Free Documentation
License
Copyleft : 2006,
2007, 2008
Everyone is permitted to copy and distribute verbatim
copies of this license
document, but changing it is not allowed.
หากนักศึกษา
และสมาชิกประสงค์ติดต่อ
หรือส่งบทความเผยแพร่บนเว็บไซต์
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
กรุณาส่ง email ตามที่อยู่ข้างล่างนี้
midnight2545(at)yahoo.com
midnightuniv(at)yahoo.com
midarticle(at)yahoo.com
The Midnight
University
การเชิดชูเกียรติประวัตการต่อสู้ของสามัญชน
พิธีมอบเหรียญเจริญวัดอักษร
และปาฐกถาประจำปี ๒๕๔๙
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
กิจกรรมส่งเสริมอำนาจประชาชนและประชาธิปไตย
ปาฐกถาบนหน้าเว็บเพจนี้
เป็นกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ในพิธีกการมอบเหรียญเจริญวัดอักษร ครั้งที่ ๓ ให้กับเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าสไทย-มาเลเซียฯ
ณ มหาวิทยาลัยประชาชนลานหอยเสียบ อ.จะนะ จ.สงขลา
midnightuniv(at)yahoo.com
(บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ 968
เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙
(บทความทั้งหมดยาวประมาณ
14.5 หน้ากระดาษ A4)
สืบสานการต่อสู้และจิตสำนึกเพื่อชุมชนของ
"เจริญ วัดอักษร"
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนทำพิธีมอบเหรียญเจริญวัดอักษร และจัดให้มีปาฐกถาเจริญวัดอักษร
ประจำปี ๒๕๔๙
โดยปีนี้คัดเลือกให้ เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซียและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นผู้ได้รับเหรียญและแสดงปาฐกถาประจำปี ๒๕๔๙
ในวันจันทร์ที่ ๑๐ กรกฎาคม
๒๕๔๙ ณ บริเวณลานหอยเสียบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
กำหนดการพิธีมอบเหรียญและแสดงปาฐกถา
10.00 -- 10.15 น. อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกล่าวต้อนรับ และอ่านคำประกาศสดุดีเกียรติคุณ
10.15 -- 11.00 น. ตัวแทนจาก"เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซฯ"แสดงปาฐกถา
11.00 -- 11.30 น. พิธีมอบเหรียญเจริญ วัดอักษรและสุนทรกถาโดย อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์
11.30 -- 12.00 น. พิธีละหมาดฮายัด
12.00 -- 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
คำประกาศของอธิการบดี
ม.เที่ยงคืน ในพิธีปาฐกถาเจริญวัดอักษรประจำปี ๒๕๔๙
เวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙ / สถานที่ : มหาวิทยาลัยประชาชนลานหอยเสียบ
กราบเรียนพี่น้องเครือข่ายผู้ร่วมคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าสไทย-มาเลเซีย
ก่อนอื่นขอเรียนชี้แจงว่า เหรียญเจริญวัดอักษร เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่คุณเจริญ
วัดอักษร ถูกลอบสังหารที่บ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากนั้นคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้มีการประชุม
เพื่อที่จะกระตุ้นให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงสิ่งที่คุณเจริญ วัดอักษร ได้กระทำให้กับสังคมไทย
ในฐานะผู้ดูแลปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น จึงจัดให้มีการสร้างเหรียญเจริญ
วัดอักษรขึ้น เพื่อเป็นเกียรติประวัติของนักต่อสู้ภาคประชาชน เหรียญนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจะมอบให้กับผู้นำหรือชุมชนที่ร่วมกันต่อสู้เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อม และปกป้องพื้นที่สาธารณะ เช่นเดียวกับการที่คุณเจริญ วัดอักษร และคุณจินตนา
แก้วขาว ได้ทำการต่อสู้ในการรักษาสิ่งเหล่านี้ของประชาชนเอาไว้
สำหรับการมอบเหรียญเจริญวัดอักษร ครั้งที่หนึ่ง มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้เรียนเชิญ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์มาเป็นผู้มอบให้กับคุณจินตนา แก้วขาว ซึ่งเป็นผู้นำชาวบ้านในการต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพยากรชายฝั่ง และปกป้องพื้นที่สาธารณะให้กับชุมชนบ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี พ.ศ.2547
หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2548 เราได้เดินทางไปมอบเหรียญให้กับพระอธิการอเนก จันทปัญโญ ผู้นำชุมชนชาวพุทธ ที่พยายามอนุรักษ์ธรรมชาติ และร่วมกับชาวบ้านปกป้องพื้นที่สาธารณะจากนายทุนสวนส้ม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมให้กลับกลายเป็นป่าของชุมชนขึ้นมาใหม่
สำหรับเหรียญที่สาม คณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้มีมติเป็นเอกฉันท์ มอบเหรียญเจริญวัดอักษรกับให้กับเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าสไทย-มาเลเซีย ที่ร่วมกันปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรชายฝั่ง และพื้นที่สาธารณะแห่งนี้ไว้ให้กับลูกหลานและชุมชนในอนาคต ต่อจากนี้ผมขออ่านคำประกาศอย่างเป็นทางสำหรับพิธีการมอบเหรียญดังนี้
คำประกาศ
เมื่อคุณเจริญ วัดอักษรถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ความสูญเสียไม่ได้ตกแก่พี่น้องประชาชนบ่อนอก-บ้านกรูดเท่านั้น
แต่สังคมไทยโดยรวมก็สูญเสียไม่น้อยไปกว่ากัน สังคมไทยกำลังเผชิญกับการแย่งยื้อทรัพยากรไปใช้หากำไรอย่างไม่ยั่งยืนโดยทุน
การลุกขึ้นต่อสู้ของพี่น้องชาวไทยทั่วทั้งประเทศ เพื่อรักษาสิทธิในการใช้และจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน
คือการรักษาชาติไว้เป็นมรดกตกทอดไปถึงลูกหลานในวันข้างหน้า ฉะนั้นการต่อสู้ของเจริญ
วัดอักษรจึงเป็นแรงบันดาลใจแก่พี่น้องทั่วประเทศ
เจริญ วัดอักษรเสียสละอย่างไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จนในที่สุดก็ต้องเสียสละชีวิตอย่างที่ผู้นำประชาชนอีกมากได้สังเวยชีวิตไปแล้ว แต่แทนที่ความตายของคนอย่างเจริญจะทำให้เกิดความหวาดหวั่นแก่ความเคลื่อนไหวของภาคประชาชน กลับเป็นแรงบันดาลใจให้ประชาชนยิ่งต้องเร่งสร้างความเป็นธรรมในการจัดสรรทรัพยากรของชาติมากขึ้น ฉะนั้นเจริญ วัดอักษรจึงไม่ตาย และอย่างที่ชาวบ่อนอก-บ้านกรูดประกาศเสมอว่า จะมีเจริญ วัดอักษรเกิดตามมาอีกนับไม่ถ้วน
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนตระหนักอย่างดีถึงคุณูปการของเจริญ วัดอักษรต่อประชาชนไทย จึงได้จัดปาฐกถาประจำปี เจริญวัดอักษรมาตั้งแต่พ.ศ.๒๕๔๗ โดยเลือกบุคคลหรือเครือข่ายความเคลื่อนไหวในภาคประชาชน ซึ่งมีบทบาทในการพิทักษ์ปกป้องทรัพยากรท้องถิ่น เพื่อประโยชน์แก่การใช้และจัดการของประชาชนอย่างยั่งยืน
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนหวังว่า ปาฐกถาเหล่านี้ย่อมสะท้อนมุมมอง, แง่คิดและปรัชญาของประชาชนระดับรากหญ้า เกี่ยวกับทรัพยากร อันเป็นสิ่งไม่ปรากฏในสื่อหรือในระบบการศึกษา จึงไม่เป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลายในสังคมไทย ทำให้มุมมองเกี่ยวกับการใช้และจัดการทรัพยากรในประเทศไทย ทั้งในวงวิชาการและในการวางแผนเศรษฐกิจ เป็นมุมมองที่มุ่งรับใช้ทุนเพียงด้านเดียว เพราะวิถีชีวิตจริงของชาวบ้านไม่เคยมีที่ยืนในมุมมองของรัฐและวงวิชาการเอาเลย
ในขณะเดียวกัน ปาฐกถาเหล่านี้ก็สะท้อนประสบการณ์การต่อสู้ของชาวบ้าน จากการบอกเล่าของชาวบ้านเอง ไม่ใช่ตัวเหตุการณ์ซึ่งปรากฏในสื่อเฉพาะส่วนที่เป็นอุบัติการณ์เพื่อเสนอข่าวเท่านั้น ประสบการณ์เหล่านี้ล้วนมีคุณประโยชน์แก่การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนโดยทั่วไป เพราะสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันได้ อันจะเป็นทางทำให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น สังคมไทยโดยรวมก็จะได้ประโยชน์จากการได้เรียนรู้มุมมองและประสบการณ์ของประชาชนระดับรากหญ้าดังกล่าวด้วย
ดังนั้น มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจึงมีแผนที่จะเผยแพร่ปาฐกถานี้ในรูปอื่นๆ ให้แพร่หลายในสังคมไทย นอกจากที่ปาฐกได้แสดงในการจัดปาฐกถาประจำปี และมีรายงานอย่างย่อๆ ในสื่อเช่นสิ่งพิมพ์บ้าง
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีมติให้เชิญตัวแทนของเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ซึ่งมีพี่น้องชาวจะนะเป็นแกนนำ แสดงปาฐกถาประจำปีเจริญ วัดอักษร ด้วยความตระหนักอย่างดีถึงความเสียสละ, ความอดทน, และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพี่น้องชาวจะนะ ในการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่งไว้ให้แก่ลูกหลาน รวมทั้งการค้นหาการใช้ทรัพยากรดังกล่าวนี้อย่างเป็นธรรมและยั่งยืนด้วย
ในการต่อสู้กับการที่รัฐแย่งชิงทรัพยากรชายฝั่ง ไปบำเรอทุนต่างชาติกรณีของจะนะนั้น อันที่จริงก็ไม่แตกต่างจากกรณีของปาฐกของปาฐกถาเจริญ วัดอักษรที่ผ่านมาแล้ว คือการเผชิญหน้ากับทุนที่มีรัฐ - ในส่วนกลางหรือท้องถิ่น - หนุนหลังทั้งสิ้น รวมทั้งการต่อสู้ของเจริญ วัดอักษรก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน และดังที่กล่าวแล้วว่า การเผชิญหน้าเช่นนี้ ประชาชนไทยจะต้องประสบมากขึ้น ยิ่งทุนเข้าไปกุมอำนาจรัฐโดยตรง การหนุนหลังของรัฐก็จะมีลักษณะรุนแรงขึ้นตามไปด้วย ดังที่พี่น้องที่จะนะได้ประสบมาแล้วด้วยความเจ็บปวด เมื่อยกขบวนไปยื่นหนังสือแก่นายกรัฐมนตรีโดยสันติ และตามสิทธิซึ่งมีหลักประกันในรัฐธรรมนูญ แล้วกลับถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในเครื่องแบบ ทุบตีทำร้ายอย่างเหี้ยมโหด
วิธีการต่อสู้ที่พี่น้องในเครือข่ายต่อต้านท่อก๊าซใช้ ก็ไม่แตกต่างจากวิธีการที่พี่น้องในทำเลอื่นใช้ คือเป็นการต่อต้านโดยสันติวิธี อันเป็นวิธีการที่ทรงพลังที่สุด และเป็นหนทางไปสู่ชัยชนะได้มากที่สุด และด้วยเหตุดังนั้น ประสบการณ์การต่อสู้ของพี่น้องจึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ ต่อการเคลื่อนไหวของประชาชนระดับรากหญ้าทั้งประเทศจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
พี่น้องจะนะสามารถรวมกลุ่ม และรักษากลุ่มให้ยืนยงต่อมาได้อย่างไม่แตกสลาย แม้ว่าจะถูกอำนาจเงิน, อำนาจรัฐ, และอำนาจเถื่อน แทรกแซงข่มขู่เพื่อทำลายการรวมกลุ่มกันตลอดมาก็ตาม ข้อนี้เป็นเงื่อนไขแรกที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับการเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชน
ไม่ว่าผลที่สุดของการต่อสู้จะทำให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่พี่น้องได้จากการรวมกลุ่มคือความเป็นปึกแผ่นของชุมชน ซึ่งกำลังหายไปในสังคมไทย และเพียงเท่านี้พี่น้องก็จะสามารถใช้ความเป็นปึกแผ่นที่ได้จากการร่วมกันต่อสู้ครั้งนี้ ไปดำเนินกิจการอื่นๆ ที่จะเป็นคุณประโยชน์ทั้งต่อตัวพี่น้องเองและสังคมไทยโดยรวมได้อีกมาก
ในส่วนผลที่ได้แก่บุคคลจากการรวมกลุ่มกันเช่นนี้ก็คือ
ประสบการณ์ของการไม่ยอมจำนนต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรม แม้ว่าอำนาจนั้นจะมีพลังกล้าแข็งในทุกทางก็ตาม
ได้เปลี่ยนบุคคลจากคนที่ขาดความเคารพนับถือตนเองให้กลายเป็นคนกล้า ซึ่งจะไม่สามารถยอมสยบให้แก่ความไม่ถูกต้องได้อีกตลอดไปชั่วชีวิต
สำนึกถึงศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกับคนอื่นนั้นมีคุณค่าอย่างสูงแก่ประชาชนระดับรากหญ้า
หลังจากถูกระบบปกครอง, ระบบสื่อ, และระบบการศึกษาหล่อหลอมให้ยอมจำนนต่ออำนาจอย่างไร้เหตุผลมาหลายชั่วคน
เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนในกรณีอื่นๆ พี่น้องเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย
พยายามใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขกฎหมายทุกระดับเท่าที่เรามีอยู่ อาจแพ้บ้างชนะบ้าง
ในแง่ยุทธวิธี การกระทำเช่นนี้ย่อมดีที่สุดอยู่แล้ว แต่เราไม่ควรลืมผลลัพธ์ที่มีความหมายแก่สังคมไทยด้วย
นั่นก็คือกฎหมายจะยังคงเป็นแค่ตัวอักษรบนแผ่นกระดาษอยู่ตราบนั้น หากประชาชนไม่ลุกขึ้นมาใช้สิทธิที่บัญญัติไว้ในกฎหมายอย่างจริงจัง
ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไม่ได้อยู่ที่ได้พิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา แต่อยู่ที่มีผู้นำไปใช้จริง
และเผชิญกับผลของการใช้กฎหมายอย่างไม่พรั่นพรึง และนี่คือการนิยามกฎหมายโดยประชาชน
ไม่ใช่โดยดุษฎีบัณฑิตทางกฎหมาย ซึ่งอาจเกรงกลัวต่ออำนาจของบุคคลเสียยิ่งกว่ามหิทธานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า
พี่น้องในเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย พยายามสร้างเครือข่ายกับการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนในที่อื่นๆ อย่างกว้างขวาง คุณเจริญ วัดอักษรเอง เมื่อมีชีวิตอยู่ได้สู้อุตส่าห์พาพี่น้องชาวบ่อนอกมาร่วมกิจกรรมกับชาวจะนะหลายครั้ง เท่ากับที่ชาวจะนะเคยส่งตัวแทนไปร่วมอภิปรายในงานวันที่คุณเจริญได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ไม่แต่เพียงเชื่อมเครือข่ายกับพี่น้องประชาชนในที่ต่างๆ เท่านั้น พี่น้องจะนะยังได้เชื่อมเครือข่ายกับนักวิชาการ, คนชั้นกลางที่รักความเป็นธรรม, องค์กรผู้บริโภค, องค์กรด้านพลังงานของภาคประชาชน, สภาทนายความ, เอนจีโอ, อย่างไรก็ตามเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อก๊าสที่เกิดขึ้นนี้เป็นเครือข่ายพันธมิตร กล่าวคือไม่มีใครเป็นบริวารของใคร นับเป็นแบบอย่างที่ดีของการเชื่อมเครือข่ายของภาคประชาชนกับกลุ่มอื่นๆ ซึ่งมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน
การสร้างเครือข่ายกันในภาคประชาชนย่อมเพิ่มพลังให้แก่กันและกัน ฉะนั้นในแง่ยุทธวิธีจึงถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือทำให้ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ยุทธวิธีและเป้าหมายของการเคลื่อนไหวแนวสันติวิธี อันเป็นแนวทางที่จะทำให้ภาคประชาชนเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า และเป็นยุทธวิธีที่ภาคประชาชนจะต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของกันและกันต่อไปอีกมาก ไม่มีที่สิ้นสุด
แม้การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนส่วนใหญ่ ยังมีลักษณะในทาง"ต่อต้าน"โครงการของรัฐและทุน แต่ในการดำเนินงานนั้น ได้มีการใช้พลังของการรวมกลุ่มร่วมทำร่วมคิด ก่อให้เกิดการดำเนินงานกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งจะมีผลระยะยาวเสียยิ่งกว่าการต่อต้านอีกหลายอย่าง เช่นเดียวกับที่พี่น้องจะนะสร้างมหาวิทยาลัยประชาชนลานหอยเสียบ, การรื้อฟื้นและบำรุงรักษาความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรชายฝั่งและการประมงชายฝั่ง โดยปลูกฝังไว้กับลูกหลานของชุมชน, ความหวงแหนสาธารณสมบัติเช่นที่ดินวะกัฟ อันจะนำไปสู่ความร่วมมือกันบำรุงรักษาสาธารณสมบัติอื่นๆ ซึ่งยังมีอีกมากในแต่ละชุมชน เป็นต้น
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงแก่มหาวิทยาลัย ที่พี่น้องในเครือข่ายต่อต้านท่อก๊าซรับแสดงปาฐกถาประจำปีเจริญ วัดอักษร มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเชื่อว่า หากคุณเจริญได้รับทราบด้วยญาณวิถีใดๆ ก็คงมีความพอใจเช่นเดียวกัน
บัดนี้ใคร่ขอกราบเรียนท่านอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนไทยที่ยืนอยู่ฝ่ายประชาชนระดับล่างเสมอมา ได้มอบเหรียญเจริญ วัดอักษรแก่ตัวแทนของเครือข่ายต่อต้านท่อก๊าซ และกล่าวสุนทรกถา เป็นกำลังใจแก่พวกเราทุกคนในที่นี้ด้วย
(หมายเหตุ : กำหนดการได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เนื่องจากต้องการให้การมอบเหรียญเจริญวัดอักษร ประจำปี พ.ศ.2549 มีการบันทึกภาพร่วมกับพี่น้องเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ทั้งหมดบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยประชาชนลานหอยเสียบ จึงขอแสดงปาฐกถาต่อไป และปิดท้ายด้วยสุนทรกถาของ อ.สุลักษณ์ เป็นการปิดท้ายพิธีการในช่วงแรก)
ปาฐกถา "เจริญ วัดอักษร"
ประจำปี ๒๕๔๙
โดย : สุไลมาน หมัดยุโส๊ะ, สุไรด๊ะห์ โต๊ะหลี
เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซ โรงแยกก๊าซธรรมชาติ
ไทย-มาเลเซีย และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
"ลาอี้ลาฮ่า อิ้ลลั้ลลอฮ์ มู่ฮัมม่าดุ้รร่อร่อซูลุ้ลเลาะฮ์"
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้เว้นแต่อัลลอฮองค์เดียว และแท้จริงมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ
ตามหลักการศาสนาอิสลาม เราถือว่าโลกแห่งนี้เป็นโลกดุนยา หรือโลกนี้เป็นเพียงโลกสมมติ คือโลกชั่วครั้งชั่วคราว ฉะนั้นสิ่งที่อยู่บนโลกนี้คือสิ่งที่ไม่จริง และไม่เที่ยงแท้ ดุนยา เต็มไปด้วยสิ่งหลอกลวง ที่อัลลอฮสร้างไว้เพื่อทดสอบมนุษย์ ให้เราเลือกเดินไปทางไหนก็ได้ ให้เลือกว่าสิ่งใดชั่วสิ่งใดดี แต่เมื่อเราเลือกเดินไปในทางที่ถูกต้อง เลือกที่จะทำความดีตามที่อัลลอฮทรงให้ทางไว้ ก็เท่ากับเราสะสมเสบียงแห่งความดีงาม เพื่อนำชีวิตไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงคือโลกหน้าหรืออาคิเราะฮ์นั่นเอง ฉะนั้นจงอย่าลุ่มหลงอยู่กับเงินทองผลประโยชน์ลาภยศ สรรเสริญ บนโลกนี้
หน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างคือมุสลิมทุกคนต้องปกป้องทรัพยากร สิ่งแวดล้อม เพราะผืนแผ่นดินและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดนี้อัลลอฮทรงประทานมา เพื่อให้มนุษย์ใช้ในการดำรงชีวิต ได้ทำมาหากินจากทรัพยากรทั้งหลายอย่างพอเพียง แต่ถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใดเกิดความละโมบแย่งชิงทรัพยากรของผู้อื่นมาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ก็เท่ากับผู้นั้นทำลายผืนแผ่นดินแห่งนี้ เท่ากับผู้นั้นทรยศต่อองค์อัลลอฮ ฉะนั้นมุสลิมต้องถือเป็นหน้าที่ ต้องถือเป็นหลักปฏิบัติตามบทบัญญัติอัลกุรอานในการดำเนินชีวิตว่า เราต้องทำในสิ่งที่พระเจ้าใช้ให้ทำ และไม่ทำในสิ่งที่พระเจ้าห้าม
นี่คือวิถีมุสลิมที่เราถือปฏิบัติกันมายาวนาน ซึ่งจะขัดแย้งกับระบบทุนนิยมที่คนจะถือเอาเงินและอำนาจเป็นใหญ่ มองข้ามการปกป้องทรัพยากร เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ถือเอาผลประโยชน์ของตนและพวกพ้องเป็นตัวตั้ง และพยายามรื้อถอนวิถีดั้งเดิมของชุมชน โดยเฉพาะรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่มีนโยบายขัดแย้งกับวิถีการดำรงอยู่ของมุสลิม อันมีความหมายถึงชีวิตที่สงบ เรียบง่าย และสันติสุข แต่นายกกลับมองว่าเงินเท่านั้น ที่เปรียบเสมือนกับคำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง ดังคำกล่าวของนายกที่ว่า "เราจะรวยกันชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า" นี่เป็นคำกล่าวของคนที่ไหลไปตามกระแสทุนนิยม ลุ่มหลงในอำนาจ และเงินตรา เสพสุขในโลกนี้ หลงลืมการสะสมความดีงามอันจะนำไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงคือโลกหน้านั่นเอง
เมื่อคนหลงใหลระบบทุนนิยม นิยมเงินตราเข้ามามีอำนาจในบ้านเมือง ก็พยายามยัดเยียดความเจริญทางวัตถุให้กับชุมชนในรูปแบบต่างๆ ในคราบการพัฒนาจากรัฐ โดยไม่สนใจว่ามันจะส่งผลกระทบอะไรกับทรัพยากร หรือมันจะทำลายวิถีดั้งเดิมของชุมชนอย่างไร ดังเช่นชุมชนของเราที่การพัฒนาของรัฐเข้ามาในคราบของโครงการท่อส่งก๊าซ โรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
โครงการฯนี้ เข้ามาในชุมชนเปรียบเสมือนชัยฏอน หมายถึงปิศาจร้าย ที่เข้ามาพร้อมกับความละโมบของมนุษย์ เห็นผลประโยชน์ส่วนตัวสำคัญกว่าประเทศชาติ โดยรัฐพยายามผลักดันการก่อสร้างโครงการฯ ทั้งที่ประเทศชาติต้องสูญเสียผลประโยชน์ เห็นได้จากการที่รัฐบาลยอมทำสัญญาทั้งที่ประเทศไทยเสียเปรียบประเทศมาเลเซีย ก่อสร้างโครงการฯ ทั้งที่ประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม และที่สำคัญไม่มีความจำเป็นอันสมเหตุสมผล ที่จะต้องวางแผนใช้ก๊าซธรรมชาติปริมาณมากในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ความผิดพลาดดังกล่าวถึงขั้นทำทุกวิถีทางเพื่อเร่งก่อสร้างโรงงาน แล้วให้ประเทศมาเลเซียนำก๊าซไปใช้ก่อน
ปิศาจร้ายในคราบโครงการฯ นี้เข้ามาในชุมชนมุสลิม เพื่อทำลายวิถีชีวิตมุสลิมอันเรียบง่าย วิถีอันสงบสุขของเราถูกทำลายลงด้วยระบบอุตสาหกรรม เปลวไฟที่ลุกโชติช่วงจากปล่องไฟของโรงแยกก๊าซ เหมือนเปลวไฟนรกที่กำลังเผาไหม้เข้าทำลายพี่น้องมุสลิมของเรา เพราะเพียงการเริ่มต้นโครงการฯ ก็ใช้เงินมาฟาดหัวพี่น้องประชาชน เอาผลประโยชน์เข้ามาในชุมชน ติดสินบนเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ เข้ามาพร้อมกับคำโกหกหลอกลวง พร้อมกับการปกปิดความจริง บอกเล่าความจริงไม่หมด พฤติกรรมดังกล่าวทำให้พี่น้องเราเกิดความเห็นที่แตกต่าง เกิดความแตกแยก บาดหมางกันในชุมชน
มีการดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ โดยปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ผิดรัฐธรรมนูญ จัดทำประชาพิจารณ์เพียงเพื่อให้รัฐบาลได้ความชอบธรรม โดยจัดทำภายหลังการตัดสินใจเดินหน้าโครงการฯไปแล้ว อนุมัติให้การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่าน ทั้งที่ผู้ชำนาญการฯ มิได้เห็นชอบ และอีกหลายประเด็นที่โครงการฯนี้ดันทุรังมา ด้วยกระบวนการที่ผิดมาตลอด
จนกระทั่งปัจจุบัน ภายหลังการก่อสร้างโรงแยกก๊าซ เริ่มมีการปล่อยกลิ่นเหม็นปะปนมาในอากาศบริสุทธิ์ที่อัลลอฮประทานให้มนุษย์ มีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ป่าพรุ ทำลายแหล่งอาหารที่อัลลอฮทรงประทานมา และต่อไปคือทะเลอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งอัลลอฮสร้างไว้จะถูกทำลายลง หากเราไม่ร่วมกันปกป้องระบบทุนนิยมที่ไม่เห็นถึงความศรัทธา และหลักการศาสนาอิสลามที่ให้มุสลีมีน และมุสลีมะห์ ปฏิบัติตนตามหลัก 5 ประการ คือ
1. การปฎิญาณตนต่อพระเจ้า
2. การละหมาดห้าเวลา
3. การถือศีลอดเพื่อให้ถ่อมตนและนึกถึงคนผู้อดอยาก ฝึกความอดทนกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องทั้งหลาย
4. การจ่ายซากาตหรือการบริจาค สำหรับคนที่มีทรัพย์สินมากต้องให้ทานกับผู้ไม่มีกิน หรือผู้ถูกทอดทิ้ง และ
5. การประกอบพิธีฮัจญ์สำหรับคนมีความสามารถ และตามที่ฐานะอำนวย
แต่ระบบทุนนิยมในคราบของโครงการท่อก๊าซได้ทำลายหลักการมุสลิมทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง เริ่มตั้งแต่การปฎิญาณตนต่อพระเจ้า เพราะสิ่งที่เข้ามากับโครงการทำลายคนดี ทำให้คนฆ่าคน ฆ่าความคิด ทำให้คนหลงผิด ทำให้คนแตกแยกไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ
มุสลิมต้องละหมาด 5 เวลา เพื่อกราบไหว้และมีจิตใจที่แน่วแน่สู่อัลลอฮฺ อันเป็นการสร้างความดีงาม อยู่ในหลักศาสนา แต่เมื่อระบบทุนนิยมเข้ามา ทำให้เราละเลยการเข้าถึงพระเจ้า เอาเงิน และผลประโยชน์เป็นตัวตั้ง หนุ่มสาวต้องเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมที่ต้องแข่งกับเวลา ละเลยการละหมาด หายใจเข้า-ออกเป็นเงินตรา การแต่งกายที่เปลี่ยนไปตามที่ระบบทุนนิยมกำหนด หลงลืมการคลุมฮิญาบ ลืมการสวมหมวกกะปิเย๊าะลืมการแต่งกายที่ถูกต้องตามหลักการศาสนา
การบริจาค เมื่อโครงนี้เข้ามาในชุมชน มีการนำเงินเข้ามาแจกจ่ายเป็นจำนวนมาก มีทั้งการบริจาคให้กับสถานที่สำคัญในชุมชน อย่างเช่น โรงเรียน มัสยิด และการจ่ายในรูปค่าชดเชยผลกระทบต่างๆ ที่เกิดความเสียหายจากการดำเนินโครงการฯ ซึ่งหลายคนให้ข้อสรุปว่ามันคือการติดสินบน หาใช่การบริจาคที่แท้จริงไม่ เมื่อเงินได้มาง่าย คนก็เอาไปใช้จ่ายในสิ่งที่นำตนไปสู่อบายมุข เที่ยวคาราโอเกะ ไปเที่ยวบาร์ ดื่มเหล้าเมายา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงเพลงคาราโอเกะที่ดังออกมาจากโรงแยกก๊าซหลายครั้ง ที่รบกวนเสียงอาซานชักชวนไปสู่การกราบไว้พระเจ้า ทำให้ลืมหลักการศาสนาที่ต้องให้บริจาค
ส่วนการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม เมื่อโครงการเข้ามา คนในชุมชนเข้าไปทำงานในโรงแยกก๊าซ เข้าไปในระบบทุน ทำให้ขาดความอดทน ลืมอัลลอฮไม่ถือศีลอด เพราะถูกยั่วยุจากสิ่งชั่วร้ายมากขึ้น ไปทำตามจุดประสงค์ของชัยฎอน
สุดท้ายการประกอบพิธีฮัจญ์ บางคนนเงินที่ได้มาจากการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เป็นเงินที่ได้มาจากการสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน หรือเงินจากการติดสินบน การนำเงินไม่สะอาดดังกล่าวไปทำพิธีฮัจญ์จะถือว่าการทำฮัจญนั้นสมบูรณ์หรือไม่พี่น้องลองใคร่ครวญทบทวนดู
นอกจากรัฐทำลายหลักการศาสนาทั้ง 5 ข้อของมุสลิมแล้ว ทางด้านกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญที่รัฐต้องปฎิบัติตาม รัฐบาลยังละเมิดเสียเอง โดยอ้างผลประโยชน์ของประเทศชาติเข้ากระทำต่อพวกเรา ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ ที่ดินสาธารณประโยชน์ในพื้นที่โครงการโรงแยกก๊าซ ซึ่งโครงการฯ ฮุบที่เข้าดำเนินการก่อสร้างทั้งที่ตามกฎหมายไม่สามารถกระทำได้ เพราะโครงการเข้าไปบุกรุกและเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินทั้งหมด และปิดกั้นทางสาธารณะที่พวกเราใช้อยู่แต่เดิม แล้วพยายามขออนุญาตภายหลังการดำเนินการดังกล่าวไปแล้ว
และแม้ว่าจะมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเข้ามาตรวจสอบและได้ผลสรุปว่าโครงการฯ ทำผิดกฎหมาย ให้หยุดการกระทำดังกล่าว แล้วมาเริ่มต้นตรวจสอบกันก่อน แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉยและไม่ดำเนินการต่อผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นสำหรับพี่น้องมุสลิมเราแล้ว เส้นทางดังกล่าวหาใช่เป็นเพียงที่ดินสาธารณประโยชน์ตามกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นทางวะกัฟ ซึ่งตามหลักการศาสนาเป็นที่ดินซึ่งอุทิศเพื่อพระผู้เป็นเจ้าให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ที่ดินวะกัฟดังกล่าว เป็นการวะกัฟ ยารีย๊ะ หมายถึงการอุทิศโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เจ้าของเดิมหรือผู้หนึ่งผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์ครอบครองอีกต่อไป อีกทั้งไม่สามารถซื้อขาย แลกเปลี่ยน โอน หรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้จนกว่าจะถึงวันสิ้นโลก แต่ทางบริษัทกลับบุกรุก ครอบครอง เพื่อก่อสร้างโรงแยกก๊าซ การกระทำของบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงเป็นการละเมิดหลักการศาสนาอิสลาม และละเมิดสิทธิชุมชน โดยไม่ไยดีต่อคำทักท้วงของชาวมุสลิม พวกเราจึงต้องลุกขึ้นมาปกป้องและทวงสิทธิที่รัฐไม่เคยพยายามทำความข้าใจ
และเรื่องราวการต่อสู้เพื่อปกป้องที่ดินวะกัฟจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจาก "หากมุสลิมรู้ว่ามีที่ดินวะกัฟแล้วนิ่งเฉย ยอมให้ผู้อื่นเข้ามาครอบครอง ไม่ช่วยกันปกป้อง ไม่ช่วยกันยืนยัน และไม่เผยแพร่ความจริงแก่สาธารณะ ถือว่าบาป(ตกนรก) มุสลิมต้องรับผิดชอบ "วายิบ" เป็นสิ่งจำเป็นตามหลักการศาสนา ปฏิเสธไม่ได้"
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราอยากจะสื่อสารต่อท่านทั้งหลายว่าเราเจ็บปวดอย่างไร เพราะนอกจากสิ่งแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนไปแล้ว วิถีมุสลิมของเรากำลังโดนทำลายด้วย ลูกหลานเราจะมีชีวิตต่อไปอย่างไรในโลกที่ทุนนิยมเป็นใหญ่ โลกที่ทุกคนเอาเงินเป็นตัวตั้ง โลกที่ปราศจากการกระทำที่ดี ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง
เพราะหากเอาดุนยามาเป็นตัวตั้ง ลุ่มหลงกับผลประโยชน์ในโลกนี้ ดังที่ผู้นำประเทศตั้งเป้าหมายให้ประชาชนเห็นเพียงความสำคัญของความร่ำรวย ไม่มีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจตามหลักศาสนาแล้วมุสลิมผู้นั้นจะตกศาสนา ที่หลงใหลเพียงโลกนี้ ไม่เอาโลกหน้า
จิตใจของมุสลิมคือพระเจ้า เชื่อในความดี ความชั่ว เชื่อในโลกอาคิเราะฮ์อันหมายถึงโลกหน้า การคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซ และโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย จึงไม่ใช่เป็นเพียงการหยุดการก่อสร้างโครงการฯ เท่านั้น แต่เป็นการดำเนินชีวิตตามหลักศาสนา แม้จะมีการใช้กลไกอำนาจรัฐ การใช้อิทธิพลเถื่อน การข่มขู่คุกคาม ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพี่น้องมุสลีมีน และมุสลีมะห์ ได้ เพราะพวกเรานั้นได้สะบีลิ้ลละห์อัน หรือเป็นการอุทิศร่างกายนี้ให้อัลลอฮแล้ว และเพื่อปกป้องศาสนา ตามบทบัญญัติแห่งอัลลอฮ
พร้อมกับการกระทำดังกล่าวซึ่งเราเชื่อมั่นว่าเป็นสิ่งดีงามเราได้ขอดุอาจากอัลลอฮ การขอดุอา เป็นส่วนหนึ่งของหลักศรัทธาในศาสนาอิสลาม แต่อัลลอฮ ได้ประทานความคิดมาในหัวสมอง สร้างมือสร้างตีน มาให้เราต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้องดีงาม มิใช่เพียงนั่งงอมืองอเท้าแล้วรอพรจากพระองค์ ดังนั้น พร้อมๆ กับการขอดุอาเราต้องอุตสาหะ เพียรพยายามให้เต็มความสามารถ
การบอกสิ่งดีถือว่าเป็นการให้ทาน เราจึงต้องบอกความจริงกับสาธารณชนว่า โครงการฯนี้ หมกเม็ด ฉ้อฉล ทำลายผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทำลายทรัพยากร สิ่งแวดล้อม และทำลายชุมชน หากไม่บอกทั้งที่รู้แล้วกลับนิ่งเฉย ถือว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นบาป เราต้องลงมือกระทำ และต้องใช้วาจาบอกกล่าว และแม้ว่าเราจะบอกกล่าวแล้วยังไม่สามารถหยุดยั้งได้ บทบัญญัติกล่าวว่าเรายังคงต้องใช้จิตใจบอกกล่าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่น
การหยุดยั้งปิศาจร้ายหรือชัยฏอนที่มากับโครงการฯ นี้ จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวหาได้ดูที่การก่อสร้างโครงการว่ารุดหน้าไปถึงไหนแล้วไม่ หากแต่ตัวชี้วัดอยู่ที่ จิตใจของเรายังคงต่อสู้เพื่อสิ่งดีงาม สิ่งที่ถูกต้องตามหลักการศาสนาหรือไม่ หากเราท้อถอย จิตใจอ่อนแอ เราหยุด ปราศจากการต่อสู้ นั่นหมายถึงว่าเราล้มเหลว แต่หากจิตใจเรายังมั่นคงที่จะต่อสู้ กล้าหาญที่จะหยุดความเลวร้ายที่เข้ามา และตอบอัลลอฮได้ในวันสิ้นโลกถึงการใช้ชีวิตของเรา นั่นตะหากคือเราประสบความสำเร็จเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์
ด้วยสลามและดุอา
วันที่ 10 กรกฎาคม 2549
คำกล่าวเพิ่มเติมของ สุไรด๊ะห์
โต๊ะหลี
ทั้งหมดที่สุไลมานกล่าว ที่ผ่านมาผลกระทบจากโรงแยกก๊าสและท่อส่งก๊าสไทย-มาเลเซีย
เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราจะนำมาบอกกล่าวกับพ่อแม่พี่น้องให้รู้ ถึงความเจ็บปวดจากผลกระทบของโครงการนี้
มีอะไรบ้าง ผลกระทบจากโรงแยกก๊าสและท่อส่งก๊าสไทย-มาเลเซีย ไม่เพียงแต่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ไม่เพียงแต่ทำลายแผ่นดิน ธรรมชาติ บ้านเกิด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำลายหลักการมุสลิมของเรา
นั่นคือสิ่งที่เราถือสัจจะ ยืนหยัดว่าโครงการโรงแยกก๊าสและท่อส่งก๊าสไทย-มาเลเซียนี้ได้ทำลายหลักมุสลิม
วันนี้เราเป็นผู้ใหญ่ เรียนหลักศาสนามีความรู้กันมาแล้ว ปฏิบัติในสิ่งที่เราร่ำเรียนมา ต่อไปในภายภาคหน้า ลูกหลานของเราคงจะสูญสลายไปกับโครงการนี้ โดยที่เหมือนอย่างกับสุไลมานว่าเมื่อสักครู่ คือมีปีศาจร้ายหรือชัยฏอนที่มาทำลายล้าง จากโครงการนี้เข้ามา เป็นการชักศึกเข้าบ้าน โดยการที่เอาชัยฏอนมาหลอกหลอน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมมุติว่าเราเห็นแก่เงินเพียงในโลกนี้ ถ้าเราเห็นแต่ทุนนิยมเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ลูกหลานเราในภายภาคหน้าจะไม่รู้หลักการแห่งศาสนาอีกต่อไป ถ้าหากว่าพี่น้องทั้งหมดนี้ไม่ช่วยกันปกป้อง
เราไม่ใช่เพียงแต่ปกป้องธรรมชาติ วันนี้ไม่ใช่การแค่มามอบรับรางวัล แต่เราจะมาเพื่อลุกขึ้นต่อสู้กับโครงการนี้ต่อไป เพื่อไม่ให้หลักการศาสนาของเราสูญหายไปกับโครงการนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด วิถีทางของมุสลิมที่ถูกทำลายไป ถ้าหากว่าเราเห็นทุนนิยมเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ โลกนี้ก็จะตกเป็นของปีศาจร้าย โลกนี้จะต้องเป็นของชัยฏอน
ผู้นำปัจจุบันที่เขาเรียกกันว่าไอ้หน้าเหลี่ยม ผู้นำระดับประเทศพยายามชี้แจงให้คนทั้งประเทศว่า ต้องอยู่กับความร่ำรวย เอาสิ่งของมาเที่ยวแจก เพื่อที่จะแลกกับโครงการนี้ ไม่ได้มาบอกว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่เคยให้พี่น้องให้ความร่วมมือตรงนั้น เขาเอาของมาแจกเพื่อให้มีการยอมรับโครงการนี้ ดังที่สุไลมานว่า
การที่เราคัดค้านโครงการนี้ ไม่เพียงแค่เราจะหยุดโครงการนี้ลงเท่านั้น ไม่ให้มันก่อสร้างไปถึงไหนๆ เราไม่สนใจตรงนั้น ไม่สนใจที่สร้างเสร็จแล้วหรือยังสร้างไม่เสร็จ แต่สิ่งที่เราสนใจคือขอให้พี่น้องจำไว้ว่า หัวใจของพวกเราที่มีอยู่ทุกวันนี้คือองค์พระอัลเลาะห์ เราทำเพื่อพระผู้เป็นเจ้า จุดสำคัญคือเราต้องยืนหยัดเอาไว้ตรงนี้ ไม่ต้องสนใจว่าโรงไฟฟ้าขึ้น ไม่ต้องสนใจว่าโรงแยกก๊าสขึ้น ถ้าเราไม่ให้ขึ้นจงทำงานเพื่อองค์พระอัลเลาะห์ตรงนี้ และเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ ประกาศให้คนทั้งหลายรู้ว่า สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องสื่อสารไปให้คนอื่นๆ ที่ไม่รู้ให้ได้รับรู้
พวกเรามีสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำ เรามีหลักเกณฑ์ของมุสลิมที่ต้องมาร่วมกันกระทำตรงนี้ ถึงแม้ว่ารัฐจะใช้กลไกที่เลวทรามมาคุกคามพวกเรา พวกเราจะไม่กลัว จะไม่สนใจกับกลไกของรัฐและนโยบายของรัฐนี้ เพราะเราได้เดินตามวิถีแห่งอัลกุรอ่านซึ่งได้กล่าวไว้ว่า ท่านทั้งหลายจงยึดมั่นในพันธสัญญาขององค์พระอัลเลาะห์ให้เหนียวแน่น อย่าทำเล่นๆ อย่าทำล่อกแล่ก ความหมายคือ ท่านทั้งหลายจงเชื่อและศรัทธาด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ โดยการแสดงออกให้ประจักษ์ชัด ต้องแสดงให้แจ่มแจ้งว่าเราเชื่อในอัลกุรอ่าน ต้องชัดเจนว่าเราทำเพื่อองค์พระอัลเลาห์ตรงนี้ ต้องตระหนักในใจจริง
คำกล่าวเพิ่มเติมคุณกระรอก
(ภรรยาเจริญ วัดอักษร)
กราบเรียน อ.สุลักษณ์ และทุกๆท่านที่อยู่ ณ ที่นี้
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซึ่งได้จัดให้มีการแสดงปาฐกถาเจริญ
วัดอักษร เป็นปีที่ 3 แล้ว เพื่อรำลึกและสื่อสารเจตนารมย์ต่อคุณเจริญ และหวังว่าการจัดงานในวันนี้น่าจะเป็นการตอกย้ำภารกิจต่อพี่น้องจะนะ
ในการต่อสู้กับโครงการท่อส่งก๊าสไทย-มาเลเซีย
จริงๆ แล้ววันนี้ที่อยากจะพูดกับพี่น้องจะนะ ก็คงเป็นเรื่องเก่าที่เคยมาพูดกับพี่น้องในวันที่ 25 มิถุนายน 2549 จากการที่เฝ้าดูและติดตามการต่อสู้ของพี่น้องมา จะพบปัญหาหลายเรื่อง เรื่องแรกคือในความรู้สึกของพี่น้อง โดยรวมหรือส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นความพ่ายแพ้ กับการที่โรงแยกก๊าสวันนี้ได้สร้างเสร็จไปแล้ว และเดินเครื่อง ส่วนโรงไฟฟ้าเองก็กำลังสร้างอยู่ใช่ไหมคะ แต่ถามว่าพี่น้องคิดอย่างนี้คิดถูกไหม ถ้าคิดว่าเป็นความพ่ายแพ้
สำหรับความคิดของตัวเอง ต้องขอตอบว่าคิดไม่ถูก เพราะว่าจากแผนการณ์โดยรวม พี่น้องจะมาดูแยกส่วนไม่ได้ เพราะถ้าดูแยกส่วนจะทำให้พี่น้องไม่มีกำลังใจต่อสู้ ถ้าศึกษาแผนโดยรวมจะพบว่า เป้าหมายที่แท้จริงของรัฐบาลเขาต้องการสร้างนิคมอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้น นิคมอุตสาหกรรมถ้ามันจะเกิดขึ้น มันก็ต้องมีการคมนาคม เพราะว่านิคมอุตสาหกรรมเขาเน้นเรื่องการส่งออก ถ้าเขาไม่มีเส้นทางคมนาคม ก็ไม่สามารถขนส่งได้ เพราะฉะนั้นแผนรวมของโครงการนี้มันอยู่ที่ท่าเรือน้ำลึกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ตอนนี้มันยังไม่เกิด
ดังนั้นถ้าพี่น้องคิดว่าพ่ายแพ้ อันนี้ต้องคิดใหม่ เพราะแผนโดยรวมของโครงการเพิ่งจะสร้างไปได้เพียงหนึ่งในสาม ถามว่าโรงแยกก๊าสมีความสำคัญไหมกับโครงการนี้ ถ้าจัดลำดับความสำคัญแล้ว มันไม่ใช่หัวใจเสียทีเดียวของแผนนี้ หัวใจจริงๆ คือท่าเรือน้ำลึก วันนี้ถ้าพี่น้องหยุดท่าเรือน้ำลึกได้ นิคมอุตสาหกรรมไม่เกิด โรงแยกก๊าสก็จะล้างไปเอง ล้างเพราะอะไร เพราะคำว่าก๊าสมันไม่ใช่มีแค่ให้พลังงานเราได้อย่างเดียว มันก็ยังมีสิ่งที่แยกออกไปจากโรงแยกก๊าสที่เรียกว่าปิโตรเคมี สิ่งที่เรียกว่าปิโตรเคมีคือสิ่งที่เขาเอามาใช้ในนิคมอุตสาหกรรม
ถามว่าปิโตรเคมีคืออะไร? ก็คือสิ่งที่ไม่ใช่โลหะ ในชีวิตประจำวันมีสิ่งที่เราต้องใช้กับสิ่งที่เรียกว่าปิโตรเคมีมากมายหลายเรื่อง โฟมก็ใช่, พลาสติกก็ใช่, เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้พี่น้องหยุดท่าเรือน้ำลึกได้ โรงแยกก๊าสเชื่อว่าต้องล้างไปเอง แล้วท่อก๊าสที่เขาต่อขึ้นมา ต่อไปต้องเบนเข็มกลับไปที่ระยอง เพราะที่ระยองมีโรงแยกก๊าสอยู่ เมืองไทยไม่ได้มีโรงแยกก๊าสที่นี่เป็นโรงแรก เพราะฉะนั้นอยากจะบอกพวกเราว่า วันนี้ภารกิจของพี่น้องยังไม่ได้สิ้นสุด อย่าเพิ่งท้อแท้ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ
การต่อสู้ต้องเกิดปัญหา และต้องใช้เวลายาวนาน ไม่มีการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนที่ไหนสามารถเผด็จศึกได้ภายในวันเดียว หรือว่าในระยะเวลาอันสั้น การต่อสู้ของประชาชนทุกที่ ต้องใช้เวลาสะสม เขาเรียกว่าสะสมชัยชนะ ทำแต้มไปเรื่อยๆ ไม่มีที่ไหนในโลกที่สู้กันปุ๊บปั๊มสำเร็จได้เลย เพราะว่าหลายคนได้สะท้อนปัญหาบอกว่า เวลาออกไปชวนชาวบ้านให้ออกมาต่อสู้ ชาวบ้านก็จะบอกว่าให้รองานใหญ่ ถามเขาซิคะว่างานใหญ่นั้นคืออะไร พวกเรามีอำนาจอะไรที่จะไปเผด็จศึกได้ในวันเดียวหรือ อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องคุยกับชาวบ้าน
แล้วหลายคนบ่นว่า การต่อสู้ของพี่น้อง ยิ่งสู้กันไปคนยิ่งเหลือน้อย ขอบอกในที่นี้เลยว่า สงครามยังไม่จบอย่ารีบนับศพทหาร มันเป็นการบั่นทอนตัวเอง นับไปทำไม? มันเป็นภาวะอย่างนี้อยู่เรื่อยไปสำหรับการต่อสู้ของชาวบ้าน น้อยบ้างมากบ้างไม่เป็นไร วันนี้กิจกรรมของพวกเราอาจจะมีคนเพียงแค่ 50 คนก็ไม่เป็นไร วันข้างหน้าอาจจะมีถึง 500 คน ก็ดีขึ้น มันมีปัญหาอยู่เรื่อยไป
พวกเราพี่น้องบ่อนอก-บ้านกรูดเอง ถามว่าสู้กันมาใช้เวลายาวนานไหม? คำตอบคือ 8 ปีเต็มกว่าจะได้รับชัยชนะ แล้วก็เผชิญกับอุปสรรคขวากหนามมากมาย พวกเราก็เคยท้อ โดยเฉพาะพี่น้องที่นั่งอยู่บริเวณนี้ ถ้าในความรู้สึกของหนู หนูถือว่าพี่น้องเป็นหัวหอกในการต่อสู้ เพราะฉะนั้น เหมือนกับที่บอกไปครั้งที่แล้วว่า ถ้าพี่น้องซึ่งเปรียบเสมือหัวหอกท้อแท้ ก็เท่ากับเป็นหัวหอกที่ไม่มีความแหลมคม แล้วมันจะนำพาขบวนไปอย่างไร ในส่วนของประชาชนที่จะเข้ามาร่วมเป็นด้ามหอก ถามว่าเขาจะถูกนำพาไปในทิศทางไหนได้บ้าง มันจะถูกทิศถูกทางได้อย่างไร ถ้าพี่น้องเกิดความรู้สึกท้อแท้
เพราะฉะนั้น วันนี้อยากจะบอกกับพี่น้องว่า ภารกิจของพี่น้องที่จะต้องทำ ถ้ายืนหยัดการต่อสู้ต่อไปก็คือว่า เราจะต้องเอาความรู้ ความคิด ไปเผยแพร่ต่อกับพี่น้องที่ยังไม่รู้ไม่เข้าใจ เพราะพวกเขาก็สามารถเข้าใจได้เหมือนเรา ว่าวันนี้ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ ก็เหมือนกับที่มีคนพูดว่า มวยเพิ่งจะเริ่มต้นยกหนึ่ง แต่ถามว่าภารกิจนี้จะโยนให้ใครคนใดคนหนึ่ง ใช่ไหม? ไม่ใช่ พี่น้องทุกคนต้องถือว่าเป็นภารกิจร่วม ต้องออกไปด้วยกัน มันถึงจะมีพลัง การไปทำงานมวลชนในหมู่บ้าน การไปใส่ความคิดเขานั้น ถ้าเราไปกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน มันมีน้ำหนักมากกว่าให้ใครคนใดคนหนึ่งไปทำคนเดียว
เพราะฉะนั้นอันนี้ฝากให้พี่น้องคิดกันใหม่ ว่าอย่าปล่อยให้ภารกิจนี้เป็นของคนใดคนหนึ่ง และวันนี้อยากบอกพวกเราว่า อย่าเพิ่งท้อแท้ และรู้สึกสิ้นหวังกับการต่อสู้ ขอให้เราคิดว่าภารกิจของเรายังคงอยู่ เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมของเราให้ดีขึ้น ขอบคุณค่ะ
สุนทรกถา อาจารย์สุลักษณ์
ศิวรักษ์
ขอคารวะแด่ทุกๆท่าน
ผมมีความยินดีมากที่ได้มาเยี่ยมที่นี่อีกครั้งหนึ่ง บางท่านคงจำได้ว่าผมมาหลายครั้งแล้ว
และในครั้งนี้ผมจะไม่พูดยาว จะพูดเพียงสามประเด็น
ประเด็นที่หนึ่งในการมอบเหรียญเจริญวัดอักษรครั้งนี้ เป็นครั้งที่ ๓ เหรียญเจริญวัดอักษรนี่เป็นเหรียญที่สำคัญ เป็นเหรียญสัญลักษณ์ของคนธรรมดาสามัญ ที่ยืนหยัดอยู่ข้างความถูกต้องดีงาม จนถูกสังหารชีวิตไป ที่ผ่านมาเรายกย่องแต่คนชั้นสูง มีทั้งเจ้า ทหาร นักการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ฝ่ายราษฎร ส่วนใหญ่เป็นคนที่เอาเปรียบราษฎร แต่เรายกย่อง เห็นอนุสาวรีย์ทุกเมือง มีเกียรติยศ ชื่อเสียง มีงานทีหนึ่งก็เลี้ยงกันอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งล้วนแต่เป็นเงินราษฎร โดยไม่มีการคำนึงถึงราษฎรสามัญ
เพราะฉะนั้นเหรียญเจริญวัดอักษร จึงเป็นตัวอย่างว่าเราจะต้องยกย่องราษฎรคนธรรมดาสามัญ ไม่ใช่ยกย่องเพียงการให้เหรียญเท่านั้น ยกย่องว่าเหรียญนี้เป็นกำลังใจให้คนอื่นๆ ซึ่งเป็นสามัญชนที่ยืนอยู่ฝ่ายความถูกต้องดีงาม อันนี้เป็นประเด็นที่หนึ่ง
ประเด็นที่สอง ผมได้ฟังปาฐกถาเจริญวัดอักษรมาเป็นครั้งที่ ๓ ทุกครั้งผมรู้จักจับใจ เพราะผู้ที่มาแสดงปาฐกถานั้นเป็นผู้ที่ต่อสู้มาตลอด ตั้งแต่ปาฐกคนแรกซึ่งเป็นสตรี ปาฐกคนที่สองเป็นพระภิกษุ ปาฐกครั้งที่สามนี้มีทั้งบุรุษและสตรี โดยเฉพาะปาฐกถาในวันนี้ ผมได้รับบทเรียนที่สำคัญมาก บทเรียนนั้นก็คือว่า พี่น้องที่จะนะ ต่อสู้เพื่อพระผู้เป็นเจ้า อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คนถือพุทธอาจไม่ใช้คำว่าพระผู้เป็นเจ้า แต่ก็ความหมายเดียวกันคือ เราต้องต่อสู้เพื่อสิ่งที่ประเสริฐสุด สูงสุด ซึ่งบางครั้งถ้อยคำของมนุษย์เข้าไม่ถึง อันนี้เป็นการต่อสู้ที่สำคัญที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะแสดงถึงความเป็นมนุษย์ ซึ่งจะเข้าถึงสิ่งสูงสุดได้
อันนี้คือสิ่งซึ่งระบบทุนนิยมทำไม่ได้ ระบบทุนนิยมทำให้มนุษย์กลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ทำให้มนุษย์หมดความเป็นมนุษย์ และวันนี้ผมรู้สึกดีใจที่ปาฐกคนที่สองได้พูดให้เห็นว่า การต่อสู้อันนี้ไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะ ไม่ใช่เรื่องท่อก๊าส ไม่ใช่เรื่องโรงแยกก๊าส หรือโรงไฟฟ้าเท่านั้น แต่การต่อสู้นั้นต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้องดีงาม เพื่อรับใช้พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และอันนี้ครับจะเป็นชัยชนะที่สำคัญ
และผมดีใจที่ปาฐกคนที่สองกล่าวว่า การต่อสู้มันไม่ใช่แค่ทุนนิยมในเมืองไทย มันเป็นทุนนิยมโลกที่เข้ามา เพราะฉะนั้นไอ้หน้าเหลี่ยมเป็นเพียงสุนัขรับใช้(เสียงปรบมือ) พ่อของมันไอ้บุชก็เป็นสุนัขรับใช้ พวกนี้คือสุนัขรับใช้ทุนนิยม เพราะอะไร ก็เพราะมันรับใช้ปีศาจ มันรับใช้มาร มันรับใช้เงิน มันรับใช้อำนาจ ด้วยเหตุนี้ปีศาจและมารจะได้รับชัยชนะได้อย่างไร พวกมันอาจได้รับชัยชนะในระยะสั้น แต่ถ้าเราไม่ตระหนักในความข้อนี้ เราจะแพ้มัน
ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เป็นชาวคริสต์ เป็นคนอเมริกัน เป็นนักเทววิทยา เขาบอกว่าอันตรายของโลกเวลานี้ คือจักรวรรดินิยมอย่างใหม่ของอเมริกัน และถ้าบุชสามารถดำเนินการตามแนวทางนี้ได้ มันก็จะสามารถคลุมโลกนี้ทั้งหมด ให้เป็นโลกซึ่งมีวัฒนธรรมหนึ่งเดียว ที่เรียกว่า monoculture วัฒนธรรมทุนนิยม วัฒนธรรมโคคาโคล่า วัฒนธรรมนุ่งน้อยห่มน้อย สายเดี่ยวอะไรต่างๆเหล่านี้ เป็นเรื่องที่เขามอมเมามาจากกระแสของบุช แล้วเขาบอกว่าไม่มีรัฐไหน ประเทศไหน ที่จะต่อต้านบุชได้ ดูอัฟกานิสถานเป็นตัวอย่าง ดูอิรักเป็นตัวอย่าง ซึ่งลุกขึ้นต่อสู้มันก็เอาทหารเข้าไปโจมตี ส่วนเมืองไทยไม่มีการต่อสู้เพราะสยบยอมเด็ดขาด ทักษิณสยบยอมเด็ดขาด ตอนนี้ประเทศอินเดียซึ่งเคยเป็นประเทศสังคมนิยมก็เริ่มสยบยอมต่ออเมริกัน
จอห์น์ คอร์ป คนอเมริกันคนนี้บอกว่า การต่อสู้มีเพียงอย่างเดียวที่จะต่อสู้กับบุชได้ กล่าวคือต้องใช้ศาสนธรรม ต้องใช้จริยธรรม ต้องใช้จิตวิญญานต่อสู้ อันนี้สำคัญมาก เพราะฉะนั้นการต่อสู้คนชุมชนจะนะ เป็นการต่อสู้มุ่งที่ศาสนธรรม มุ่งที่จิตวิญญาน มุ่งที่ความถูกต้องดีงาม อันนี้เป็นหนทางแห่งชัยชนะ ท่านอาจจะบอกว่าเรามีคนจำนวนน้อย แต่ทุกครั้งของการเปลี่ยนแปลงในโลก ผมขออ้างคำของมาร์กาเร็ต มีด ซึ่งเป็นนักมานุษยวิทยาคนสำคัญของอังกฤษ เธอบอกว่าการเปลี่ยนแปลงในโลก เปลี่ยนแปลงได้เพราะคนจำนวนน้อย ไม่เคยเป็นคนจำนวนมาก พวกคนจำนวนน้อยเหล่านี้ได้อุทิศตน เมื่ออุทิศตนจนเต็มที่แล้ว คนจำนวนมากจะตามมา
อย่างที่คุณกระรอกบอก หัวหอกต้องแหลมคม แหลมคมคือศาสตรา ที่อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นั่นคือเอาศาสตราที่แหลมคมในทางธรรมะ ในทางถูกต้องดีงาม มาเป็นหัวหอกแล้วให้คนทั้งหลายทำตาม อย่าลืมว่า การต่อสู้ที่นี่ เป็นการต่อสู้ในระดับท้องถิ่นที่โยงไปสู่ระดับชาติ การต่อสู้กับทักษิณเป็นการต่อสู้ระดับชาติ แต่ทั้งหมดนี้มันจะต้องโยงไประดับโลกอันเดียวกัน
มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
ซึ่งเป็นคนที่ผมไม่ได้รักใคร่ชอบพอด้วยนักหนา แต่ตอนที่เขาจะลงจากตำแหน่ง ได้ประชุมกับบรรดาผู้นำโลกที่สาม
ซึ่งบรรดาโลกที่สามของเรานี้ ศัตรูสำคัญของพวกเราคือจักรวรรดิอเมริกัน เราสู้มันไม่ได้เพราะมันมีอาวุธร้ายแรงที่สุด
ทันสมัยที่สุด รุนแรงที่สุด มันคุมสื่อสารมวลชนทั้งโลก มันมีเงินที่จะซื้ออะไรได้หมด
แต่มหาธีร์ มูฮัมหมัดบอกว่า เพื่อนของเราก็คือผู้คนในสหรัฐอเมริกา ผู้คนในสหรัฐอเมริกาทุกวันนี้เริ่มต่อต้านบุชมมากขึ้นทุกที
เรามักจะไม่ค่อยทราบเพราะสื่อไม่ค่อยเผยแพร่ออกมา คนในอังกฤษเริ่มต่อต้านโทนี่
แบล์ร มากขึ้นทุกทีแล้ว แม้คนในเมืองไทยก็เริ่มต่อต้านไอ้หน้าเหลี่ยมมากขึ้นทุกทีแล้ว
และการต่อต้านนั้น ไม่มีอย่างอื่นนอกจากการใช้ศาสนธรรม ใช้สัจจะ ใช้อหิงสวิธี
เพราะเขาไม่มีสัจจะ เขามีแต่อสัตย์ เขามีแต่ความรุนแรง เราต้องเอาสันติวิธีสู้
เขาใช้ความฉ้อฉลบิดพลิ้ว เราใช้ความซื่อตรงเข้าต่อสู้ เราต้องปลุกมโนธรรมสำนึกของเราทุกคนให้มีความซื่อ
มีความตรง มีความรักต่อพระผู้เป็นเจ้า รักเพื่อนมนุษย์ รักสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ
พร้อมรวมตัวกัน มีสามัคคีธรรม อันนี้ครับคือชัยชนะของเรา
เพราะฉะนั้นผมยินดีมากที่ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ กับพวกเราในที่นี้ พร้อมถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะมอบเหรียญเจริญวัดอักษรให้แก่ท่านทั้งหลายในวันนี้ ขอบคุณมากครับ
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙ / มหาวิทยาลัยประชาชนลานหอยเสียบ
คัดลอกเอกสารคำพิพากษาคดีท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย
(ตัวแทนเครือข่ายคัดค้านท่อส่งก๊าซไทย-มาเลเซียฯ)
ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I
สารบัญเนื้อหา 3 I สารบัญเนื้อหา
4
I สารบัญเนื้อหา
5
ประวัติ
ม.เที่ยงคืน
สารานุกรมลัทธิหลังสมัยใหม่และความรู้เกี่ยวเนื่อง
e-mail :
midnightuniv(at)yahoo.com
หากประสบปัญหาการส่ง
e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com
ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกำลังจัดทำบทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ทั้งหมด
กว่า 950 เรื่อง หนากว่า 15000 หน้า
ในรูปของ CD-ROM เพื่อบริการให้กับสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านในราคา 150 บาท(รวมค่าส่ง)
(เริ่มปรับราคาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548)
เพื่อสะดวกสำหรับสมาชิกในการค้นคว้า
สนใจสั่งซื้อได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ
midnight2545(at)yahoo.com
สมเกียรติ
ตั้งนโม และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(บรรณาธิการเว็บไซค์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
หากสมาชิก ผู้สนใจ และองค์กรใด ประสงค์จะสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชุมชน
และสังคมไทยสามารถให้การสนับสนุนได้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในนาม สมเกียรติ
ตั้งนโม
หมายเลขบัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารกรุงไทยฯ สำนักงานถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หรือติดต่อมาที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com
ข้อความบางส่วนจากบทความ
โครงการฯนี้ เข้ามาในชุมชนเปรียบเสมือนชัยฏอน หมายถึงปิศาจร้าย ที่เข้ามาพร้อมกับความละโมบของมนุษย์
เห็นผลประโยชน์ส่วนตัวสำคัญกว่าประเทศชาติ โดยรัฐพยายามผลักดันการก่อสร้างโครงการฯ
ทั้งที่ประเทศชาติต้องสูญเสียผลประโยชน์ เห็นได้จากการที่รัฐบาลยอมทำสัญญาทั้งที่ประเทศไทยเสียเปรียบประเทศมาเลเซีย
ก่อสร้างโครงการฯ ทั้งที่ประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม
ปิศาจร้ายในคราบโครงการฯ นี้เข้ามาในชุมชนมุสลิม เพื่อทำลายวิถีชีวิตมุสลิมอันเรียบง่าย วิถีอันสงบสุขของเราถูกทำลายลงด้วยระบบอุตสาหกรรม เปลวไฟที่ลุกโชติช่วงจากปล่องไฟของโรงแยกก๊าซ เหมือนเปลวไฟนรกที่กำลังเผาไหม้เข้าทำลายพี่น้องมุสลิมของเรา เพราะเพียงการเริ่มต้นโครงการฯ ก็ใช้เงินมาฟาดหัวพี่น้องประชาชน เอาผลประโยชน์เข้ามาในชุมชน ติดสินบนเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ เข้ามาพร้อมกับคำโกหกหลอกลวง
กฎหมายจะยังคงเป็นแค่ตัวอักษรบนแผ่นกระดาษอยู่ตราบนั้น หากประชาชนไม่ลุกขึ้นมาใช้สิทธิที่บัญญัติไว้ในกฎหมายอย่างจริงจัง ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไม่ได้อยู่ที่ได้พิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา แต่อยู่ที่มีผู้นำไปใช้จริง และเผชิญกับผลของการใช้กฎหมายอย่างไม่พรั่นพรึง และนี่คือการนิยามกฎหมายโดยประชาชน ไม่ใช่โดยดุษฎีบัณฑิตทางกฎหมาย ซึ่งอาจเกรงกลัวต่ออำนาจของบุคคลเสียยิ่งกว่ามหิทธานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า