Free Documentation
License
Copyleft : 2006,
2007, 2008
Everyone is permitted to copy and distribute verbatim
copies of this license
document, but changing it is not allowed.
หากนักศึกษา
และสมาชิกประสงค์ติดต่อ
หรือส่งบทความเผยแพร่บนเว็บไซต์
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
กรุณาส่ง email ตามที่อยู่ข้างล่างนี้
midnight2545(at)yahoo.com
midnightuniv(at)yahoo.com
midarticle(at)yahoo.com
The Midnight
University
ศิลปะ
สถาปัตยกรรม และพื้นที่สาธารณะ
อาณาจักรที่ซ่อนเร้น
: พิมพ์เขียวเกี่ยวกับดิสนีย์แลนด์
สมเกียรติ
ตั้งนโม
: เรียบเรียง
คณะวิจิตรศิลป์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หมายเหตุ
: บทความชิ้นนี้เรียบเรียงมาจากเรื่อง
Hidden Kingdom
Disney's Political Blueprint
By Joshua Wolf Shenk
เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาและข้อถกเถียงระหว่างพื้นที่เอกชนและพื้นที่สาธารณะ
ในกรอบของทุนนิยมและเสรีประชาธิปไตย
midnightuniv(at)yahoo.com
(บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ 973
เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๙
(บทความทั้งหมดยาวประมาณ
10.5 หน้ากระดาษ A4)
อาณาจักรที่ซ่อนเร้น
: พิมพ์เขียวเกี่ยวกับดิสนีย์แลนด์
สมเกียรติ ตั้งนโม : เรียบเรียง /
คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ความนำ
William Sterner, นายกเทศมนตรีของ Lake Buena Vista, ฟลอริดา, กล่าวว่า เขามีตำแหน่ง
"คล้ายกับนายกเทศมนตรีเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง" ซึ่งมีพลเมืองเพียงแค่
40 คนเท่านั้น แต่มีผู้มาเยี่ยมเยือนประมาณ 30 ล้านคนต่อปี และเป็นธุรกิจหนึ่งที่ครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินเหล่านี้ทั้งหมด
ผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินขนาดใหญ่นี้ก็คือ บริษัท Walt Disney World Company, ความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งหลายก็คือ Disney World, และนายกเทศมนตรี Sterner คือ ผู้ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของคอมพิวเตอร์ในสำนักงานต่างๆ ของบริษัท Disney World, ซึ่งคอยควบคุมให้ผู้มาเยี่ยมเยือนทั้งหลายเกิดความรู้สึกพึงพอใจกับงานของบริษัทฯ
ตอนที่เขาถูกไล่ออก เขาถูกขับไล่จากสวนรถไฟที่ซึ่งเขาอาศัยอยู่ อันนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับลูกจ้างอีกประมาณ 40 คน ซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น ทั้งหมดต่างไม่สังกัดสหภาพแรงงาน. สภาคณะกรรมการ Lake Buena Vista จะทำหน้าที่เพียงอย่างเดียวเกี่ยวกับผลงานที่ตามมาในแต่ละปี นั่นคือการปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถ, การบริการสาธารณะต่างๆ, การตรวจตรา, และการอนุญาตทั้งหมดในอาณาเขตที่เรียกว่า the Reedy Creek Improvement District, ซึ่งคือสิ่งสร้างอย่างหนึ่งของ the Disney Company
นี่คือวิธีการในการดำเนินการสวนสนุกใช่ไหม ? คุณลองเดากันดู. โครงสร้างของ Disney World ทำให้บริษัทฯ สามารถแสดงพลังอำนาจกับรัฐบาลได้ และมีอิสรภาพในฐานะบริษัทเอกชนที่จะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอันเป็นทรัพย์สมบัติทั้งหลายของตน
Walt Disney ได้ตั้งชื่ออันเป็นที่ดึงดูดของ Disney World's ว่า ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้(the Experimental Prototype Community of Tomorrow) (EPCOT), แต่ชื่อดังกล่าว อาจจะอธิบายได้ดีกว่าถึง"การออกแบบรัฐบาลส่วนตัวของดิสนีย์"(Disney's design for private government) ทุกวันนี้ ความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายบนพิมพ์เขียวเดิมๆมีอยู่อย่างมากมาย ไม่เพียงคอมเพล็กซ์ความบันเทิงต่างๆ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงส่วนของช็อพพิงมอลล์ทั้งหลาย และอาณาเขตการพัฒนาตัวเมืองต่างๆ ด้วย ซึ่งการจัดค่าเช่าพิเศษและการยกเว้นภาษีคือวิธีที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับทรัพย์สินที่หลุดรอดไปจากสายตา อันเนื่องจากความผิดพลาดหรือการไม่ทันสังเกตของรัฐบาล ในเขตชานเมืองตามชนบททั่วไป
บางที หนึ่งในสามของพัฒนาการใหม่ๆ คือหมู่บ้านจัดสรรที่มีอาณาเขตรั้วรอบขอบชิด ด้วยการดูแลรักษาความปลอดภัย บริการสาธารณะต่างๆ และบริการสังคมตามจารีตที่ได้รับการตระเตรียมขึ้นมาเป็นปรกติโดยเจ้าหน้าที่เอกชนต่างๆ สำหรับดิสนีย์ วิธีการอันนี้มันใช้การได้แน่นอน การควบคุมทั้งหมดทำให้ดิสนีย์สามารถโดดเดี่ยวแดนเนรมิตอันน่าพิศวงของเขาจากภวการณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสังคม การเมือง และเรื่องของความคิดสติปัญญาต่างๆ
บรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างหลั่งไหลมาจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินกับโลกความเชื่อที่เป็นมายา(make-believe world) มันเป็นโลกจินตนาการ ซึ่งดิสนีย์จรรโลงรักษาไว้โดยการขับไล่ไสส่งอิทธิพลต่างๆ ที่ขัดแย้งวุ่นวายใจจากภายนอกออกไป แต่ในการสลักเสลาขอบเขตอำนาจทางการเมืองของตนเองขึ้นมานี้ ดิสนีย์ทำอะไรที่มากไปกว่านั้น
กล่าวคือ มีการบุกเบิกเรื่องความรู้ความเข้าใจในเทคนิคการตลาดอย่างง่ายๆ มีการนิยามความหมายอาณาเขตพรมแดนขึ้นมาใหม่ ระหว่าง"พื้นที่เอกชน" กับ "พื้นที่สาธารณะ" ความน่าสนใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการทดลองทางการเมืองนี้ และความสามารถในการปรับตัวต่างๆ ของมัน สู่บริบทอื่นๆ ได้ก่อให้เกิดคำถามและข้อสงสัยกวนใจขึ้นมา
การออกแบบเมืองของดิสนีย์อาจเป็นกรอบโครงร่างที่ยอมรับกันได้อันหนึ่ง สำหรับปฏิบัติการของสวนสนุกที่ตั้งอยู่บนฐานของจินตนาการอันเพ้อฝัน แต่มันควรจะเป็นจริงดังที่ วอลท์ ดิสนีย์ ตั้งใจอย่างชัดเจน นั่นคือ พิมพ์เขียวอันหนึ่งสำหรับพื้นที่สาธารณะของโลกในอนาคตใช่ไหม ?
กับดักหนูที่ดีกว่า (A
Better Mouse Trap)
เมื่อ Walt Disney เริ่มต้นวางแผนสวนสนุกในทศวรรษที่ 1950s เขาได้สร้างตัวเขาเองเรียบร้อยแล้ว
ไม่เพียงในฐานะนักลงทุนทางการเงินที่ประสบผลสำเร็จ แต่ยังในฐานะผู้อาวุโสที่ได้รับการยอมรับนับถือของพวกเด็กๆ
อเมริกัน และนักธุรกิจที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลเกี่ยวกับจินตนาการอเมริกัน. สิ่งที่เขายังคงโหยหาและปรารถนาอย่างมากมาโดยตลอดก็คือ
บางสิ่งบางอย่างที่พ้นไปจากโลกสองมิติของภาพยนตร์, หนังสือ, และโทรทัศน์
เขาต้องการให้ความบันเทิงกับประสาทสัมผัสทั้งหมดของมนุษย์ - ในพื้นที่ครอบครองของเขา และในวิธีการของตัวเขา. เขาไม่ต้องการสร้างสรรค์เพียงแค่ความจริงเสมือนอันหนึ่งขึ้นมาเท่านั้น แต่เขาต้องการที่จะสร้างความจริงอีกอย่างหนึ่งขึ้นมา ซึ่งจะไม่ยอมให้องค์ประกอบเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของมันเปลี่ยนแปลงไป หรือมีอิทธิพลจากภายนอกเข้ามารบกวน. การสร้างฉนวนป้องกันทางการเมืองแทบจะไม่ใช่อุบัติเหตุโดยความบังเอิญต่อวิสัยทัศน์อันนี้ จริงๆ แล้ว มันเป็นส่วนที่อยู่ใจกลางทางความคิดของเขาเลยทีเดียว
เกี่ยวกับตำนานเล่าลือของดิสนีย์ เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นคนแรกที่ควบคุมอุปกรณ์และเครื่องเล่นต่างๆ ในดิสนีย์แลนด์ที่แคลิฟอร์เนีย. "ผมไม่ต้องการให้สาธารณชนมองเห็นโลกของความเป็นจริงที่พวกเขาอาศัยอยู่ ในขณะที่พวกเขาอยู่ในสวนสนุกแห่งนี้" คำพูดนี้เขากล่าวเมื่อตอนที่เปิดที่ทำการสวนสนุกในเดือนกรกฎาคม 1955 "ผมต้องการให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังอยู่ ณ อีกโลกหนึ่ง"
เนื้อที่ 244 เอเคอร์ใน Anaheim ได้รับการรวมเข้ามาไว้ทั้งหมดโดยเขื่อนดินที่กั้นขึ้นขนาดมหึมา มีการสร้างทิวทัศน์อย่างเหมาะสม เพื่อบรรลุถึงมายาภาพอันนี้. สวนสนุกทั้งหมดได้ถูกสร้างขึ้นในฐานะที่เป็นรายการโชว์ และพนักงานทุกคน, จาก"คนขายตั๋ว"ถึง"มิคกี้ เมาส์"ที่กำลังเต้นรำอย่างสนุกสนาน กระทั่งภารโรงถูกเรียกว่าว่าเป็นสมาชิกทั้งหมด. ดิสนีย์มองสวนสนุกของเขาในฐานะที่เป็นอนาคตของความบันเทิง และเท่าๆ กันกับแบบจำลองอันหนึ่งของเมืองต่างๆ ที่จะมาถึงในวันข้างหน้า นั่นคือ มันจะต้องสะอาด, มีประสิทธิภาพ, ปลอดภัย, และควบคุมได้อย่างแท้จริง
เขาได้สร้างอพ้าร์ทเม้นท์ของตัวเองลงบน Main Street USA อันเป็นถนนสายหลักใจกลางสวนสนุก เพื่อเฝ้าดูผลผลิตที่กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง. ทั้งๆ ที่สวนสนุกประสบความสำเร็จ แต่ดิสนีย์ก็ยังคงรู้สึกไม่มั่นคงเกี่ยวกับองค์ประกอบหนึ่ง ซึ่งเขาไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งนี้โดยการชักนำจากบรรดาลูกค้าของดิสนีย์นับจำนวนล้านต่อปี นั่นคือ การเกิดขึ้นมาของโรงแรมต่างๆ ที่ไม่ใช่ของดิสนีย์, มีแผงลอยขายแฮมเบอร์เกอร์ทั่วไป, และที่เลวร้ายสุดๆ คือมีไนท์คลับที่ฉูดฉาดบาดตาราคาถูก และสถานที่ดื่มกินพร้อมละครเปลื้องผ้าผุดขึ้นตามแนวชายขอบของสวนสนุกของเขา
เหล่านี้คือสิ่งที่ติดตามมาจากการพัฒนาที่เกิดขึ้นภายนอก, ดิสนีย์คิดว่า มันทำให้แดนเนรมิตและโลกมายาการของเขาเกิดภาวะอุดตันจนสำลัก และคุกคามแก่นสารทางศิลปะและการพาณิชย์ของสวนสนุก และนั่นคือสิ่งที่เขาจะไม่ทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน
จากการเริ่มต้น โครงการใจกลางรัฐฟลอริดาในขนาดสัดส่วนที่เล็กลงกว่าบรรพบุรุษของมัน เพื่อหลีกเลี่ยงระเบิดเวลาเกี่ยวกับการเก็งกำไรที่ดิน ดิสนีย์ได้ใช้บริษัทลูกมือจำนวนมาก และความร่วมมือของปัจเจกชนเพื่อได้มาซึ่งที่ดินจำนวน 27,400 เอเคอร์. (บริษัทได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอย่างเดียวกัน เมื่อมีการจัดซื้อที่ดิน สำหรับโครงการเร่งด่วนเมื่อเร็วๆ นี้ในเวอร์จีเนีย)
อีกครั้งที่ทรัพย์สินได้ถูกรักษาไว้อย่างปลอดภัย เขาได้เริ่มรณรงค์เพื่อการล็อบบี้ครั้งใหญ่ ซึ่งต่อเนื่องมาตลอดหลังจากการถึงแก่กรรมของเขาในเดือนธันวาคม 1966 จนประสบชัยชนะในการได้รับการยกเว้นภาษีจากรัฐ, ได้รับสิทธิ์ในเขตปกครอง, และขจัดอำนาจหน้าที่ที่มาบีบบังคับต่างๆ. สำหรับเหตุผลในอย่างเดียวกัน เขาต้องการเขื่อนกั้นอันหนึ่งรายรอบ the Anaheim park, มาถึงตอนนี้ เขาแสวงหาแนวกันชนหลายๆ ชั้น ด้วยเขตแดนทางกายภาพและทางการเมือง
เพื่อได้มาซึ่งความน่าสนอกสนใจต่างๆ แขกที่มาเยี่ยมเยือนจะท่องเที่ยวไปตลอดหนองน้ำและผืนป่าขนาดเล็ก ที่ออกแบบขึ้นมาพร้อมกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า, แม่น้ำและทะเลสาบ, หุบเขาและเนินดิน, อาณาจักรเนรมิตในตัวของมันเองจะถูกรายรอบด้วยคูน้ำ และจะข้ามไปได้โดยเรือเฟอร์รีข้ามฟาก หรือรถไฟฟ้ารางเดียวแห่งอนาคต. แบบแปลนต่างๆ ได้ถูกร่างเพื่อสร้างท่าอากาศยานดิสนีย์, สวนอุตสาหกรรมเนื้อที่ 1,000 เอเคอร์, และชุมชนซึ่งมีผู้อยู่อาศัย 20,000 คน
โลกของดิสนีย์ จะเป็นหน่วยของชุมชนเมืองที่ปกครองตนเอง มีการจัดหาพลังงานของมันเอง น้ำประปา ตำรวจ และหน่วยป้องกันไฟและสถานีดับเพลิง. จะมีการจัดตั้งระเบียบกฎเกณฑ์อาคารสิ่งก่อสร้างของตนเอง และมีเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในแต่ละโซน มีการเรียกเก็บภาษีและค่าเช่า - และการตรากฎระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการเสียภาษี และมีการการใช้ตั๋วเงินอิสระ
เมื่อตอนที่สภานิติบัญญัติฟลอริดาประชุมกันในช่วงต้นปี 1967, Walt Disney ตัวเขาเองในช่วงนั้นได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่เขาได้ปรากฏตัวอยู่บนฟิล์มเพื่อเป็นพยานยืนยัน. เขาได้อธิบายแผนการณ์ต่างๆ เพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย, สำหรับ ERCOT (ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้)เดิม, นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงกลุ่มตัวแทนกลุ่มใหญ่ของผู้เป็นต้นตำรับ
"มันจะเป็นชุมชนที่มีการวางแผน, ชุมชนที่ควบคุมได้" ดิสนีย์กล่าว "มันเป็นตู้โชว์ทางด้านอุตสาหกรรมและงานวิจัยบนพื้นที่จริงของอเมริกัน, โรงเรียนต่างๆ, โอกาสทางวัฒนธรรมและการศึกษา". ในปีสุดท้ายของเขา ในความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจากโรคมะเร็ง, วอล์ท ดิสนีย์ ได้แยกตัวเขาเองออกมาเพื่อวางแผนสิ่งที่ Steven Fjellman, ผู้ประพันธ์เรื่อง Vinyl Leaves: Walt Disney World and America, เรียกว่า "จุดสูงสุดของชีวิตที่เริ่มต้นมาจากนักเขียนภาพประกอบ, สู่การเป็นคนทำภาพยนตร์, ถึงคนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในฐานะตัวแทนสุ้มเสียงของบรรดาเด็กๆ ทั้งหลาย". บทบาทอันดับต่อมา, Fjellman เสนอว่า เขาก็คือนักวางแผนทางสังคม และนักปรัชญายูโธเปีย. ใน EPCOT, วอล์ท ดิสนีย์ให้คำมั่นสัญญาว่า "มันจะไม่มีพื้นที่สลัมอีกต่อไป เพราะว่าพวกเราจะไม่ปล่อยให้มันพัฒนาขึ้นมาได้"
ไม่ได้ใช้เวลายาวนานเท่าใดนัก สำหรับดิสนีย์และบรรดานักกฎหมายของเขา ที่จะตระหนักถึงข้อบกพร่องอย่างสำคัญเกี่ยวกับวิสัยทัศน์เดิมนี้ - นั่นคือ บรรดาผู้อยู่อาศัยถาวรของดิสนีย์เวิรล์ด เริ่มจะค่อยๆ คุกคามการควบคุมของบริษัท. นับตั้งแต่การที่พวกเขาวางแผนกันบนโต๊ะ พวกเขายังคงดึงประเด็น EPCOT (ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้)เข้ามาใช้อย่างเปิดเผย ในฐานะที่เป็นข้อถกเถียงที่จำเป็นมากสุดในทางการเมือง และหนทางปฏิบัติสำหรับการบริหารอันไร้ขีดจำกัดและถาวร
ดิสนีย์ได้สัญญาถึงผลกำไรขนาดใหญ่สำหรับบรรดาผู้อยู่อาศัยในรูปของบ้านคุณภาพต่างๆ, โรงเรียนที่ดี, และบริการสาธารณะชั้นเลิศ นอกจากนี้ พวกเขายังให้เหตุผลเกี่ยวกับการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ และการทดลองซึ่งเป็นที่ต้องการของชุมชนแห่งอนาคต ซึ่งได้ถูกทำให้เป็นง่อยไปโดยความผิดพลาดด้วยการละเลยกฎเกณฑ์ข้อควบคุมบางอย่างของบริษัทฯ เอง
รางวัลตอบแทนเชิงยุทธศาสตร์ การออกกฎหมายภาษี-ค่าเช่าอย่างเป็นทางการสำหรับ the Reedy Creek Improvement District - ได้รับการสนับสนุนโดยคำสัญญาเกี่ยวกับ EPCOT (ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้), ซึ่งผ่านรัฐสภา และวุฒิสภาฟลอริดาอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยมีเสียงคัดค้านเพียงหนึ่งเสียงเท่านั้น
ในปี 1968 ศาลสูงของรัฐยืนยันและให้การรับรองว่า Reedy Creek นั้นสามารถได้รับการยกเว้นภาษี กรณีที่มีการปรับปรุงภายในต่างๆ. อำนาจนี้, ศาลสูงกล่าว, จะช่วยเพิ่มผลประโยชน์ต่างๆ ให้ดิสนีย์อย่างมากมายมหาศาล แต่ขณะเดียวกันก็จะชักพาผลกำไรต่างๆ ซึ่งมีขนาดเท่าๆ กันให้กับบรรดาผู้อยู่อาศัยจำนวนมากของถิ่นที่อยู่ดังกล่าวเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม "บรรดาผู้อยู่อาศัยไม่เคยเกิดขึ้นมาเลย" ไม่มีที่อยู่อาศัยอันเป็นสิ่งก่อสร้างถาวรบนที่ดินหรือทรัพย์สินของดิสนีย์. EPCOT (ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้) ได้รับการวางแผนในฐานะที่เป็นเมืองยูโธเปีย ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980s ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสวนสนุกของโลก และส่วนหนึ่งของตู้โชว์ของบริษัทฯ สัญลักษณ์อันหนึ่งที่มีพลัง ซึ่งสำหรับดิสนีย์ อุดมคติยูโธเปียและการควบคุมของบริษัทอย่างสมบูรณ์ได้ถูกสานเข้าด้วยกันอย่างซับซ้อน. ทุกวันนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ของดิสนีย์ยังคงปฏิเสธคำหลอกลวงดังกล่าวนั้นเกี่ยวกับ EPCOT (ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้), พวกเขาได้ให้เหตุผลว่า "ชุมชนผู้อยู่อาศัย เป็นเพียงหนึ่งในจำนวนทางเลือกต่างๆ อันมากมายของเราที่มี เท่านั้น"
ไม่มีการสร้างฉากนี้อีกแล้ว และแม้ว่าความสัมพันธ์ต่างๆ ของเมืองหนู(มิคกี้) จะไม่ราบรื่นเสมอไป - ในปี 1989, Reedy Creek ได้รับการยกเว้นภาษีทันที 57 ล้านเหรียญ ซึ่งที่ใกล้ๆ กับ Orange County มีความต้องการบ้านของผู้มีรายได้น้อย - มาถึงตอนนี้ บริษัทได้เริ่มทำให้เกิดการปรับปรุงถนนท้องถิ่นต่างๆ และค่าใช้จ่ายที่สัมพันธ์กันอื่นๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ข้อสงสัยที่ยังค้างคาใจอยู่
บทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์รายวันที่สำคัญฉบับหนึ่งของ Orlando ในปี 1965 เรื่อง "Walt Disney to Wave His Magic Wand Over Us"(วอล์ท ดิสนีย์ได้โบกไม้กายสิทธิ์เหนือศีรษะของพวกเรา) ยังคงก้องกังวานกระทั่งทุกวันนี้: มายาการต่างๆ ของดิสนีย์ขยิบตาและหัวเราะเบาๆ; บริษัทได้ให้ความสนใจมากพอต่อวิธีการดูแลควบคุมที่เป็นทางการของมัน เพื่อที่จะธำรงรักษาหนทางดังที่มันเป็นอยู่
พลเมืองมิคกี้ (Citizen
Mickey)
การทำความเข้าใจโครงสร้างทางการเมืองข้างใต้ Disney World โดยคร่าวๆ เป็นภารกิจหนึ่งเท่าๆ
กันกับการทำรายละเอียดบนแผนที่การออกแบบคฤหาสน์ซินเดอเรล์ลา จากมุมมองบนถนน Main
Street ของสหรัฐฯ เลยทีเดียว. สายตาที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีของพวกเรา อาจมองเห็นโครงสร้างเหล็กที่มาหนุนเสริมสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ภาพเขียนและปูนปลาสเตอร์
แต่มันยังมีห้องหับต่างๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ข้างบน และข่ายใยของอุโมงค์ข้างใต้ นี่คือเนื้อแท้ของดิสนีย์
ซึ่งชอบที่จะรักษาตัวของมันเองเอาไว้ในลักษณะนั้น
ชิ้นงานที่สำคัญที่สุดของพิมพ์เขียวทางการเมืองของดิสนีย์, the Reedy Creek Improvement District, เป็นรัฐบาลอิสระหนึ่งที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างมีเอกลักษณ์โดย Lake Buena Vista (และน้องสาวของมันคือ city Bay Lake) เพื่อทำให้หน้าที่ต่างๆ เกี่ยวกับการปกครองภายในรัฐอันแสนจะธรรมดาที่สุดและประสบผลสำเร็จ
ตามความคิดของรองประธานดิสนีย์เวิรล์ด Diana Morgan, เห็นว่า คณะกรรมการของตำบลที่เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลต่างๆ "ไม่ได้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับทางบริษัทฯ และงานของพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำเพื่อบริษัทฯ แต่อย่างใด". ผู้บริหารตำบล Tom Moses ยืนยันว่า "โดยพื้นฐานแล้ว พวกเรากระทำในสิ่งซึ่งรัฐบาลที่ดีควรทำ นั่นคือ พยายามให้การรับรองเรื่องสุขภาพของพลเมือง และรับประกันในเรื่องของธุรกิจ" แน่นอน อย่างน้อยที่สุดก็คือเรื่องธุรกิจอันหนึ่ง
ดิสนีย์กล่าวอย่างเป็นทางการว่า
คนภายนอกทั้งหลายน่าจะรู้สึกชื่นชมยินดีในสิ่งที่ดิสนีย์สามารถสร้างสรรค์อาณาจักรนี้ขึ้นมาได้
โดยปราศจากการแตะต้องทรัพยากรของสาธารณะ. "Walt มีความฝัน และเขาก็ไม่ต้องการให้ผู้เสียภาษีท้องถิ่นต้องจ่ายอะไรให้กับเขา"
Morgan กล่าว "ใน 27 ปี ไม่มีเงินภาษีแม้สักสตางค์แดงเดียวจากรัฐที่ถูกใช้จ่ายในเนื้อที่
27,000 เอเคอร์นี้เลย. พวกเราสร้างถนนหนทางและท่อน้ำของเราเอง รวมไปถึงพืชน้ำต่างๆ
ของที่นี่. และเรานี่แหละคือผู้ที่จ่ายภาษีรายใหญ่ที่สุดของฟลอริดา ประมาณ 46
ล้านเหรียญให้กับเขตปกครอง Orange และ Osceola, และพวกเราไม่เคยขอรับบริการใดๆ
ที่จำเป็นตอบแทนคืนกลับมาเลย"
ดิสนีย์เวิรล์ดดีใจที่ได้แสดงออกถึงผลที่เกิดขึ้นตามมาต่างๆ, หลายต่อหลายชั่วโมงยามบ่าย
Jane Adams ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของดิสนีย์ได้ขับรถมาสด้า 626 ของเธอพาผมไปเที่ยวชมทรัพย์สมบัติเหล่านี้
และชี้ให้เห็นถึงองค์ประกอบต่างๆ โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ซึ่งดิสนีย์ได้สร้างสรรค์ขึ้นมา
นั่นคือ สิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านพลังงาน, ศูนย์เพาะพันธุ์พืชต่างๆ, พื้นที่ให้บริการหลายแห่ง,
ผมได้เห็นเรือนเพาะพันธุ์กระจก, การอนุรักษ์สัตว์ป่า, แท่นยิงพุและดอกไม้ไฟสำหรับการแสดงโชว์ยามค่ำคืน
T ed McKim ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำและการกำจัดน้ำเสียของ Reedy Creek Energy Services ได้อธิบายให้กับผมฟังถึงความสลับซับซ้อนของการจัดหาน้ำ และการบำบัดน้ำเสีย. อะไรคืองานบริการทางด้านพลังงานของ Reedy Creek? มันคือส่วนเสริมที่ Walt Disney World เป็นเจ้าของทั้งหมด. และเราได้รับการว่าจ้างและทำสัญญาโดย the Reedy Creek Improvement District เพื่อจัดหาบริการเหล่านี้ให้". กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ดิสนีย์จ่ายภาษีต่างๆ ให้กับ Reedy Creek, ซึ่งมันได้ให้เงินคืนกลับมาตรงๆ แก่ดิสนีย์ และวงจรดังกล่าวนี้ถูกปิด
การบริหารจัดการต่างๆ พวกนั้น ทำให้ดิสนีย์มีความสามารถอย่างไม่มีใครเทียบได้ ในการก่อรูปสวนและสิ่งแวดล้อมโดยปราศจากการมองข้ามหรือความผิดพลาดของรัฐบาล ดังที่ศาสตราจารย์ Richard Foglesong แห่ง Rollins College เขียนเอาไว้ในวอชิงตันโพสต์ว่า :
มันเป็นเวทมนตร์และความน่าอัศจรรย์ของกฎหมาย, รัฐบาล the Reedy Creek สามารถควบคุมและวางกฎระเบียบการใช้ที่ดิน, จัดหาตำรวจและพนักงานดับเพลิง, ให้ใบอนุญาตการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์, สร้างถนน, วางท่อปะปา, และสร้างโรงงานบำบัดของเสีย, ทำโครงการป้องกันน้ำท่วมจนสำเร็จ - แม้กระทั่งสร้างสนามบิน หรือโรงงานอาวุธนิวเคลียร์, ทั้งหมดนี้โดยปราศจากการอนุมัติหรือเห็นพ้องของรัฐหรือท้องถิ่นเลย
ด้วยอิสรภาพจากการมองข้ามและความพลั้งเผลอของกฎระเบียบ ดิสนีย์สามารถสร้างรูปผืนดินคล้ายกับดินเหนียวมาก. โดยจัดสร้างคูคลองและลำธาร - ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น และทำเป็นทิวทัศน์ที่มองดูดุจดั่งธรรมชาติ ในข้อเท็จจริง เกือบทุกสิ่งทุกอย่างที่ชุ่มชื้นภายในท้องที่นี้ ได้ถูกสร้างขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงโดยฝีมือมนุษย์
Bay Lake เนื้อที่ 450 เอเคอร์ คือสิ่งที่มีมาก่อนดิสนีย์ แต่มันได้ถูกระบายออกไป, ทำการขัดถูจนเกลี้ยงเกลา, และเติมด้วยน้ำใสสะอาดเข้าไป. ผืนดินประมาณ 5 ล้านตารางลูกบาศก์เมตรได้ถูกขุดเพื่อสร้างทะเลสาบ World Showcase Lagoon ณ EPCOT (ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้). น้ำที่ไหลตลอดทั่วทั้งสวน ได้รับการควบคุมโดยคลื่นวิทยุทางไกลและเซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิก โดยดาวเทียมดวงหนึ่งบนสถานีโคจรที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรของโลก
ชำเลืองมองดูดินแดนแห่งวันพรุ่งนี้
(Glimpses of Tomorrowland)
ตราบเท่าที่บรรดานักท่องเที่ยวยังได้รับการเอาใจใส่ ส่วนใหญ่ของรายละเอียดเหล่านี้ก็ยังคงไม่ตรงประเด็นนัก
พื้นที่ดังกล่าวได้รับการออกแบบขึ้นมาอย่างพิถีพิถันมาก เพื่อกำจัดความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับแรงงานที่อยู่เบื้องหลัง
เว้นแต่ถนนเข้าออก การเคลื่อนไหวค่อนข้างเป็นเรื่องเคร่งครัดรัดกุมโดยระบบขนส่งของดิสนีย์
การเดินไปมาท่ามกลางสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ได้รับอนุญาต แต่ขณะเดียวกันก็ห้ามผ่านในบางจุด ดังที่ปรากฏให้เห็นเวลาเดินไปเรื่อยๆ บนไหล่ทางของถนนหลวง ส่วนใหญ่ของเบื้องหลังเวทีได้ถูกซ่อนเร้นอย่างระมัดระวัง อะไรที่มองเห็น ปรกติแล้วเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าถึง และสำหรับจุดสุดยอดต่างๆ ที่อาจชักจูงแขกผู้มาเยือนให้เดินเข้าไปหา ดิสนีย์จะใช้ทิวทัศน์ที่มีเล่หเหลี่ยม โดยผู้คนที่อยากรู้อยากเห็นจะต้องเดินผ่านสนามหญ้าเข้าไป และแล้ว เขาก็จะพบตัวเองว่าได้เข้าไปในท้องร่องสำหรับระบายน้ำแล้ว
กระนั้นก็ตาม การเข้าไปยังเบื้องหลังฉากมีความเกี่ยวพันกับประสบการณ์สวนสนุกมากกว่าผู้อุปการคุณส่วนใหญ่ตระหนัก. วงรอบขอบเขตต่างๆ ของรัฐบาลส่วนตัวของดิสนีย์ ที่ซึ่งความสลับซับซ้อนได้ปิดบังอำพรางความสัมพันธ์และการดำเนินการที่แท้จริงของอำนาจ, สถานที่ที่จะพบสิ่งคู่ขนานต่างๆ อันน่ากลัวแฝงอยู่ภายในสวนสนุก ที่ซึ่งบริษัทได้ผลิตทุกสิ่งทุกอย่างจากอารมณ์ความรู้สึกของพนักงานสู่ตำนานประวัติศาสตร์. วัตถุดิบทั้งหลายของอาณาจักรเนรมิตที่แสนวิเศษนี้ ไม่ใช่ดินเท่านั้น แต่เป็นคอนกรีตและการระบายสี รวมทั้งผู้คนและไอเดียต่างๆ ด้วย
การพิจารณาถึงเรื่องการบริหารจัดการของดิสนีย์ เกี่ยวกับอากัปกริยาและพฤติกรรมของพนักงานต่างๆ ไม่เพียงดิสนีย์จะมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด เกี่ยวกับการที่พนักงานทั้งหลายจะมองดูเป็นอย่างไร - เช่น จะต้องไม่สวมเครื่องประดับเพชรพลอย, ผู้ชายจะต้องไม่ไว้ผมยาว, นอกจากนี้ยังเข้มงวดและมีระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับท่าทีของพนักงานด้วย
ในหัวใจของการบริหารจัดการ นักสังคมวิทยา Arlie Russell Hochschoild ได้เสนอความคิดเกี่ยวกับ"แรงงานทางอารมณ์"(emotional labor) เพื่ออธิบายถึงงานบางอย่าง ที่ต้องการการบริการเป็นอันมากจากพนักงานเพื่อผลิตอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ, การแสดงออกของสีหน้าท่าทาง, และภาษาร่างกายที่บรรดานายจ้างของพวกเขาเรียกร้องต้องการ
Donna Lynn Dalton, ซึ่งอายุประมาณ 30 และเป็นนักแสดงเต็มเวลาคนหนึ่งของดิสนียเวิรล์ด รู้ถึงแนวคิดนี้ทั้งหมดเป็นอย่างดี "คุณจะพบว่ามันเป็นเรื่องพื้นๆ อยู่ในชีวิตประจำวัน" Dalton กล่าว, เพื่อนร่วมแสดงของเขารวมทั้ง Roger Rabbit, Bert Ernie, Honkers, Grover, และ Oscar. "แน่นอน คุณพยายามที่จะหนีไปจากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับมัน แต่คุณไม่สามารถดุด่าว่ากล่าวหรือตอบโต้อะไรได้เลยกับแขกที่มาเยี่ยมชม". Wes Robinson, หรือมิฉะนั้นก็รู้จักกันในนาม Goofy, Tigger, หรือ the Sheriff of Nottingham ได้อธิบายมันว่า "มันจะไม่เหมาะสมสำหรับตัวละครของดิสนีย์ที่ตอบโต้กับแขก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ - และเชื่อผมเถอะว่า เราทำได้"
แน่นอน การร่ายเวทมนตร์ของดิสนีย์ - เนื้อแท้ของการเดินทาง เล่าถึงเรื่องราวพื้นบ้านที่พูดคุยกันแถวสนามหลังบ้าน - นั่นคือความรู้สึกของสถานที่ดังกล่าว มันเป็นความสะอาด มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย. สิ่งที่ไม่เป็นที่ปรารถนาจะถูกกันออกไปให้อยู่นอกประตูรั้ว และถ้าหากว่ามันหลุดรอดเข้ามา ก็จะถูกตรวจจนพบโดยพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งอำพรางตัวในฐานะสมาชิกธรรมดา หรือในฐานะนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง
สำหรับผู้เยี่ยมชมจำนวนมาก ชุมชนที่ได้รับการควบคุมอย่างดีนี้จะให้อิสรภาพจากความกลัว และความคลางแคลงใจที่พวกเขารู้สึกเมื่ออยู่ภายนอก. บนเส้นทางผจญภัย, ครอบครัวหนึ่งจากเทนเนสซี่ได้พูดอย่างเป็นมิตรกับเพื่อนวัยหนุ่มจากนิวยอร์ค และสุภาพบุรุษสูงอายุคนหนึ่งจาก Tallahassee (เมืองหลวงของรัฐฟลอริดา) ซึ่งพวกเขาไม่เคยพบกันมาก่อนเลย "เส้นทางนั้นไม่เลวร้ายเท่าใดนัก" พวกเขาให้ข้อมูล "คุณมาจากที่ไหนกันรึ ?"
ขณะที่ทั้งหมดรายรอบตัวเรา เป็นสิ่งแวดล้อมซึ่งทั้งหลายทั้งปวงของสิ่งที่เป็นของจริงและมายาได้ถูกพังทลายลง มันถูกนิยามและลบทิ้งทั้งหมดอีกครั้ง. บนเกาะ Huck Finn, มีลำโพงหลายตัวซ่อนอยู่ในตอไม้ปลอมที่ส่งเสียงนกร้องจริงๆ. ทำเนียบประธานาธิบดีมีหุ่นยนต์ Bill Clinton, พูดเรื่องที่แต่งขึ้นมาเองด้วยเสียงของท่านประธานาธิบดีจริงๆ, ขณะที่หุ่นยนต์ Abraham Lincoln กล่าวสิ่งที่เคยพูดออกมาจริงด้วยเสียงที่สร้างเทียมขึ้นมา
ไม่มีมุมของประวัติศาสตร์, สถาปัตยกรรม, การเมือง, หรือภูมิศาสตร์ ที่ยอมให้เราหยุดยืนเพื่อความสนุกครื้นเครงของครอบครัว. Mark Twain ถูกขัดถูทำความสะอาดปราศจากลักษณะที่ชอบเยาะเย้ยถากถางของเขา; ส่วนจัดแสดง the World Showcase ลดทอนโลกของเราลงมาเหลือเพียงยามบ่ายของความซ้ำซากทางวัฒนธรรม และร้านขายของฝาก โดยกระโจมสปอนเซอร์บริษัทต่างๆ จำนวนนับไม่ถ้วนของมัน เช่น "Horizons," by General Electric; "Universe of Energy," by Exxon; "The Living Seas," by United Technologies), ทำให้โลก EPCOT(ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้), โดยแท้จริงแล้ว เป็นเพียงข้อถกเถียงกันชุดหนึ่ง สำหรับการจัดวางความเชื่อถือและไว้วางใจของเราในความเฉียวฉลาดช่างประดิษฐ์ของบริษัทฯ
Ada Louise Huxtable ใน the New York Review of Books เขียนเอาไว้ว่า "ในจุดสำคัญต่างๆ อย่างเช่น Disney World, วัตถุประสงค์ที่ชัดเจนภายนอกของการผลิตซ้ำ, ทำให้ใครคนหนึ่งที่ต้องการของแท้ดั้งเดิม ถูกแทนที่โดยความรู้สึกที่ว่า ของแท้ดั้งเดิมไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป. การก็อปปี้หรือสำเนาได้รับการพิจารณาเทียบเคียงกับความดี ในบางกรณีมันดีกว่าเสียด้วยซ้ำไป"
อย่างแน่นอน, Walt Disney เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์และเป็นนักคิดยูโธเปีย แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาเป็นนักขายคนหนึ่ง จักรวรรดิ์ของ Walt Disney เป็นเรื่องของการค้าและกำไรมากกว่าเรื่องของการเมือง และนี่รวมถึงแนวโน้มอย่างไม่ลดละของมันในความเป็นจริง. ไม่มีใครถูกบีบบังคับให้เข้าไปในสวนสนุก. และพลเมืองที่ยึดในหลักของเสรีภาพในใจกลางฟลอริดา ไม่มีเรื่องราวต่างๆ ที่น่ากลัวเกี่ยวกับการข่มเหงกระทำทารุณกรรมใดๆ ในผืนดินที่ถูกล้อมรอบของบริษัทที่มีการควบคุมนี้. นี่เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
ไม่ว่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากลัทธิทุนนิยมอันบริสุทธิ์ หรืองานออกแบบสังคมที่ยิ่งใหญ่ ชัยชนะของสิทธิการครอบครองเป็นเจ้าของ โดยเอกชนเหนือพื้นที่สาธารณะใน Disney World ก็ก่อให้เกิดตัวอย่างที่มีมาก่อนอันหนึ่งที่เป็นอันตราย
เพิ่งเมื่อปีที่แล้ว, H. Wayne Huizienga, ผู้ก่อตั้ง Blockbuster Entertainment Corporation (บริษัทเกี่ยวกับความบันเทิง), ได้ชัยชนะต่อเจ้าหน้าที่อย่างกว้างขวางในการจัดเก็บภาษีและค่าเช่า บนผืนดิน 2,500 เอเคอร์ทางใต้ของฟลอริดา ซึ่งเขาวางแผนที่จะเปลี่ยนมันไปสู่สถานบันเทิงขนาดมหึมาที่น่าเกลียดและไร้รสนิยม - อันนี้เป็นไอเดียหนึ่งที่เขาจำลองแบบมาจากพิมพ์เขียวของดิสนีย์. แม้ว่า Viacom ซึ่งได้ซื้อ Blockbuster มาเมื่อปีที่แล้ว และได้มีการรื้อถอนโครงการของ Huizienga ออกไปแล้วก็ตาม แต่พนันได้เลยว่าการพัฒนาในรูปอื่นๆ จะตามมาอย่างแน่นอน ในรัฐอื่นๆ และจากบริษัทอื่นๆ ด้วยการสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นในทำนองเดียวกัน จากทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ออกเสียงในท้องถิ่น
ในภาวะสุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับการควบคุมพื้นที่สาธารณะ คนอเมริกันอาจรู้สึกสิ้นหวังเกี่ยวกับรัฐบาล ที่พวกเขาพร้อมที่จะอ่อนข้อให้อำนาจเหนือชุมชนทั้งหมดแก่บริษัทเอกชน. ถ้าเช่นนั้น ใครล่ะที่จะรับประกันความรับผิดชอบเกี่ยวกับประชาธิปไตยของพวกเขาได้ ? และ ณ จุดใดเล่าที่พลังอำนาจของบริษัทจะไปสิ้นสุดลง ?
ถ้าเสียงเรียกร้องด้วยความห่วงใยเกี่ยวกับความเลวร้าย พูดกับผู้อยู่อาศัยของโคลัมเบีย, และแมรี่แลนด์ เมื่อตอนที่ the Rouse Corporation ได้สร้างชุมชนขึ้นมาในทศวรรษที่ 1960s, มันได้วางแผนทุกสิ่งอย่างพิถีพิถันมาก นับจากสถานที่สำหรับการติดตั้งเครื่องหมายตามท้องถนนต่างๆ ไปจนกระทั่งถึงองค์ประกอบของประชากร. 30 ปีให้หลัง พลเมืองทั้งหลายของชุมชนดังกล่าว กำลังขึ้นเวทีปฏิวัติของคนกลุ่มน้อยในความพยายามที่จะแย่งชิงการควบคุมการจัดโซนนิ่ง, การเสียภาษีและค่าเช่า, รวมถึงประเด็นปัญหาอื่นๆ จากสภาพัฒนาฯ ซึ่งเป็นหุ่นเชิดของบริษัท
แน่นอน สิ่งที่กำลังรบกวนจิตใจมากที่สุดคือ บรรดาผู้อยู่อาศัยที่ร่ำรวยเฟื่องฟูของโคลัมเบียอาจเป็นข้อยกเว้น - และนั่นเพียงการแย่งชิงอำนาจอย่างชัดแจ้งส่วนใหญ่ของ"พื้นที่สาธารณะ" ซึ่งนั่นเป็นไปได้ที่จะปลุกเร้าปฏิกริยาดังกล่าว. พวกที่แยกตัวออกของผู้ที่มั่งคั่งร่ำรวย อย่าง Robert Reich เรียกการเจริญเติบโตของชุมชนเอกชนต่างๆ และรัฐบาลเอกชนทั้งหลายว่า เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ยอมรับได้อันหนึ่งต่อปัญหาต่างๆ ของเรา เพียงถ้าเผื่อว่าประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงได้
ใน Variations on a Theme Park, Michael Sorkin ได้ให้เหตุผลว่า "ความพยายามที่จะเรียกร้องเมืองกลับคืนมา คือการต่อสู้ดิ้นรนของประชาธิปไตยในตัวมันเอง" เป็นสุ้มเสียงเรียกร้องการต่อสู้อันหนึ่งต่อการแย่งชิงอำนาจจากเอกชนเกี่ยวกับ"พื้นที่สาธารณะ" ที่คนอเมริกันเพียงไม่กี่คนดูเหมือนว่าสนใจและให้ความเอาใจใส่
ประชาธิปไตยนั้นได้สร้างหนทางแห่งความสูญเสียเหล่านี้ขึ้นมานับตั้งแต่แรก เพียงการต่อสู้เท่านั้นที่จะปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยจากสิ่งที่ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน แต่ไม่ใช่ไม่สำคัญแต่อย่างใด
ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I
สารบัญเนื้อหา 3 I สารบัญเนื้อหา
4
I สารบัญเนื้อหา
5
ประวัติ
ม.เที่ยงคืน
สารานุกรมลัทธิหลังสมัยใหม่และความรู้เกี่ยวเนื่อง
e-mail :
midnightuniv(at)yahoo.com
หากประสบปัญหาการส่ง
e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com
ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกำลังจัดทำบทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ทั้งหมด
กว่า 950 เรื่อง หนากว่า 15000 หน้า
ในรูปของ CD-ROM เพื่อบริการให้กับสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านในราคา 150 บาท(รวมค่าส่ง)
(เริ่มปรับราคาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548)
เพื่อสะดวกสำหรับสมาชิกในการค้นคว้า
สนใจสั่งซื้อได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ
midnight2545(at)yahoo.com
สมเกียรติ
ตั้งนโม และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(บรรณาธิการเว็บไซค์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
หากสมาชิก ผู้สนใจ และองค์กรใด ประสงค์จะสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชุมชน
และสังคมไทยสามารถให้การสนับสนุนได้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในนาม สมเกียรติ
ตั้งนโม
หมายเลขบัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารกรุงไทยฯ สำนักงานถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หรือติดต่อมาที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com
ข้อความบางส่วนจากบทความ
เมื่อตอนที่สภานิติบัญญัติฟลอริดาประชุมกันในช่วงต้นปี 1967, Walt Disney ตัวเขาเองในช่วงนั้นได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว
แต่เขาได้ปรากฏตัวอยู่บนฟิล์มเพื่อเป็นพยานยืนยัน. เขาได้อธิบายแผนการณ์ต่างๆ
เพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย, สำหรับ ERCOT (ชุมชนต้นแบบแห่งการทดลองของวันพรุ่งนี้)
... "มันจะเป็นชุมชนที่มีการวางแผน,
ชุมชนที่ควบคุมได้" ดิสนีย์กล่าว "มันเป็นตู้โชว์ทางด้านอุตสาหกรรมและงานวิจัยบนพื้นที่จริงของอเมริกัน,
โรงเรียนต่างๆ, โอกาสทางวัฒนธรรมและการศึกษา"
วอล์ท ดิสนีย์ ได้แยกตัวเขาเองออกมาเพื่อวางแผนสิ่งที่ Steven Fjellman, ผู้ประพันธ์เรื่อง Vinyl Leaves: Walt Disney World and America, เรียกว่า "จุดสูงสุดของชีวิตที่เริ่มต้นมาจากนักเขียนภาพประกอบ, สู่การเป็นคนทำภาพยนตร์, ถึงคนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในฐานะตัวแทนสุ้มเสียงของบรรดาเด็กๆ ทั้งหลาย". บทบาทอันดับต่อมา, Fjellman เสนอว่า เขาก็คือนักวางแผนทางสังคม และนักปรัชญายูโธเปีย.
มันเป็นเวทมนตร์และความน่าอัศจรรย์ของกฎหมาย, รัฐบาล the Reedy Creek สามารถควบคุมและวางกฎระเบียบการใช้ที่ดิน, จัดหาตำรวจและพนักงานดับเพลิง, ให้ใบอนุญาตการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์, สร้างถนน, วางท่อปะปา, และสร้างโรงงานบำบัดของเสีย, ทำโครงการป้องกันน้ำท่วมจนสำเร็จ - แม้กระทั่งสร้างสนามบิน หรือโรงงานอาวุธนิวเคลียร์, ทั้งหมดนี้โดยปราศจากการอนุมัติหรือเห็นพ้องของรัฐหรือท้องถิ่นเลย