นักศึกษา สมาชิก และผู้สนใจทุกท่าน หากประสงค์จะตรวจดูบทความอื่นๆที่เผยแพร่บนเว็ปไซค์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ท่านสามารถคลิกไปดูได้จากตรงนี้ ไปหน้าสารบัญ
ผลงานวิชาการชิ้นนี้ เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็ปไซต์ วันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ : ไม่สงวนสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์ทางวิชาการ
เว็ปไซต์นี้สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอุดมศึกษาได้โดยไม่จำกัดคุณวุฒิ
สำหรับผู้สนใจส่งบทความทางวิชาการเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน กรุณาส่งผลงานของท่านมายัง midarticle(at)yahoo.com หรือ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com
The author of this work hereby waives all claim of copyright (economic and moral) in this work and immediately places it in the public domain... [copyleft] กรุณานำบทความไปใช้ต่อโดยอ้างอิงแหล่งที่มาตามสมควร

The Midnight University

ทางเลือกระหว่างความรุนแรงกับสันติภาพ
เรื่องที่โจรใต้เข้าใจ...แต่นายกฯทักษิณไม่เข้าใจ
โสภณ สุภาพงษ์
กรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ


บทความเพื่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงภาคใต้

หมายเหตุ
บทความชิ้นนี้เป็นการรวบรวมผลงานที่เคยตีพิมพ์แล้วบนหน้าหนังสือพิมพ์มติชน และประชาชาติ
ประกอบด้วย ๑. เรื่องที่โจรใต้เข้าใจ...แต่นายกฯทักษิณไม่เข้าใจ
, ๒. ความไม่รู้เรื่องใต้ของรัฐไทย
ทางกองบรรณาธิการพิจารณาว่า เป็นบทความที่ช่วยเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้
ที่บรรดาผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจน่าพิจารณา จึงได้นำมาเสนอบนเว็ปไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

(บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
บทความฟรี มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ 716
เผยแพร่บนเว็ปไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๘

(บทความทั้งหมดยาวประมาณ 4.5 หน้ากระดาษ A4)

 



๑. เรื่องที่โจรใต้เข้าใจ...แต่นายกฯทักษิณไม่เข้าใจ

โสภณ สุภาพงษ์ กรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ
(ที่มา... http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03pub01271048&day=2005/10/27)

โจรที่โหดร้ายในภาคใต้นั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ไฟใต้นั้นจะลุกลามจนแบ่งแยกดินแดนได้นั้นจะต้องประกอบด้วยอะไร ในขณะที่นายกฯทักษิณไม่เข้าใจ ที่สำคัญกว่านั้น โจรรู้จักและเข้าใจนิสัยนายกฯทักษิณดีมาก และใช้นายกฯทักษิณช่วยจุดไฟให้แรงขึ้น ในขณะที่นายกฯทักษิณดูจะไม่รู้จักและไม่เข้าใจโจรแม้แต่น้อย

โจรและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้หลายๆกลุ่มนั้น ถึงจะมีเป้าหมายคล้ายกัน แต่ก็มีวิธีปฏิบัติที่ขัดแย้งกัน ไม่เหมือนกัน เมื่อกลุ่มโจรยกพวกเข้าไปฆ่าพระ 1 รูป ฆ่าเด็กศิษย์วัด 2 คนอย่างโหดร้าย และเผากุฏิไม้ ในวัดพรหมประสิทธิ์ อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 15 ต.ค.2548 นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่บอกว่า พอรู้ระแคะระคายว่าใครเป็นผู้ทำ ในขณะที่แม่ทัพบกบอกว่ายังเหมือนตาบอดคลำช้าง

แต่นายกฯทักษิณให้สัมภาษณ์ทันทีว่า "ผมรู้หมดแล้วว่าใครทำ" เช่นเดียวกับการปล้นปืนมากกว่า 400 กระบอกที่กองพันทหารตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.2547 ซึ่งนายกฯทักษิณก็เคยให้สัมภาษณ์ ว่ารู้หมดแล้วว่าใครทำ

จนถึงบัดนี้เกือบ 2 ปี มีการก่อเหตุร้ายมากกว่า 6,000 ครั้ง มีคนตายมากกว่า 1,000 คน นายกฯทักษิณยังจับโจร ทั้งพุทธทั้งมุสลิมที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ ทั้งพุทธทั้งมุสลิมตามข้างถนนตามบ้านตามสวนแทบไม่ได้เลย ที่จับมานั้นศาลก็ให้ปล่อยเพราะเป็นผู้บริสุทธิ์

จนถึงขณะนี้นายกฯทักษิณก็ยังไม่รู้จักกลุ่มโจรที่บงการแท้จริง แต่การบริหารบ้านเมืองและปราบโดนชาวบ้านที่บริสุทธิ์โดยไม่เข้าใจกลับช่วยทำให้กลุ่มโจรก่อเหตุร้ายได้มากขึ้น กลุ่มต่างๆ ที่อยากแบ่งแยกดินแดนกลับแข็งแรงขึ้น ชาวบ้านที่บริสุทธิ์ทั้งพุทธทั้งมุสลิม ต้องล้มตาย มีชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ยาก หวาดกลัวหวาดระแวงทั้ง 3 จังหวัด

โจรนั้นเข้าใจดีว่า ธรรมชาติของไฟน้ำมันที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงได้นั้น ต้องมีส่วนประกอบครบ 3 ประการ

ประการที่ 1คือประกายไฟ
ประการที่ 2 คือน้ำมัน
ประการที่ 3 คือ อากาศ
ไฟน้ำมันนั้นไม่สามารถดับด้วยน้ำ จะดับได้ด้วยการกันน้ำมันออกจากไฟ หรือกันอากาศ ไม่ให้รวมตัวกับไฟเท่านั้น

การดับไฟน้ำมันที่รุนแรงนี้จึงต้องใช้โฟมฉีดปกคลุมไฟเพื่อกันอากาศออกจากกองไฟ หรือกันน้ำมันจากกองไฟ ไฟจึงจะดับ!!!

- ประกายไฟ หรือไฟ นั้นเปรียบเสมือนโจร และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนต่างๆ
- อากาศนั้น เปรียบเสมือนชาวมุสลิมทั่วโลก 1,400 ล้านคน กลุ่มประเทศมุสลิมทั่วโลก เช่น โอไอซี มาเลเซีย ศาสนาอิสลาม
- น้ำมันนั้นเปรียบเสมือนการถูกดูถูก การถูกหยามเหยียด การถูกกดขี่ ข่มเหง อุ้มฆ่า จากเจ้าหน้าที่บางกลุ่มที่เป็นทั้งมุสลิมและพุทธ

ชาวบ้านทั้งพุทธและมุสลิม เปรียบเสมือนวัสดุที่กำลังถูกไฟน้ำมันลุกท่วม

เมื่อปี 2524 รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเป็นเสมือนโฟมที่กันน้ำมันและอากาศออกจากไฟ ศอ.บต.กันการถูกกดขี่ (น้ำมัน) ออกจากโจร (ไฟ) โดยมีประธานที่มีศีลธรรมและมีบารมีที่จะส่งเสริมเจ้าหน้าที่ที่ดี ได้ลงโทษและโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่กดขี่ข่มเหงหลายพันคน ส่งเสริมให้มีผู้นำทางศาสนาเข้าร่วมแก้ไขปัญหา ปราบปรามโจรต่อเนื่อง ขจัดการดูถูกหยามเหยียดศาสนาอิสลามและคนมุสลิมจากรัฐ

ชาวพุทธได้รับการดูแลมีชีวิตที่ปลอดภัย ชาวบ้านสามัคคี ด้วยการดำเนินการที่ถูกต้องในช่วงปี 2524 ถึง 2544 ทำให้ประเทศไทยสามารถกันประเทศมุสลิม (อากาศ) ออกจากโจร (ไฟ) ได้ โดยประเทศไทยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกลุ่มประเทศมุสลิมทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศมาเลเซีย

มีข้อมูลที่ทำให้รู้ว่า มีสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนบางคนไปร่วมฝึกกับนักรบมูจาฮิดีน ที่ชายแดนปากีสถานและอัฟกานิสถาน ซึ่งรัฐบาลอเมริกันฝึกให้เพื่อใช้ก่อการร้ายต่อรัสเซียในช่วงปี 2528 และการประชุมกลุ่มเจไอในมาเลเซีย ได้เสนอที่จะใช้ความรุนแรงในประเทศไทย แต่ได้รับการคัดค้านจากกลุ่มมูจาฮิดีนนอกประเทศ

ก่อนปี 2544 โจรภาคใต้ เข้าใจดีว่าขบวนการแบ่งแยกดินแดนไม่สามารถเติบโตได้ เพราะไม่ได้รับความสนับสนุนจากมาเลเซีย กลุ่มประเทศมุสลิมโอไอซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ได้รับการเห็นด้วยจากมุสลิมที่ยึดมั่นในศาสนา ศอ.บต.ได้ทำหน้าที่เป็นโฟม ป้องกันการหยามเหยียด กดขี่ (น้ำมัน) และกลุ่มประเทศมุสลิมมาเลเซีย (อากาศ) ออกจากการรวมตัวกับโจร (ไฟ) ไฟใต้ค่อยๆมอดลงเรื่อยๆ

ในปี 2544 เมื่อรัฐบาลทักษิณเข้ามา สิ่งแรกที่นายกฯทักษิณทำ คือยุบศอ.บต.ทิ้ง ชาวบ้านบอกว่า เจ้าหน้าที่บางกลุ่มที่กำลังถูกศอ.บต.ลงโทษ กลับมาแก้แค้นชาวบ้านที่ให้ข่าวกับทางราชการ มีการอุ้มฆ่ากดขี่ข่มเหงโดยผู้ร้ายที่ไม่รู้ว่าคือใคร

ตัวอย่างความไม่เข้าใจที่สร้างปัญหา เช่น หลักความศรัทธาที่สำคัญ 1 ใน 6 หลัก ของอิสลามที่มุสลิม 1,400 ล้านคนศรัทธา คือ ความศรัทธาในโลกหน้าและการเกิดใหม่ในวันพิพากษาผู้ที่ทำดีจะได้รับรางวัล ผู้ทำชั่วจะได้รับการลงโทษ คาดว่าด้วยความไม่เข้าใจในเรื่องนี้ นายกฯทักษิณได้เคยพูดคำว่า ผมจะทำให้สำเร็จในโลกนี้ได้โดยไม่ต้องไปรอโลกหน้า และอื่นๆอีกบางประการหรือ การบอกว่าจะสอนเรื่องรอมฎอนให้ชาวบ้านมุสลิม จึงเป็นเรื่องขมขื่นต่อชาวบ้าน ที่เลยจากการหัวเราะไปมาก น้ำมันได้ถูกใส่เข้าไปในไฟโดยไม่เข้าใจ

สำหรับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แม่ทัพและรองแม่ทัพภาค 4 รวมทั้งแม่ทัพบกนั้นเข้าใจปัญหาดี แต่โจรได้อาศัยให้นายกฯทักษิณออกมาเติมน้ำมันให้เรื่อยๆ

สำหรับประเทศมาเลเซียซึ่งก่อตั้งจากการรวมรัฐอิสระต่างๆ 13 รัฐ เข้ามารวมกันนั้น มีการสู้รบและความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติ คุกรุ่นต่อเนื่องมายาวนาน กษัตริย์มาเลเซียต้องหมุนเวียนผลัดกันดำรงตำแหน่งจากรัฐต่างๆทุก 5 ปี มีความขัดแย้ง และต้องมีกฎหมายพิเศษเฉพาะรัฐในการบริหารประเทศ

นายกรัฐมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียนั้นกังวลปัญหาในประเทศไทย ไม่ใช่เพราะรักประเทศไทย แต่เพราะห่วงว่า ถ้าโจรในประเทศไทยแข็งแรงขึ้น กลุ่มที่ต้องการแยกเป็นรัฐอิสระในประเทศมาเลเซียมากมายก็จะก่อตัวขึ้นเช่นกัน อันที่จริง ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเป็นผู้มีประสบการณ์ช่วยเหลือเราได้ และเราต้องเอาเขาเป็นพวกให้ได้

โจรนั้นเข้าใจดีว่า รัฐบาลมาเลเซียจะไม่สนับสนุนโจร และถ้ามาเลเซียช่วยประเทศไทย ก็จะปราบโจรได้ แต่นายกฯทักษิณ กำลังไปทะเลาะกับรัฐบาลมาเลเซียเสียแล้ว!!!


2. ความไม่รู้เรื่องใต้ของรัฐไทย
(ที่มา : รายงานจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติ)

ไฟใต้ที่ลุกโชนแบบไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงในเร็ววัน กลุ่มนักวิชาการจึงมิอาจนิ่งดูรัฐบาลแก้ไขปัญหาแต่ฝ่ายเดียวได้ ล่าสุดสำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มูลนิธิเอเชีย, ศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง คณะรัฐศาสตร์ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ได้จับมือกันจัดสัมมนา "สมานฉันท์บนพื้นฐานของการให้ความรู้ : แนวทางการแก้วิกฤตชายแดนภาคใต้" ขึ้น ณ อาคารสถาบัน 3 คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญในเรื่องของความรู้ค่อนข้างน้อย เมื่อตั้งโจทย์ผิด การแก้ปัญหาต่างๆ ก็ยากจะหาข้อยุติได้" นี่คือข้อสรุปที่ทำให้คนหลายร้อยชีวิตมารวมตัวกันในวันนั้น หลายมุมมองที่สะท้อนผ่านงานวิจัย ล้วนแต่เป็นความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นทางออกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เปิดเวทีด้วยการชวนให้ทุกคนคิดถึงวิธีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคนไทยโบราณ ที่มักพูดกันเสมอๆ ว่า "ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา" เป็นยุทธวิธีที่น่าสนใจ เพราะตั้งอยู่บนโลกทัศน์บางอย่างที่มีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในโลกปัจจุบัน

ศ.ดร.นิธิกล่าวว่า การกระทำของคนไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ ล้วนแต่มีปัจจัยผลักดันอยู่เบื้องหลัง หากเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยเริ่มจากการยอมรับก่อนว่าการกระทำต่างๆ มีปัจจัยผลักดันให้เขาเหล่านั้นกระทำในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ใช่เหตุเพราะเขาเป็นคนชั่ว หรือว่าเป็นคนไม่ดี

ประการที่สอง ต้องประเมินสถานการณ์ที่เขาเป็นอยู่ด้วยความเข้าใจ เห็นใจเขา ต้องมีความรู้ถึงปัจจัยแวดล้อม รู้สึกถึงความทุกข์ ความร้อนที่เขาเผชิญอยู่ เข้าใจ และให้อภัยเขา เพราะเหตุใดเขาถึงต้องทำอย่างนั้น ตรงนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของการสมานฉันท์

ดังนั้น เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่รู้สึกว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดอยู่ตลอดเวลา แล้วบอกว่าสมานฉันท์ คงเป็นไปไม่ได้ ต้องยอมรับก่อนว่าเราก็ผิด เขาก็ผิด เมื่อผิดด้วยกันทั้งคู่ การจะยุติการกระทำใดๆ จำเป็นต้องยุติความผิดของฝ่ายเราก่อน ความสมานฉันท์จึงจะเกิด

ความน่าสนใจในเรื่องความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือว่าถ้าให้คนไทยเล่าประวัติศาสตร์ของปัตตานี ก็จะเล่าถึงการกบฏของเจ้าองค์นั้น เจ้าองค์นี้มีการส่งกองทัพไปปราบ แต่ขาดบริบท ไม่มีใครเคยเล่าว่า โต๊ะครูคนนั้น ผู้นำทางการเมืองคนนี้ที่ก่อการกบฏมีเงื่อนไขอะไรที่ก่อการกบฏ ทุกคนสนใจแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงนี้คือตัวอย่างของการไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่สนใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดภายใต้เงื่อนไขอะไร

เอาเข้าจริง ทั้งโลกมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ปัตตานีน้อยมาก อีกส่วนหนึ่งเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนปัตตานี วันนี้ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า เป็นเพราะคนปัตตานียากจน แต่คำถามที่น่าสนใจคือ คนปัตตานียากจนอย่างนี้มาเป็น 1,000 ปี หรือว่าเพิ่งจะจน แล้วจนเพราะอะไร ไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

ด้าน ผศ.ดร.อิบราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขต เจ้าของงานวิจัยปอเนาะกับการสร้างอัตลักษณ์ของชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้หยิบยกทฤษฎี 4 B มาอธิบาย โดย

B 1 คือ Background พื้นเพความหลังของจังหวัดชายแดนภาคใต้ความเป็นชาตินิยมของคนปัตตานี
B 2 คือ Benefits ผลประโยชน์
B 3 คือ Beliefs ความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรม กลุ่มนี้จะไม่มีอุดมคติ ในเรื่องของการแบ่งแยกดินแดน
B 4 คือ Bureaucrat เจ้าหน้าที่และคนของรัฐ

ปัญหาความไม่สงบส่วนใหญ่มักจะถูกนำไปผูกโยงกับ B 1 ทั้งๆ ที่บางครั้งอาจจะเกิดจาก B 1 และ B 2 แต่ B 3 ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่และเป็นผู้รักสันติ กลับได้รับผลกระทบที่รุนแรงและถูกมองว่าเป็นแนวร่วมของกลุ่มB 1


สิ่งที่น่าห่วงคือรัฐไม่สามารถแยกระหว่าง B 1 กับ B 3 ได้ ด้วยเหตุนี้หลายครั้งที่กลุ่ม B 3 รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงเปลี่ยนวิถีชีวิตไปอยู่กลุ่มB 1

การวางโจทย์ปัญหาที่ผิดพลาดทำให้สถานการณ์ต่างๆ ยิ่งบานปลายขึ้น การแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องอาศัยความเข้าใจ ความเห็นใจ และความจริงใจ และแก้ปัญหาบนพื้นฐานของมิติทางวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ แต่หากรัฐขาดความเข้าใจในมิติเหล่านี้จะยิ่งทำให้ปัญหาลุกลามไปอีก

 

 



บทความที่นำเสนอก่อนหน้านี้ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
หากนักศึกษาและสมาชิกท่านใตสนใจ
สามารถคลิกไปอ่านได้จากที่นี่...คลิกที่ภาพ

 

สารบัญข้อมูล : ส่งมาจากองค์กรต่างๆ

ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I
สารบัญเนื้อหา 3
I สารบัญเนื้อหา 4
ประวัติ ม.เที่ยงคืน

สารานุกรมลัทธิหลังสมัยใหม่และความรู้เกี่ยวเนื่อง

webboard(1) I webboard(2)

e-mail : midnightuniv(at)yahoo.com

หากประสบปัญหาการส่ง e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com

ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม

 

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกำลังจัดทำบทความที่เผยแพร่บนเว็ปไซคทั้งหมด กว่า 700 เรื่อง หนากว่า 10000 หน้า
ในรูปของ CD-ROM เพื่อบริการให้กับสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านในราคา 150 บาท(รวมค่าส่ง)
(เริ่มปรับราคาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548)
เพื่อสะดวกสำหรับสมาชิกในการค้นคว้า
สนใจสั่งซื้อได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ
midnight2545(at)yahoo.com

 

สมเกียรติ ตั้งนโม และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(บรรณาธิการเว็ปไซค์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
หากสมาชิก ผู้สนใจ และองค์กรใด ประสงค์จะสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชุมชน
และสังคมไทยสามารถให้การสนับสนุนได้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในนาม สมเกียรติ ตั้งนโม
หมายเลขบัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารกรุงไทยฯ สำนักงานถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หรือติดต่อมาที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com

 

 

 

คำโปรย คัดลอกมาจากบทความ เพื่อให้มองเห็นเนื้อความที่น่าสนใจบางส่วน
H
ขอขอบคุณ www.thaiis.com ที่ให้ใช้พื้นที่ฟรี
R
related topic
281048
release date
คลิกไปหน้าสารบัญ(1)
คลิกไปหน้าสารบัญ
(2)
คลิกไปหน้าสารบัญ(3)
คลิกไปหน้าสารบัญ(4)
เพื่อดูบทความใหม่สุด
เว็ปไซต์เผยแพร่ความรู้
เพื่อสาธารณประโยชน์

หากนักศึกษาหรือสมาชิก ประสบปัญหาภาพและตัวหนังสือซ้อนกัน กรุณาลด text size ของ font ลง
จะช่วยแก้ปัญหาได้
ความน่าสนใจในเรื่องความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือว่าถ้าให้คนไทยเล่าประวัติศาสตร์ของปัตตานี ก็จะเล่าถึงการกบฏของเจ้าองค์นั้น เจ้าองค์นี้มีการส่งกองทัพไปปราบ แต่ขาดบริบท ไม่มีใครเคยเล่าว่า โต๊ะครูคนนั้น ผู้นำทางการเมืองคนนี้ที่ก่อการกบฏมีเงื่อนไขอะไรที่ก่อการกบฏ
ทุกคนสนใจแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เรื่องที่โจรใต้เข้าใจ...แต่นายกฯทักษิณไม่เข้าใจ
โสภณ สุภาพงษ์
กรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ

สำหรับประเทศมาเลเซียซึ่งก่อตั้งจากการรวมรัฐอิสระต่างๆ 13 รัฐ เข้ามารวมกันนั้น มีการสู้รบและความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติ คุกรุ่นต่อเนื่องมายาวนาน กษัตริย์มาเลเซียต้องหมุนเวียนผลัดกันดำรงตำแหน่งจากรัฐต่างๆทุก 5 ปี มีความขัดแย้ง และต้องมีกฎหมายพิเศษเฉพาะรัฐในการบริหารประเทศ

นายกรัฐมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียนั้นกังวลปัญหาในประเทศไทย ไม่ใช่เพราะรักประเทศไทย แต่เพราะห่วงว่า ถ้าโจรในประเทศไทยแข็งแรงขึ้น กลุ่มที่ต้องการแยกเป็นรัฐอิสระในประเทศมาเลเซียมากมายก็จะก่อตัวขึ้นเช่นกัน อันที่จริง ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเป็นผู้มีประสบการณ์ช่วยเหลือเราได้ และเราต้องเอาเขาเป็นพวกให้ได้

โจรนั้นเข้าใจดีว่า รัฐบาลมาเลเซียจะไม่สนับสนุนโจร และถ้ามาเลเซียช่วยประเทศไทย ก็จะปราบโจรได้ แต่นายกฯทักษิณ กำลังไปทะเลาะกับรัฐบาลมาเลเซียเสียแล้ว!!!