The Midnight University
ทำไม WTO
ฮ่องกง มันถึงแย่มากสำหรับคุณ
WTO ปฏิบัติการทางวาทกรรมเสรีนิยมใหม่ที่ฮ่องกง
วอลเดน
เบลโล
นักรณรงค์คัดค้านองค์การการค้าโลก
โดยโครงการศึกษาและปฏิบัติการงานพัฒนา (โฟกัส)
หมายเหตุ
บทความนี้คือคำแปลจากวีซีดี วอลเดน เบลโล
เพื่อประกาศเจตนารมณ์และเรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกเข้าร่วมต่อต้านการเจรจา WTO
ที่กำลังจะเกิดขึ้นกลางเดือนธันวาคมปีนี้ที่ฮ่องกง
ประชาไท (และมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน) เห็นว่า
เนื้อหาที่เบลโลเสนอนั้น จะช่วยให้เราทำความเข้าใจภาพรวม
และทำให้เห็นความสำคัญของเวทีเจรจาการค้าโลกครั้งนี้ได้
(บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
บทความฟรี
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ 753
เผยแพร่บนเว็ปไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๘
(บทความทั้งหมดยาวประมาณ 9.5 หน้ากระดาษ A4)
ปฏิบัติการทางวาทกรรม
เสรีนิยมใหม่ที่ฮ่องกง
วอลเดน เบลโล นักรณรงค์คัดค้านองค์การการค้าโลก
สวัสดีครับ ผมชื่อ วอลเดน เบลโล และผมเป็นนักรณรงค์คัดค้านองค์การการค้าโลก
ครั้งที่แล้วที่เราคุยกันเป็นช่วงก่อนการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกที่เมืองแคนคูนเพียงเล็กน้อย
เราสามารถจะชะลอมันด้วยการยับยั้งการประชุมที่แคนคูนได้ การประชุมรัฐมนตรีอีกรอบกำลังจะมีขึ้น
ณ เมืองนี้ในฮ่องกงในเดือนธันวาคม 2548 และตอนนี้ ผมอยู่ที่นี่เพื่อจะบอกคุณว่า
ทำไมการประชุมรัฐมนตรีครั้งนี้ที่ฮ่องกงถึงแย่มากสำหรับคุณ
ตอนนี้ เพื่อที่จะเข้าใจ WTO มากขึ้น คุณจะต้องเข้าใจ G ว่า G คืออะไร G มาจากคำว่า กลุ่ม (Group) และมันก็มีไม่กี่กลุ่มที่จะต้องจำไว้ ดังนั้น มาเริ่มกันที่ G20, G20 เป็นกลุ่มของประเทศกำลังพัฒนาค่อนข้างใหญ่ ประเทศเหล่านี้มีภาคเกษตรขนาดใหญ่ และส่วนมากกลุ่ม G20 ต้องการปกป้องภาคเกษตรของตน ป้องกันเกษตรกรไม่ให้ถูกขับไล่ไปจากที่ดิน และต้องการเห็น EU (สหภาพยุโรป) และสหรัฐอเมริกาหยุดการทุ่มสินค้าราคาถูกที่ได้รับการอุดหนุนลงไปในตลาดของพวกเขา ซึ่งจะทำให้เกษตรกรต้องล้มละลาย
กลุ่มต่อไปคือ กลุ่ม 33 หรือ G33 กลุ่มนี้ไม่ได้มีแต่ประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศขนาดเล็กหลายประเทศด้วย และพวกนี้ต้องการปกป้องเกษตรกรรายย่อยเป็นหลัก พวกเขาต้องการให้มีรายการสินค้าที่เรียกว่า สินค้าพิเศษซึ่งจะไม่ต้องผูกพันในการเปิดเสรี เพื่อจะได้ปกป้องผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้ในประเทศของตน และอย่างที่สอง พวกเขาต้องการให้สามารถใช้ภาษีกับสินค้าเกษตรนำเข้าได้ เมื่อสินค้าเหล่านั้นกระทบต่อการผลิตของพวกเขา
กลุ่ม 90 เป็นกลุ่มของประเทศกำลังพัฒนาที่ค่อนข้างหลากหลาย ประเทศจำนวนมากมาจากแอฟริกา ลาตินอเมริกา และเอเชีย ซึ่งไม่ต้องการให้อิทธิพลของ WTO แผ่ขยายไปยังสาขาใหม่ที่เกินกว่าเรื่องการค้า เช่น การลงทุนและนโยบายการแข่งขัน กลุ่ม 90 ได้เคยสร้างการเปลี่ยนแปลงมาแล้วจากการที่ประเทศสมาชิกจำนวนหนึ่งเดินออกจากที่ประชุม ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลวของการประชุมรัฐมนตรีที่แคนคูน
และทั้งสามกลุ่มนี้ คือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา 20, 30 และ 90 น่าจะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในผลการประชุมที่ฮ่องกงได้อีกครั้งหนึ่ง
FIPs หรือ กลุ่มผลประโยชน์ทั้ง 5 เป็นกลุ่มเล็กกลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา อียู บราซิล และอินเดีย ซึ่งทำการตัดสินใจเรื่องสำคัญว่า อะไรจะตกไปอยู่ในข้อตกลงด้านการเกษตรก่อนที่จะมีกรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม (July framework) อันที่จริง ประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากต่างร้องออกมาว่า นี่เป็นกระบวนการที่โปร่งใส เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่ามันขัดแย้งกันอย่างไรในการได้มาซึ่งข้อตกลงเกษตร
กลุ่มผลประโยชน์ทั้ง 5 ต้องไปยังสถานที่เงียบสงบบนเทือกเขาสวิสส์ และได้รับการอำนวยความสะดวกจากกองเลขาธิการของWTO แน่นอน เมื่อประเทศกำลังพัฒนาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้า พวกเขาไม่พอใจอย่างมาก. อย่างที่คุณรู้ WTO ทำงานผ่านสิ่งที่เรียกว่า การประชุมรัฐมนตรี ในการประชุมรัฐมนตรีครั้งที่ 3 ในเมืองซีแอตเติลในปี 2542 พวกเขาสามารถที่จะหยุดการค้าเสรี และวาระของบรรษัทที่ถูกผลักดันเข้าไปได้ มีผู้คนจำนวนมหาศาลที่ซีแอตเติล ประชาชน 50,000 คนอยู่บนท้องถนน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขากลับไปในเดือนพฤศจิกายน 2544 พวกเขาสามารถหยุดพวกเราได้ที่เมืองโดฮา พวกเขาสามารถจะผลักดันวาระของบรรษัทในที่ซึ่งมีภาคประชาสังคมปรากฏอยู่น้อยมากๆ และที่ซึ่งพวกเขาสามารถจะขู่ขวัญรัฐบาลประเทศกำลังพัฒนา
ประมาณ 2 ปีถัดมา การประชุมรัฐมนตรีครั้งที่ 6 ที่เมืองแคนคูน และเราสามารถจะหยุดการแผ่ขยายวาระของ WTO ไปยังสาขาอย่างการลงทุนและนโยบายการแข่งขัน "นั่นเป็นชัยชนะของแคนคูน เพราะโดยหลักแล้ว การประชุมรัฐมนตรีไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แน่นอนว่า นี่เป็นผลโดยตรงจากความจริงที่ว่า ประเทศกำลังพัฒนาพยายามต่อต้านกลุ่มจัดตั้งผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และ EU แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ หากไม่มีการเคลื่อนไหวทั้งภายในและภายนอกศูนย์ประชุมในแคนคูน
และแน่นอนว่า ลีกวนแฮ (ชาวนาชาวเกาหลีใต้ที่ประท้วงด้วยการฆ่าตัวตาย) ได้จุดประกายการเดินขบวน แน่นอน มันอาจจะมีการพิพากษาในเชิงศีลธรรมให้กับความตายที่เกิดขึ้น แต่ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะจำใส่ใจคำสุดท้ายของเขาว่า WTO ฆ่าเกษตรกร และผมคิดว่าสิ่งนี้ได้ดึงชะตากรรมของเกษตรกรจำนวนมาก ไม่ใช่แต่ในเกาหลี แต่จากทั่วโลกออกมา และไม่ใช่เพียงเกษตรกร แต่ยังแรงงานและประชาชนคนอื่นๆด้วย"
ดังนั้น ทำไมการประชุมรัฐมนตรีที่ฮ่องกงของ WTO จึงสำคัญอย่างนั้นหรือ มองมันอย่างนี้ เราได้หยุดพวกเขาแล้ว 2 ครั้ง ที่ซีแอตเติลและแคนคูน พวกเขาสามารถจะดึงกระบวนการกลับสู่ปกติได้ที่โดฮา ที่นี่ ในฮ่องกง พวกเราจะออกมาเพื่อยุติ WTO เป็นครั้งที่ 3 และหวังว่ามันจะเป็นการพิการอย่างถาวรขององค์กรนี้ ในฐานะที่เป็นกลไกของการเปิดเสรีทางการค้าและการแผ่ขยายวาระของบรรษัทต่างๆ
กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม
แล้วอะไรคือ"กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม คือนโยบายโลกาภิวัตน์เสรีนิยมใหม่
และดังนั้น กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการลดเลิกกฎระเบียบของทุกสิ่งทุกอย่าง"(deregulation)
เพราะว่า EU และสหรัฐฯ ไม่ชอบผลที่เกิดขึ้นในแคนคูน มันจึงไม่มีข้อตกลงอะไรออกมาอีกสำหรับการเปิดเสรีการค้า
"พวกเขาขี้โกงผ่านการประชุมสภาสามัญ (General Council) ในเดือนกรกฎาคม โดยเรียกประชุมนักเจรจากว่า 100 ประเทศ และมุ่งไปสู่ข้อเรียกร้องของประเทศร่ำรวยที่มีต่อประเทศกำลังพัฒนา" และนี่คือ กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม ประเด็นทั้งหมดในภาคเกษตร ภาษีในสินค้าอุตสาหกรรม ในสาขาบริการและในสาขาอื่นๆ ที่ถูกปฏิเสธไปในแคนคูน
"และหลังจากนั้นยังไม่ถึงปี ประเด็นและเนื้อหาอย่างเดียวกันของข้อตกลง ก็ได้รับการเห็นชอบให้เป็นกรอบสำหรับเจรจา" ประเทศกำลังพัฒนาไม่พอใจอย่างมาก เพราะวาระของรัฐมนตรีกลับได้รับความเห็นชอบในการประชุมของสภาสามัญ และนี่เท่ากับเป็นการปฏิวัติทางสถาบันอย่างหนึ่งทีเดียว "และนี่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนเมื่อรัฐบาลและองค์กรประชาสังคมส่วนมากไม่รับรู้และไม่ได้อยู่ที่เจนีวา"
"แต่เราเห็นกรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมเป็นเวทีใหม่ของการตัดสินใจ ซึ่งปิดกั้นจากการตรวจสอบของสาธารณะ ที่ซึ่งภาคประชาสังคมไม่ได้รับอนุญาตให้สังเกตการณ์กระบวนการ หรือแม้แต่เข้าถึงตัวนักเจรจาของประเทศตน" "สิ่งที่กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมทำก็คือ การฟื้นคืนกระบวนการ ซึ่งผลักไสให้ผู้คนต้องอยู่ในความทุกข์ยากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา"
ดังนั้น จึงสำคัญมากที่ภาคประชาสังคมทั่วโลกจะให้ความใส่ใจมากขึ้นกับเจนีวา ภาคประชาสังคมท้องถิ่น สหภาพแรงงาน กลุ่มเกษตรกร ประชาชนในสวิสส์เซอร์แลนด์ หรือในภูมิภาคจะต้องให้ความสนใจและติดตามกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเจนีวาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะเข้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นข้างใน เข้าถึงนักเจรจาของเรา พวกเขาเข้าถึงตัวรัฐมนตรีการค้าของเรา เพื่อจะเข้าถึงการเจรจาทั้งหมด
และเพื่อที่การเจรจาจะต้องเกิดขึ้นภายใต้การตรวจสอบของสาธารณะ เราจะต้องต่อสู้เพื่อสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงบนถนน ไม่ว่าจะเป็นการปิดล้อม หรือไม่ว่าจะเป็นการฝ่าเข้าไปถึง WTO ผมหมายถึงว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถทำได้ นี่เป็นข้อตกลงที่แย่ไปกว่าที่ปรากฏอยู่ในแคนคูนเสียอีก
กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมควรจะต้องถูกยกเลิกไป
กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมเป็นก้าวที่ถอยหลังอย่างยิ่ง ขณะนี้ องค์ประกอบสำคัญของกรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมคือ
เรื่องการเปิดเสรีสินค้าเกษตร การขจัดภาษีสินค้าอุตสาหกรรม บริการ และเรื่องการปฏิบัติกับประเทศกำลังพัฒนา
กรอบข้อตกลงการเกษตร
ลองมาดูเรื่องเกษตรกัน โดยพื้นฐานแล้ว กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมในภาคเกษตร จะยังคงสงวนไว้ซึ่งรูปแบบการอุดหนุนเกษตรในระดับสูงของประเทศพัฒนาแล้ว
ขณะที่เรียกร้องการเปิดตลาดของประเทศกำลังพัฒนาให้มากขึ้น "ทุกคนพูดว่า
พวกเขาต้องการลดการอุดหนุน โดยเฉพาะการอุดหนุนที่บิดเบือนตลาด หรือการอุดหนุนการส่งออก
และยินดีที่จะสร้างความมั่นให้กับผู้บริโภคและผู้ผลิต กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม
ไม่ได้แสดงว่ามันจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายอย่างนั้นเลย"
"ประเทศพัฒนาแล้ว อย่างสหรัฐและ EU สัญญาว่าจะลดการอุดหนุนการส่งออกในสินค้าเกษตรลง แต่ไม่มีกรอบเวลาที่จะทำให้เกิดขึ้น ผมคิดว่ามันก็เป็นเพียงคำพูดทีว่างเปล่า" ประเทศขนาดใหญ่สามารถจะขยายการอุดหนุนของตนได้ มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่เคยหยุดที่จะให้การอุดหนุน และไม่มีการทำตามจริงๆ ในเรื่องการอุดหนุนการส่งออก
"การอุดหนุนจะเพิ่มขึ้นภายในกล่องสีฟ้า และจะยังคงมีต่อไปในกล่องสีเขียว ซึ่งอยู่ในบางบทของข้อตกลงที่อนุญาตให้ทั้ง EU และสหรัฐฯ อุดหนุนเกษตรกรซึ่งส่วนมากร่ำรวย" อันที่จริง ประเภทการอุดหนุนที่พวกเขาอ้างว่าจะขจัดออกไปนั้นคือส่วนน้อยนิด และจะต้องใช้เวลานานมากในอนาคต ขณะที่การลดภาษีจะเป็นไปอย่างทันทีทันใด ดังนั้น เรากำลังเผชิญหน้ากับการย้ายฐานการผลิตที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
แน่นอน ความหมายของสิ่งนี้คือ
คุณจะเจอกับการทุ่มตลาดโดยสินค้าเกษตรที่ได้รับการอุดหนุนอย่างมากจากEU และสหรัฐฯ
ในเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาต่อไป ซึ่งหมายความว่า เกษตรกรของพวกเราจะยิ่งแย่ลง
"WTO มีผลกระทบมากกับเกษตรกร เพราะการไหลทะลักอย่างต่อเนื่องของสินค้ำนำเข้าอย่างข้าวและผักจากประเทศอื่นๆ
ซึ่งมาตัดราคาสินค้าของพวกเรา
"และระบอบปัจจุบันใน WTO ก็ไม่ได้ทำอะไรเพื่อที่จะควบคุมการทุ่มตลาดเลย และสิ่งนี้จะดำเนินต่อไปและจะมีการลงโทษ ถ้ากรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมได้รับการยอมรับ"
กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชนอยู่ในภาคเกษตร
"60-70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชนจะกระจุกตัวอยู่ในภาคเกษตร นี่ไม่ใช่คำถามเกี่ยวกับการค้า
แต่เป็นคำถามเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและความอยู่รอดต่างหาก"
"เราจะเห็นอย่างชัดเจนว่า WTO ไม่ได้ทำลายแค่เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังภาคการผลิตของเราด้วย สิ่งนี้เป็นความเสียหายที่น่ากลัวซึ่งเกิดขึ้นจากระบอบ GATT และ WTO" เกี่ยวกับประเด็นสิทธิบัตรจุลชีวภาพ การให้สิทธิบัตรแก่กระบวนการเทคโนโลยีชีวภาพจะคุกคามภาคเกษตรอย่างมาก เรามีภัยคุกคามอย่างแท้จริงกับภาคเกษตรของเรา ผ่านการผูกขาดเมล็ดพันธุ์ของประเทศพัฒนาแล้ว
"เกษตรกรในอินโดนีเซีย ความรู้สึกของเรา 10 ปีภายใต้ WTO นั้นเพียงพอแล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราต้องระดมเกษตรกรทั่วโลกเพื่อต่อต้าน WTO มีเพียงสิ่งเดียว ให้ WTO ออกไปจากภาคเกษตร" และกรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรทั้งหมดในทุ่งนาที่นั่น และเราจะบอก "ไม่" กับ WTO และหยุดรอบใหม่ของ WTO พร้อมทั้งให้ WTO ออกจากเกษตร, WTO ออกไปจากสาขาบริการ} และออกไปจากทุกอย่าง
"เพราะฉะนั้น อีกครั้งหนึ่ง ความกังวลในเรื่องการพัฒนา ซึ่งนำไปสู่การสลายตัวของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศกำลังพัฒนา ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นประเด็นหลักของวาระการประชุม"
ภายใต้สิ่งที่เรียกว่า นามา (NAMA) หรือการเข้าถึงสินค้าอุตสาหกรรม รูปแบบของกรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมโดยหลักแล้วเรียกร้องให้มีการลดภาษีในสินค้าการเกษตรและอุตสาหกรรมของทุกประเทศลง แต่ผลกระทบจะตกอยู่กับประเทศกำลังพัฒนาเป็นหลัก ซึ่งยังคงมีอัตราภาษีในระดับสูงเพื่อปกป้องอุตสาหกรรม ตอนนี้สิ่งที่ NAMA กำลังจะทำคือ การสลายอุตสาหกรรมในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันจึงทำให้พวกเขารู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก
กรอบข้อตกลงภาคบริการ
สิ่งที่เราเห็นอยู่ที่นี่ คือภัยคุกคามอันใหญ่หลวง สาขาบริการหลายสาขานั้นเราคุ้นเคย
เช่น สาขาบริการสุขภาพ บริการทางกฎหมาย บริการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา สิ่งที่จะเกิดขึ้นภายใต้กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมคือ
ขณะนี้ประเทศกำลังพัฒนาจะต้องทำสัญญา และยื่นข้อเสนอสาขาการบริการใดๆ ที่พวกเขาจะเปิดให้กับผู้ให้บริการจากประเทศพัฒนาแล้ว
"สำหรับประชาชนชาวฮ่องกง ความกังวลใหญ่ที่สุดคือการเจรจาด้านการค้า เพราะว่าสิ่งที่เรามีประโยชน์น้อยมากอยู่แล้วอย่างการศึกษา บริการสุขภาพ บริการน้ำ ฯลฯ มีแนวโน้มที่รัฐบาลของพวกเราจะใช้จ่ายงบประมาณกับบริการเหล่านี้น้อยลง และจะขอให้ประชาชนต้องจ่ายเองและหลังจากนั้นก็จะส่งต่อให้กับภาคเอกชน" ดังนั้น เราต้องต่อสู้กับข้อตกลง WTO เพราะว่าเราไม่ต้องการให้รัฐบาลมีข้ออ้างในการหาประโยชน์จากประชาชน
สิ่งสำคัญก็คือ นี่เป็นบางอย่างที่สุดโต่ง เพราะว่ามันเกิดขึ้นภายใต้หลักการปฏิบัติเยี่ยงคนในชาติ ซึ่งหมายความว่าคุณต้องขยายสิทธิและการปฏิบัติอย่างเดียวกับที่คุณให้ผู้ให้บริการในประเทศ ให้กับผู้ให้บริการชาวต่างชาติ ดังนั้น แนวคิดพื้นฐานที่คนท้องถิ่นจะมีสิทธิเหนือกว่าในการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจของพวกเขา จึงถูกทำลายลงด้วยหลักการที่ถูกผลักดันในกรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม
"สิ่งที่กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมทำคือการใส่กรอบเงื่อนเวลาในการเร่งรัดการเปิดเสรีภาคบริการ"
ในฐานะที่เป็นผู้ทำงานกับแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในฮ่องกง ทำงานกับคนเอเชียชาติอื่นๆ
ความกังวลใหญ่ที่สุดของเราเกี่ยวกับ WTO คือว่า มันเป็นตัวแทนของโครงการจำนวนมากที่สร้างและสนับสนุนความยากจน
ซึ่งทำให้เกิดการย้ายถิ่นแรงงานตั้งแต่แรกเริ่ม
ดังนั้นในเอเชีย จึงมีแรงงานย้ายถิ่นมากกว่า 31 ล้านคน และจำนวนมากย้ายออกมาจากประเทศของตนเพื่อทำงานในต่างประเทศ เพราะว่าไม่มีงานในประเทศของตน เกษตรกรรมในภาคชนบทล่มสลาย การผลิตระดับโลกเข้าควบคุมเศรษฐกิจของประเทศ และปัญหาทั้งหมดนี้เป็นตัวแทนของสิ่งที่ WTO กำลังพยายามทำ"
"สิ่งที่มหาอำนาจพยายามจะทำคือ
การนำเสนอสาขาใหม่ๆ เพื่อการแปรรูป สาขาใหม่เพื่อจะเข้าควบคุมเหนือทรัพยากร
สำหรับทุนขนาดใหญ่ที่จะทำกำไร ถ้าทรัพยากรของโลกนี้ตอบสนองการใช้ประโยชน์ของเอกชนเพียงไม่กี่บรรษัท
และถ้าทรัพยากรเพื่อการดำรงชีวิตของคนจำนวนมาก คนจำนวนล้านต้องถูกครอบครองไป
ประชาชนจะกลายเป็นทาสเพื่อการทำกำไรของบริษัทจำนวนน้อย นี่คือ กระบวนการทำลายล้างอย่างยิ่ง"
การปฏิบัติต่อประเทศกำลังพัฒนา
กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมไม่ได้ให้ความสำคัญกับความต้องการของประเทศกำลังพัฒนา
การเปิดเสรีเศรษฐกิจของพวกเขา ควรจะต้องอยู่บนเส้นทางที่แตกต่างออกไปจากประเทศพัฒนาแล้ว
เนื่องจากพวกเขาอยู่บนขั้นตอนพัฒนาที่แตกต่างกัน
ในทางปฏิบัติ กรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคมไม่ใส่ใจกับเรื่องทั้งหมดนี้ และท้ายที่สุด ผมคิดว่าสิ่งที่เราต้องเห็นผ่านกระบวนการทั้งหมดนี้คือว่า ในขณะนี้ รูปแบบหรือองค์ประกอบแต่ละอย่างถูกพัฒนาขึ้นผ่านกระบวนการที่ขาดความโปร่งใสและไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของการปฏิวัติทางสถาบัน สภาสามัญของ WTO ไม่มีหน้าที่ต้องรับวาระนี้ ซึ่งแต่เดิมจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรัฐมนตรีตกลงที่จะรับเท่านั้น และนี่คือปัญหาสำคัญของกรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม
ทางเลือกอื่น นอกจาก
WTO
ยังมีทางเลือกอื่นๆ นอกจากองค์การการค้าโลกหรือไม่ ทางเลือกที่ดีกว่า WTO เป็นเวลา
50 ปีระหว่างปี 2488 ถึง 2538 โลกของเราได้แสดงให้เห็นว่ามันสามารถจะทำได้โดยปราศจากองค์กรรวมศูนย์อย่าง
WTO
"เราไม่ได้ต่อต้านการค้า เราต่อต้านการรวบอำนาจของการผูกขาดและการรวบอำนาจของผู้ขายน้อยราย และการรวบอำนาจของผลประโยชน์ของบรรษัทในมือคนจำนวนน้อย"
ตอนนี้ มีข้อเสนอหลายชิ้น เช่น โลกที่อยู่บนพื้นฐานของอธิปไตยและโลกบนพื้นฐานของการตอบสนองความจำเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง มากกว่าการให้ความสำคัญกับบรรษัท มีทางเลือกหลายทาง นอกจากองค์กรรวมศูนย์ดึกดำบรรพ์อย่างองค์การการค้าโลก ถึงเวลาแล้วที่เดินไปสู่ทางเลือกเหล่านั้น
ดังนั้น เราจะยุติองค์การการค้าโลกได้อย่างไร
ผมคิดว่า จำเป็นที่จะต้องจดจำตัวอักษร 4 ตัวไว้คือ E-M-P-D
(ย่อมาจาก education - mobilise - pressure - derail)
อย่างแรก เราต้องให้การศึกษากับประชาชน (Educate) เพื่อว่าพวกเขาจะตระหนักว่าเขาอยู่อาศัยทุกวันนี้ได้รับผลเลวร้ายจากสิ่งที่
WTO ทำกับพวกเขา จากนั้น อาศัยการศึกษานั้นๆ เราจะต้องระดมคนทั่วทั้งหมด (mobilise)
เพื่อที่จะสามารถกดดัน (pressure) รัฐบาลของพวกเขาในการยุติ (derail - วิ่งออกนอกราง)
องค์การการค้าโลก
"เรากำลังทำงานการศึกษาและขับเคลื่อนจำนวนมากกับสมาชิกและประชาชนในภาคต่างๆ" เราให้การศึกษาเกี่ยวกับ WTO และผลกระทบของมันต่อสมาชิกของพวกเรา โดยเฉพาะคนในพื้นที่ชนบทห่างไกล "สำหรับประชาชนที่ไม่ทราบเกี่ยวกับ WTO จริงๆ ผมคิดว่าเราต้องพยายามเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมด เพื่อว่าพวกเขาจะได้จัดกิจกรรมที่พวกเขาสามารถเข้าร่วมกับพวกเราในการรณรงค์ได้"
"กลุ่มตรวจสอบโลกาภิวัตน์กำลังทำงานให้การศึกษาเป็นหลัก
และเราก็โกรธมากเมื่อได้อ่านรายละเอียดของกรอบข้อตกลงเดือนกรกฎาคม และเราเชื่อว่าเราจะระดมคนให้สุดความสามารถ
เพื่อจะหยุดวาระของ WTO"
อันที่จริง เราจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรชาวฮ่องกงต่อ WTO (Hong Kong People Alliance
on WTO) ซึ่งประกอบไปด้วยองค์กรกว่า 30 องค์กร เราอยากจะเตรียมพร้อมในการรวบรวมพลังประชาชนชาวฮ่องกง
และพลังขององค์กรจากประเทศอื่นๆ ด้วยกันเพื่อจะต่อสู้กับ WTO
รวบรวมพันธมิตรภาคประชาชนที่ฮ่องกง
"และเรายังประสานกิจกรรมต่างๆ ซึ่งถูกนำเสนอโดยองค์กรต่างๆ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ
เราจะทำดีที่สุดในการสนับสนุนการจัดกิจกรรม เพื่อว่าเมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาจะได้รับความสะดวกและการมีส่วนร่วมจากประชาชนในพื้นที่"
มีกลุ่มในฮ่องกง มีกลุ่มพันธมิตร มีเครือข่ายขนาดใหญ่ พวกเขาเปิดและช่วยเราในการจัดการ
เพื่อว่าประชาชนจะต้องไปที่นั่น
"ที่จริง เราสามารถจะจัดตั้งกลุ่มเครือข่ายชาวประมงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อความยุติธรรม (South East Asia Fisher's Network for Justice) เราพยายามจัดให้มีกองเรือเป็นตัวแทนขององค์การพัฒนาเอกชนและชาวประมงหลากหลายจากภูมิภาคต่างๆ เราพยายามจะรวบรวมคนให้ได้อย่างน้อย 500 คน เพื่อที่จะขึ้นเรือซึ่งจะมาพบกันปลายทางที่ท่าเรือฮ่องกงในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้"
"จะมีเกษตรกรจำนวนมากมา เพราะเกษตรกรรู้สึกว่า พวกเขาไม่มีอะไรสูญเสียมากไปกว่านี้แล้วในขณะนี้ และนี่ก็เป็นเหมือนกันกับแรงงานและสาธารณชน ในสาขาการผลิต เพราะพวกเขาต้องการเห็นจุดจบของ WTO"
"ผมคิดว่าชาวฮ่องกงจะรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะล้มล้างกระบวนการทั้งหมด ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนจากทุกประเทศรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเท่านั้น" ถ้าเราเข้มแข็ง คนอื่นในภูมิภาคก็จะทำให้ตัวเองเข้มแข็ง เสียงที่แข็งแรงในภูมิภาคจะเผยออกมาเป็นเสียงของโลกที่เข้มแข็งเช่นกัน นี่เป็นความท้าทายของกาลเวลา ในโลกที่เปลี่ยนแปลงภายใต้ระบบ GATT และ WTO"
การรณรงค์กับรัฐบาลของตนเอง
ผมคิดว่ามันสำคัญที่จะเน้นถึงความสำคัญของงานรณรงค์ในประเทศ ด้วยการรณรงค์ในประเทศ
เราได้เตือนนักเจรจาของเราว่า พวกเขาจะต้องไม่ยอมสละตามความต้องการของประเทศร่ำรวย
ด้วยการรณรงค์ระดับชาติ "รอก่อน หยุด ช่วยบอกว่าด้วยว่าคุณกำลังจะเอาอะไรไปวางบนโต๊ะเจรจา""
"เราทำการรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อบอกกับรัฐบาลของเราว่า เกษตรกรคัดค้านข้อตกลงการค้าเหล่านี้ของ WTO" ประเทศกำลังพัฒนาควรจะทำตามอย่างประเทศพัฒนาแล้ว พวกเขาต้องเคร่งครัดและเหนียวแน่นกับเป้าหมายของพวกเขา เราอยากจะเห็นรัฐบาลต่อสู้อย่างจริงจังและหนักแน่นในการเจรจา
"ในระหว่างนี้ถึงการประชุมที่ฮ่องกง เราไม่มีเวลามากนัก แต่ผมคิดว่ากระบวนการระดับชาติเหล่านั้นจะมีความสำคัญมาก ทั้งในแง่ของการนำภาคประชาสังคม และกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมให้มาทำงานร่วมกันในระดับชาติ แต่ก็ยังเรียกร้องรัฐสภา ให้สื่อเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรงในการทำให้รัฐบาลของเรารายงานต่อประชาชน"
"ถ้าพวกเขาประนีประนอมในบางจุด
พวกเขาจะต้องพบกับปฏิกิริยาต่อต้านทางการเมืองที่บ้าน"
จะต้องมีการต่อต้านในทุกระดับ มันสำคัญที่จะต้องมีกระแสกดดันที่เจนีวา และแน่นอนแรงกดดันที่ฮ่องกง"
เราค่อนข้างมั่นใจว่า ด้วยการเดินขบวนและการลงมือปฏิบัติการในและนอกศูนย์การประชุม
เราจะสามารถสร้างแรงกดดันให้กับ WTO และรัฐบาลระดับชาติเพื่อให้หยุดกระบวนการนี้
"สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องทำให้แน่ใจว่าขบวนการเคลื่อนไหวระดับชาติ จะไม่ถูกลิดรอนสิทธิในการออกเสียงว่าพวกเขามีบทบาทสำคัญ ที่จะทำให้รัฐบาลของพวกเขารับผิดชอบต่อประเทศชาติด้วยตนเอง ต่อจุดยืนที่พวกเขาจะแสดงในเจนีวาและฮ่องกง"
ระดมคนจำนวนมากในเมืองหลวงของคุณ
ไม่ใช่พวกคุณทั้งหมดจะมาที่ฮ่องกงได้ แต่คุณสามารถมีบทบาทสำคัญได้ในวันประท้วงนานาชาติ
ที่ซึ่งจะมีการระดมคนจำนวนมากในเมืองหลวงของคุณ ต่อต้านการประชุมรัฐมนตรี WTO
ครั้งที่ 6 "WTO หรือระบบการเจรจาพหุภาคีที่มีอยู่ ไม่สามารถพิสูจน์ตนเองได้ว่าสามารถจะให้ชีวิตที่ดีขึ้นตามสัญญากับประชาชนทั่วโลก"
WTO กำลังประสบวิกฤตความชอบธรรม
WTO กำลังประสบวิกฤตความชอบธรรมเข้าอย่างจริงจัง เราจะแสดงให้เห็นว่าเราสามารถทำได้
เรารู้ว่ารัฐบาลซึ่งเป็นนายหน้าของ WTO รู้สึกหวาดกลัว เรารู้ว่า WTO กำลังเข้าตาจน
ดังนั้น เราต้องรักษาแรงกดดันเอาไว้ เราต้องรักษาแรงผลักนี้เอาไว้
"ผมคิดว่ามันคือเรื่องของการที่ต้อง "ทำ" หรือไม่ก็ต้อง "ตาย" สิ่งที่เราทำในแคนคูน สามารถจะเกิดขึ้นได้ที่ฮ่องกง สิ่งที่เราจะส่งผ่านให้องค์การการค้าโลกในธันวาคมจะเป็นตัวตัดสิน"
"ผมคิดว่า WTO ควรจะถูกทุบทิ้งเสีย และไม่คิดว่ามันจะมีที่ว่างสำหรับการปฏิรูป ความจริงที่ว่า WTO ประสบความล้มเหลวกับการประชุมรัฐมนตรีถึง 2 ครั้งมาแล้ว ความจริงที่ว่ามันกำลังมีปัญหาที่จะได้มาซึ่งข้อสรุป ความจริงที่ว่ามันต้องใช้การประชุมอย่างลับๆ แสดงให้เห็นว่า WTO เจอกับวิกฤตความชอบธรรม บางทีผมอาจจะมองโลกในแง่ดีเกินไป แต่คิดว่าเพียงแค่ผลักไปอีกนิด WTO ก็จะล้มลง เราหวังว่าจะมีจุดจบหรือการสิ้นสุดของระบอบ WTO"
"คิดว่าเราควรจะวางประเด็นทั้งหมดบนโต๊ะ และทำให้แน่ใจว่าในฮ่องกงจะไม่มีข้อตกลงใดออกมา เราจะต้องยุติ WTO" สิ่งที่เราต้องการจะทำเกี่ยวกับ WTO สิ่งที่ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น คือการยุติ WTO เพราะว่าเราได้เชื่อแล้วว่า การไม่ได้ข้อตกลงอะไรเลยยังดีเสียกว่าได้ข้อตกลงแย่ๆ กลับไป"
ยุติ WTO !
เพื่อที่จะเคลื่อนไหวได้สำเร็จในเดือนธันวาคม 2005 เพื่อหยุดข้อตกลงใดๆ ก็ตาม
ผมขอเชิญทุกคนมาร่วมกับคนในพื้นที่และมาที่นี่ฮ่องกง เพื่อจะประท้วง WTO, คง
ยี ไซ เมา! (ประท้วง WTO)"
ตอนนี้ผมอยู่ข้างนอกศูนย์ประชุมของฮ่องกง นี่คือที่ที่การประชุมรัฐมนตรีจะมีขึ้นและจะเป็นเวทีสู้รบของฮ่องกง อะไรจะเกิดขึ้นที่นี่ในเดือนธันวาคม 2005 จะตัดสินอนาคตที่พวกเรามี อนาคตของพวกเราจะถูกบรรษัทครอบงำหรือไม่ หรือมันจะมีอนาคตอีกแบบหนึ่ง ซึ่งความต้องการของประชาชนของโลกได้รับความสำคัญ มันขึ้นอยู่กับคุณ คุณจะต้องช่วยเราตัดสิน มาและร่วมกับเราในการยุติการประชุมรัฐมนตรีครั้งที่ 6 ขององค์การการค้าโลกในเดือนธันวาคม 2005 ที่นี่ ที่ฮ่องกง และพบเจอกัน
บทความที่นำเสนอก่อนหน้านี้ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
หากนักศึกษาและสมาชิกท่านใตสนใจ
สามารถคลิกไปอ่านได้จากที่นี่...คลิกที่ภาพ
ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I
สารบัญเนื้อหา 3 I สารบัญเนื้อหา
4
ประวัติ
ม.เที่ยงคืน
สารานุกรมลัทธิหลังสมัยใหม่และความรู้เกี่ยวเนื่อง
e-mail :
midnightuniv(at)yahoo.com
หากประสบปัญหาการส่ง
e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com
ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกำลังจัดทำบทความที่เผยแพร่บนเว็ปไซคทั้งหมด
กว่า 700 เรื่อง หนากว่า 10000 หน้า
ในรูปของ CD-ROM เพื่อบริการให้กับสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านในราคา 150 บาท(รวมค่าส่ง)
(เริ่มปรับราคาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548)
เพื่อสะดวกสำหรับสมาชิกในการค้นคว้า
สนใจสั่งซื้อได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ
midnight2545(at)yahoo.com
สมเกียรติ
ตั้งนโม และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(บรรณาธิการเว็ปไซค์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
หากสมาชิก ผู้สนใจ และองค์กรใด ประสงค์จะสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชุมชน
และสังคมไทยสามารถให้การสนับสนุนได้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในนาม สมเกียรติ
ตั้งนโม
หมายเลขบัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารกรุงไทยฯ สำนักงานถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หรือติดต่อมาที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com
"สิ่งที่มหาอำนาจพยายามจะทำคือ
การนำเสนอสาขาใหม่ๆ เพื่อการแปรรูป สาขาใหม่เพื่อจะเข้าควบคุมเหนือทรัพยากร
สำหรับทุนขนาดใหญ่ที่จะทำกำไร ถ้าทรัพยากรของโลกนี้ตอบสนองการใช้ประโยชน์ของเอกชนเพียงไม่กี่บรรษัท
และถ้าทรัพยากรเพื่อการดำรงชีวิตของคนจำนวนมาก คนจำนวนล้านต้องถูกครอบครองไป
ประชาชนจะกลายเป็นทาสเพื่อการทำกำไรของบริษัทจำนวนน้อย นี่คือ กระบวนการทำลายล้างอย่างยิ่ง"
Copyleft : 2005, 2006, 2007
Everyone is permitted to copy and distribute verbatim
copies
of this license document, but changing it is not allowed.