุณจะได้สัมผัสกับแนวคิดซึ่งพวกฝ่ายซ้ายกระแสหลักไม่เคยนำเสนอมาก่อนเลย นั่นคือความไม่ไว้วางใจอย่างลึกซึ้งต่อรัฐ ความไม่ไว้วางใจเช่นนี้เป็นผลมาจากประสบการณ์ในชีวิตจริง ตั้งแต่ปฏิบัติการโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงและผู้อพยพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ที่ไร้เมตตา โครงการพัฒนาฝีมือแรงงานที่ไร้ประสิทธิภาพ ความฉ้อฉลและระบบอุปถัมภ์ รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอันอื้อฉาว

ภายหลังการสำรวจความโกรธเคืองที่มีต่อรัฐบาลกลางจากทั่วทั้งประเทศ พรรคประชาธิปไตยใหม่ทำได้แค่เสนอแผนปฏิบัติการเพื่อให้มีการบริหารจากส่วนกลางที่ดีขึ้น ในหนังสือนโยบายพรรค ไม่มีปัญหาใดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยระบอบรัฐบาลที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นและสั่งการจากเบื้องบนลงมา การที่พรรคไม่ตอบสนองความต้องการของคนอดอยากหิวโหยที่เรียกร้องสิทธิในการบริหารท้องถิ่น หรือไม่ตอบสนองต่อความเคลือบแคลงที่มีต่ออำนาจรวมศูนย์ ซึ่งเป็นความเคลือบแคลงที่มีมูลอยู่ไม่น้อย เท่ากับเป็นการปล่อยคะแนนเสียงของประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลให้ตกไปอยู่ในกำมือของพรรคฝ่ายขวา มีแต่พรรคพันธมิตรชาวแคนาดาซึ่งเป็นพวกขวาจัดเท่านั้นที่เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงนอกแคว้นควิเบกมีโอกาส "ส่งข้อความไปถึงรัฐบาลกลางในกรุงออตตาวา" แม้ว่าข้อความเหล่านั้นจะเป็นการเรียกร้องเศษเสี้ยวของประชาธิปไตยคืนมาในรูปของการลดหย่อนภาษีก็ตาม

พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายแห่งชาติย่อมสามารถสร้างสรรค์วิสัยทัศน์ที่ต่างออกไป กล่าวคือ เป็นวิสัยทัศน์ที่อยู่บนฐานประชาธิปไตยในท้องถิ่น และการพัฒนาเศรษฐกิจอันยั่งยืน แต่ก่อนที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ พรรคฝ่ายซ้ายจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ประชาชนชาวแคนาดารู้สึกต่อรัฐบาลอย่างไร พรรคฝ่ายซ้ายจะต้องรับฟังเสียงของชนพื้นเมืองที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมและชุมชนอื่น ๆ ที่อยู่นอกพื้นที่ควบคุม ซึ่งมีความโกรธเคืองต่อรัฐบาลในระดับชาติและระดับแคว้นดุจเดียวกัน เพราะการบริหารจัดการที่ดินและมหาสมุทรด้วยนโยบายที่เลวร้ายจากสำนักงานในเมือง

โครงการของรัฐบาลที่มุ่ง "พัฒนา" พื้นที่เหล่านี้ ไม่เป็นที่ยอมรับอย่างเห็นได้ชัดทั่วทั้งประเทศ โครงการของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ชาวประมงมีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือส่งเสริมให้ชาวนาใช้เทคโนโลยีด้านข้อมูลสนเทศ ต่างถูกมองว่าเป็นโครงการที่ทำแบบขอไปที ไม่ตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และในหลายกรณีเป็นผลลบต่อความต้องการที่แท้จริงของชุมชน

ความโกรธเคืองอันเนื่องมาจากการวางแผนจากส่วนกลางอย่างไร้ประสิทธิภาพ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในชนบทของแคนาดา และแคว้นควิเบกเท่านั้น ศูนย์กลางของเมืองหลายแห่งทั่วทั้งประเทศถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมหานครอย่างไม่เต็มใจ ในลักษณะเดียวกับโรงพยาบาลขนาดย่อมหลายแห่งซึ่งเคยให้บริการอย่างเยี่ยมยอดและเคยเติบโตอย่างมาก ได้ถูกผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโรงงานยาที่ไร้ประสิทธิภาพ และถ้าคุณรับฟังปากคำของครูที่ถูกยัดเยียดระบบสอบมาตรฐานที่ถูกกำหนดโดยบรรดานักการเมืองที่รู้หนังสือแบบงู ๆ ปลา ๆ คุณก็จะได้รับฟังเสียงแห่งความขุ่นเคืองในทำนองเดียวกันที่มีต่ออำนาจที่อยู่ไกลออกไป กล่าวคือเป็นเสียงเรียกร้องที่จะมีสิทธิในท้องถิ่นและความเป็นประชาธิปไตยในวิถีชีวิตประจำวันที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

รากเหง้าของการต่อสู้ในท้องถิ่น เป็นผลมาจากการที่ประชาชนในท้องถิ่นมองเห็นอำนาจถูกย้ายไปไว้ในจุดที่ห่างไกลจากชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่มากขึ้นทุกที ๆ อำนาจถูกยึดไปอยู่ในมือขององค์การค้าโลก ในมือของบรรษัทข้ามชาติที่ไร้ความรับผิดชอบ ทั้งยังอำนาจที่ถูกยึดคืนไปอยู่ในมือของรัฐบาลกลาง รัฐบาลแห่งแคว้นและเทศบาลที่ดำเนินการอย่างรวมศูนย์มากยิ่งขึ้น

ประชาชนไม่ได้เรียกร้องให้มีการวางแผนจากส่วนกลางที่ดีขึ้น พวกเขากำลังเรียกร้องเพื่อให้ได้เครื่องมือ ทั้งในด้านการเงินและระบอบประชาธิปไตย เพื่อที่จะสามารถควบคุมอนาคตของตนเองได้ เพื่อที่จะสามารถใช้ทักษะความสามารถของตนเอง เพื่อสร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจที่หลากหลายและมีความยั่งยืนอย่างแท้จริง และพวกเขามีแนวคิดต่าง ๆ มากมาย

ชุมชนในแถบชายฝั่งตะวันตกของเกาะแวนคูเวอร์ พากันเรียกร้องให้มีหน่วยงานที่ดูแลสิทธิในการจับปลาของชุมชน กล่าวคือเป็นองค์กรชุมชนที่ทำหน้าที่ดูแลด้านสิทธิการประมงภายในชุมชน แทนที่จะขายสิทธินั้นไปให้กับรัฐบาลกลางในกรุงออตตาวา หรือบรรษัทประมงขนาดใหญ่ ชาวประมงทั้งที่เป็นชาวพื้นเมืองและที่ไม่ได้เป็นชาวพื้นเมือง ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อหลอกล่อกรมประมงและมหาสมุทร เพื่อสงวนรักษาพื้นที่ประมงปลาแซลมอนไว้ ด้วยการฟื้นฟูพื้นที่วางไข่และการคุ้มครองพื้นที่เพาะพันธุ์ปลาแซลมอน ในส่วนอื่น ๆ ของแคว้นบริติชโคลัมเบีย พวกเขาพูดถึงประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิในการบริหารป่าชุมชน การยกเลิกสิทธิการทำไม้ในป่าคราวแลนด์ของบรรษัททำไม้ข้ามชาติ ซึ่งมีความต้องการเพียงแค่ทำไม้ให้ได้มาก ๆ โดยปล่อยให้ภาระการบริหารป่าอย่างยั่งยืนตกเป็นของชุมชนท้องถิ่น

แม้ในแคว้นนิวฟันแลนด์ ซึ่งถูกปฏิบัติเหมือนเป็นรัฐในอารักขาของรัฐบาลกลางในกรุงออตตาวามาเนิ่นนานแล้ว ในช่วงการเลือกตั้งเมื่อปี 2543 ประชาชนก็พากันพูดถึงการเจรจาครั้งใหม่กับรัฐบาลกลางเพื่อเรียกร้องสิทธิในการควบคุมดูแลแหล่งพลังงานมหาศาลในท้องถิ่น และแหล่งประมงเท่าที่เหลืออยู่ มีเสียงเรียกร้องแบบเดียวกันจากผู้นำเผ่าไอนุที่พยายามสร้างหลักประกันว่า ถ้านักพัฒนาน้ำมันและก๊าซเข้ามาแสวงหาประโยชน์ในพื้นที่ของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง ผลประโยชน์จะต้องตกอยู่กับการพัฒนาในท้องถิ่น มากกว่าสร้างความร่ำรวยให้กับบรรษัทข้ามชาติ

ในหลาย ๆ แง่ แนวคิดและการทดลองระดับรากหญ้าซึ่งเกิดขึ้นมาเองในท้องถิ่น เป็นปฏิกิริยาที่มีต่อแม่แบบเศรษฐกิจเสรีที่ถูกผลักดันโดยพวกเสรีนิยมจากส่วนกลาง ซึ่งยืนยันว่าการลงทุนจากต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่นำความเจริญมาให้เรา แม้ว่ามันอาจหมายถึงการต้องแลกด้วยอำนาจประชาธิปไตยที่ต้องสูญเสียไปก็ตาม ชุมชนเหล่านี้ต้องการในสิ่งตรงกันข้าม พวกเขาต้องการอำนาจการควบคุมดูแลในท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถบริหารงานได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง

วิสัยทัศน์เช่นนี้ยังแสดงถึงทางเลือกอย่างชัดเจนต่อนโยบายต่อต้านผู้อพยพเข้า และต่อต้านการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งถูกผลักดันโดยพวกประชานิยมฝ่ายขวา แน่นอน การลดภาษีและการหาแพะรับบาปไม่ใช่รางวัลปลอบใจที่เลวร้ายนัก ถ้าไม่มีอย่างอื่นจะให้อีกแล้ว แต่เห็นได้ชัดเจนว่ามีความปรารถนาอยู่ลึก ๆ ในประเทศนี้ที่ต้องการการมีส่วนร่วมของคนหมู่มาก กล่าวคือ การประสานทรัพยากรและความรู้ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราได้จากปฏิบัติการแบบตัวใครตัวมัน

นี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับพรรคฝ่ายซ้าย และเป็นโอกาสที่พรรคประชาธิปไตยใหม่และพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยทั่วทั้งยุโรปได้ทอดทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย พื้นที่ทางการเมืองเปิดออกแล้วสำหรับกลุ่มพันธมิตรทางการเมืองใหม่ ที่รับฟังต่อเสียงเรียกร้องของการกระจายอำนาจแบบท้องถิ่น และไม่เห็นว่าการกระจายอำนาจนั้นจะเป็นภัยคุกคามต่อเอกภาพของประเทศ หากการสร้างอำนาจจากฐานย่อย จะทำให้เกิดวัฒนธรรมที่เป็นเอกภาพแต่หลากหลาย ในเสียงเรียกร้องให้มีการกระจายอำนาจ ประชาธิปไตยในระดับรากหญ้าและความยั่งยืนของระบบนิเวศเป็นวิสัยทัศน์ทางการเมืองแบบใหม่ ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของประชาชนแคนาดาจำนวนมาก ซึ่งพรรคที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายซ้ายไม่เคยเป็นปากเสียงให้พวกเขาเลย

ในปัจจุบัน เรามีพรรคการเมืองระดับชาติที่มุ่งบริหารประเทศไปในทิศทางที่ตนเองต้องการ ในขณะเดียวกัน เรามีพรรคระดับภูมิภาคที่กระตุ้นให้ชนบทต่อสู้กันเองอย่างเปล่าประโยชน์ สิ่งที่เราต้องการคือพลังทางการเมืองที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงกันของการต่อสู้ในแต่ละท้องถิ่น มากกว่าการแสวงหาความแตกต่าง

นั่นหมายถึงการโยนแนวคิดพื้นฐานบางอย่างในการบริหารประเทศของฝ่ายซ้ายหัวโบราณทิ้งไป อย่างไรก็ตาม สายใยที่ร้อยรัดสิทธิของท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ไปจนถึงการเรียกร้องอำนาจอธิปไตยของแคว้นควิเบกและการปกครองตนเองของชนพื้นเมือง ไม่ได้หมายถึงการมีรัฐบาลกลางที่เข้มแข็งมากขึ้น มันเป็นความต้องการที่จะสามารถกำหนดอนาคตตนเอง การมีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ และการมีระบอบประชาธิปไตยอย่างมีส่วนร่วม

การกระจายอำนาจไม่ได้หมายถึงการละเลยมาตรฐานในระดับชาติและนานาชาติ และไม่ได้หมายถึงการละเลยการจัดสรรงบประมาณที่มีเสถียรภาพและเท่าเทียมกัน เพื่อการสาธารณสุข การศึกษา การจัดที่อยู่อาศัยในราคาย่อมเยา และการปกป้องสิ่งแวดล้อม หากมันหมายถึงการที่พรรคฝ่ายซ้ายจะต้องเปลี่ยนคำขวัญจาก "การเพิ่มงบประมาณ" ไปเป็น "การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในระดับรากหญ้า" ทั้งตามชนบท ตามพื้นที่ควบคุมของชนพื้นเมือง ตามโรงเรียน ตามชุมชนที่มีทรัพยากร และตามสถานที่ประกอบการต่าง ๆ

การประสานกลุ่มพลังเหล่านี้เข้าด้วยกัน อาจเผยให้เห็นความขัดแย้งที่คุกรุ่นระหว่างชนพื้นเมืองกับผู้ที่ไม่ใช่ชนพื้นเมือง นักกิจกรรมสหภาพแรงงานกับนักสิ่งแวดล้อม ชุมชนเมืองกับชุมชนชนบท รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างใบหน้าขาว ๆ ของฝ่ายซ้ายในแคนาดากับใบหน้าดำ ๆ ของคนยากจนในแคนาดา การเอาชนะความขัดแย้งแบ่งแยกเหล่านี้ สิ่งที่จำเป็นไม่ใช่พรรคการเมืองใหม่ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้ แต่หมายถึงการมีกระบวนการทางการเมืองใหม่ ซึ่งมีรากฐานจากระบอบประชาธิปไตยที่เปิดโอกาสให้อำนาจทางการเมืองของกลุ่มต่าง ๆ เติบโตขึ้น

การสร้างสรรค์กระบวนการดังกล่าวเป็นแผนการอันห้าวหาญและใช้เวลายาวนาน แต่ก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่า เพราะความเชื่อมโยงระหว่างประเด็นปัญหาที่ถูกเพิกเฉยไปเป็นเวลานานกับชุมชนชายขอบเหล่านี้ จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่กำหนดทางเลือกทางการเมืองอย่างใหม่และมีพลังอย่างแท้จริง

คำขอบคุณ
ครั้งแรกที่ดิฉันตัดสินใจรวมบทความและความเรียงเหล่านี้เป็นหนังสือ ดิฉันมีความปรารถนาเพียงว่าจะช่วยหาทุนให้กับองค์กรของนักเคลื่อนไหว ซึ่งการทำงานอย่างห้าวหาญในแนวหน้าของพวกเขา เป็นแรงบันดาลให้กับงานเขียนของดิฉัน นายหน้าของดิฉันคือคุณบรูซ เวสต์วูดและคุณนิโคล วินสแตนลีย์ ได้รับฟังความหวังที่ยังคลุมเครือนี้ และเจรจาจนกระทั่งมันกลายเป็นความจริง โดยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญและความช่วยเหลือจากอลิสา พาล์มเมอร์และเคลตัน รูบี้ ดิฉันมีความขอบคุณอย่างมากต่อผู้จัดพิมพ์หนังสือในภาษาอังกฤษของดิฉัน ซึ่งได้ตกลงใจที่จะบริจาคส่วนหนึ่งของรายได้จากการจำหน่ายหนังสือให้กับกองทุน "รั้วกับหน้าต่าง" ซึ่งมุ่งระดมทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายต่อนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดี และมุ่งให้การศึกษากับภาคสาธารณะเกี่ยวกับประชาธิปไตยระดับโลก หลุยส์ เดนนิส, ซูซาน รอกซ์เบอโร่, ฟิลลิป กเวน โจนส์, และฟรานซิล โคอาดีได้ยอมรับแนวคิดที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ตั้งแต่ต้นทีเดียว

ดิฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อการบรรณาธิการของเดบรา เลวี ซึ่งนอกจากจะช่วยดิฉันในด้านการศึกษาวิจัยเพื่อเขียนบทความมากมายเหล่านี้ เดบรายังเป็นผู้ดูแลงานบรรณาธิการของหนังสือเล่มนี้ บนพื้นฐานของพันธะสัญญาอันแน่วแน่และความใส่ใจ โดยให้ความสำคัญกับทั้งภาพใหญ่และรายละเอียดปลีกย่อยของหนังสือในเวลาเดียวกัน หลุยส์ เดนนิส ไม่ได้มุ่งให้มีการเขียนบทความเหล่านี้ใหม่ แต่ได้ให้ความช่วยเหลือในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข จากนั้นเรายังได้เดเมียน ทาร์นาโพลสกี, เดรเดีย โมลีนาและอลีสัน รีดมาช่วยในการเกลาและตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกชั้นหนึ่ง และได้สก็อต ริชาร์ดสันมาช่วยออกแบบรูปเล่ม

เอวี เลวิส สามีของดิฉันเป็นผู้บรรณาธิการบทความแต่ละชิ้นในครั้งแรกที่ดิฉันเขียน ไม่ว่าเขาจะอยู่ห่างจากดิฉันกี่ไมล์หรือกี่เขตเวลา ไคล ยามาดะ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวและผู้ช่วยด้านบรรณาธิการให้กับเดบรา เลวี และเราทั้งสองต่างขอบคุณต่อเธอ พ่อแม่ดิฉัน โบนี่และไมเคิล ไคลน์ ช่วยอ่านร่างต้นฉบับ และช่วยออกความเห็น ดังที่วันเวลาที่ระบุไว้ในบทความเหล่านี้ ดิฉันใช้เวลาสองปีครึ่งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ไปอยู่ในที่ต่าง ๆ นอกจากบ้านตัวเอง การเดินทางทั้งหมดนี้ไม่อาจเป็นไปได้หากปราศจากเพื่อนร่วมงานอย่างคริสตินา มาจิล ซึ่งช่วยกำกับดูแลงานอย่างเข้มแข็ง เธอสามารถแก้ปัญหาด้านการเดินทางทุกอย่างได้ด้วยความสุขุมและชาญฉลาด

ดิฉันทำงานกับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่เก่งกาจหลายคน ในระหว่างการเขียนบทความสำหรับหนังสือเล่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นแพทริค มาร์ติน, วาล รอสส์ และลาร์รี โอเรนสตีนแห่ง The Globe and Mail ซูมาส มิวเนและแคธลีน ไวเนอร์แห่ง The Guardian เบ็ตซี่ รีดส์และแคทธรีน่า วาน เดน ฮูเวลแห่ง The Nation เจสซี่ เฮิร์ช และแอนเดรีย ชมิตด์ แห่ง WWW.NOLOGO.ORG โจเอล ไบลฟัส แห่ง In These Times ไมเคิล อัลเบิร์ตแห่ง Znet แทเนีย โมลีน่าแห่ง La Jornada ฮาคาน แจนสันแห่ง Aftonbladet โจวานนี เด เมาโร แห่ง Internazionale และ ซันเดอร์ ไพลจ์ แห่ง De Groene Amsterdammer

ริชาร์ด แอดดิสและบรูส เวสต์วูด เป็นผู้เสนอความคิดว่า ดิฉันควรจะเขียนบทความในคอลัมน์ประจำสัปดาห์ให้กับหนังสือพิมพ์ในช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดในชีวิตของดิฉัน ในขณะที่ดิฉันต้องพยายามเขียนบทความให้ทันกำหนด ต้องส่งอีเมล์จากโทรศัพท์สาธารณะที่สนามบิน จากศูนย์ชุมชนที่ถูกระดมยิงด้วยก๊าซน้ำตา และจากโรงแรมซอมซ่อที่สายโทรศัพท์ดีบ้างไม่ดีบ้าง ดิฉันต้องสารภาพว่า ตัวเองตั้งคำถามต่อการตัดสินใจของคนทั้งสองมากกว่าหนึ่งครั้ง ตอนนี้ดิฉันเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขาได้ให้กับดิฉันแล้ว นั่นคือโอกาสในการสร้างบันทึกประจำสัปดาห์ ซึ่งได้กลายเป็นโฉมหน้าแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญ



Naomi Klein
ประวัติโดยสังเขปของผู้เขียน

นาโอมี ไคลน์(Naomi Klein) เกิดในปี 2513 ที่กรุงมอนทรีออล เธอเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับรางวัลและเป็นนักเขียนหนังสือที่ขายดีระดับนานาชาติเรื่อง No Logo: Taking Aim at the Brand Bullies ซึ่งแปลออกเป็น 25 ภาษา The New York Times บอกว่า No Logo เป็นเสมือนคัมภีร์ไบเบิลของนักเคลื่อนไหวทีเดียว No Logo ได้รับรางวัลหนังสือธุรกิจแห่งชาติแคนาดาและรางวัล Le Prix Mediations ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2544

บทความของนาโอมี ไคลน์ปรากฏในสิ่งพิมพ์มากมาย ทั้ง The Nation, The New Statesman, The New York Times และ Ms. Magazine เธอยังเขียนคอลัมน์ที่เผยแพร่ไปยังสิ่งพิมพ์อื่นทั่วโลกในหนังสือพิมพ์ The Globe and Mail ในแคนาดา และ The Guardian ในอังกฤษ

ในช่วงหกปีที่ผ่านมา เธอได้เดินทางไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือ เอเชีย ละตินอเมริกา และยุโรป เพื่อติดตามขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านบรรษัท เธอมักเป็นผู้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนและเป็นผู้บรรยายพิเศษให้มหาวิทยาลัย ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2545 เธอได้รับตำแหน่งอาจารย์ (Milibrand Fellow) แห่งสำนักเศรษฐศาสตร์แห่งลอนดอน (London School of Economics)



 



บทความที่นำเสนอก่อนหน้านี้ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
หากนักศึกษาและสมาชิกท่านใตสนใจ
สามารถคลิกไปอ่านได้จากที่นี่...คลิกที่ภาพ

 

สารบัญข้อมูล : ส่งมาจากองค์กรต่างๆ

ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I
สารบัญเนื้อหา 3
I สารบัญเนื้อหา 4
ประวัติ ม.เที่ยงคืน

สารานุกรมลัทธิหลังสมัยใหม่และความรู้เกี่ยวเนื่อง

webboard(1) I webboard(2)

e-mail : midnightuniv(at)yahoo.com

หากประสบปัญหาการส่ง e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com

ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม

 

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกำลังจัดทำบทความที่เผยแพร่บนเว็ปไซคทั้งหมด กว่า 760 เรื่อง หนากว่า 11000 หน้า
ในรูปของ CD-ROM เพื่อบริการให้กับสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านในราคา 150 บาท(รวมค่าส่ง)
(เริ่มปรับราคาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548)
เพื่อสะดวกสำหรับสมาชิกในการค้นคว้า
สนใจสั่งซื้อได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ
midnight2545(at)yahoo.com

 

สมเกียรติ ตั้งนโม และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(บรรณาธิการเว็ปไซค์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
หากสมาชิก ผู้สนใจ และองค์กรใด ประสงค์จะสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชุมชน
และสังคมไทยสามารถให้การสนับสนุนได้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในนาม สมเกียรติ ตั้งนโม
หมายเลขบัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารกรุงไทยฯ สำนักงานถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หรือติดต่อมาที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com

 

 

 

H
ขอขอบคุณ www.thaiis.com ที่ให้ใช้พื้นที่ฟรี
ภาพประกอบดัดแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ประกอบบทความฟรีของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ไม่สงวนลิขสิทธิ์ในการนำไปใช้ประโยชน์
R
related topic
241248
release date
เว็ปไซต์เผยแพร่ความรู้
เพื่อสาธารณประโยชน์

หากนักศึกษาหรือสมาชิก ประสบปัญหาภาพและตัวหนังสือซ้อนกัน กรุณาลด text size ของ font ลง
ขนาด medium จะแก้ปัญหาได้
เว็ปไซต์นี้สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอุดมศึกษาได้โดยไม่จำกัดคุณวุฒิ สำหรับผู้สนใจส่งบทความทางวิชาการเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน กรุณาส่งผลงานไปที่ midarticle(at)yahoo.com
The author of this work hereby waives all claim of copyright (economic and moral) in this work
and immediately places it in the public domain... [copyleft]
กรุณานำบทความไปใช้ต่อโดยอ้างอิงแหล่งที่มาตามสมควร
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนร่วมกับมูลนิธิไฮน์ริคเบิลล์ เปิดชั้นเรียนฟรีสำหรับ น.ศ. และผู้สนใจ เพื่อศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีมลายูมุสลิมอย่างรอบด้าน
บทความทุกชิ้นที่เผยแพร่บนเว็ปไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน จะได้รับการเก็บรักษาเอาไว้อย่างถาวร โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพื่อประโยชน์ในการอ้างอิง ความผิดพลาดใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นจากการเผยแพร่ อาจเป็นของผู้เขียนหรือกองบรรณาธิการ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้โดยไม่เจตนา
เว็ปไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน มีการเสนอบทความใหม่ทุกวัน เพื่อสนองความต้องการของนักศึกษา และผู้สนใจที่คลิกเข้ามาหาความรู้เป็นประจำ
1234567890 -A12345678
รากเหง้าของการต่อสู้ในท้องถิ่น เป็นผลมาจากการที่ประชาชนในท้องถิ่นมองเห็นอำนาจถูกย้ายไปไว้ในจุดที่ห่างไกลจากชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่มากขึ้นทุกที ๆ อำนาจถูกยึดไปอยู่ในมือขององค์การค้าโลก ในมือของบรรษัทข้ามชาติที่ไร้ความรับผิดชอบ ทั้งยังอำนาจที่ถูกยึดคืนไปอยู่ในมือของรัฐบาลกลาง (Naomi Klein)