The Midnight University
ทักษิณคุยกับประชาชน
: ๑๑ กพ.๔๙
Ideas are free: คำชี้แจงของทักษิณเรื่องความสุจริต
ถอดเทปโดยกองบรรณาธิการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
เพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
หมายเหต
บทความถอดเทปชิ้นนี้คัดมานำเสนอเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับเหตุบ้านการเมือง
และกรณีการขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงให้ประชาชนทราบ
พร้อมทั้งแสดงความสุจริตใจอีกครั้งหนึ่ง
midnightuniv(at)yahoo.com
(บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ 832
เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
(บทความทั้งหมดยาวประมาณ
6.5 หน้ากระดาษ A4)
ทักษิณคุยกับประชาชน
: วันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๔๙
การถอดเทปนี้ คัดมานำเสนอเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับเหตุบ้านการเมือง
และกรณีการขายหุ้นชินคอร์ป
ซึ่งนายกรัฐมนตรีฯ ได้ชี้แจงให้ประชาชนทราบ พร้อมทั้งแสดงความสุจริตใจอีกครั้งหนึ่ง
ผมขอกลับมาพูดเรื่องการเมืองบ้าง ก็ขอบคุณพี่น้องที่มาให้กำลังใจ
ที่จังหวัดตาก จังหวัดเชียงใหม่ และรวมทั้งที่ผมมากรุงเทพ และเมื่อวานนี้มาที่สงขลา
ก็ขอขอบคุณในทุกน้ำใจ บางคนก็พูดอะไรออกมาแล้ว ผมซึ้งนะครับ บางคนก็ร้องไห้
บางคนก็มาให้กำลังใจเพราะว่าเขาได้ลูกคืนมา หลังจากที่ผมปราบยาเสพติดไป บางคนก็ได้มีโอกาสตั้งตัว
บางคนก็บอกว่าขอให้ผมทำหน้าที่ดีๆ เพื่ออนาคตของลูกหลาน ก็ขอบคุณใจน้ำใจ ขอบคุณในความปรารถนาดีหรือความห่วงใยที่ให้กับผม
ทีนี้ผมคิดว่า อยากจะขอทุกฝ่ายว่า พอแล้ว ไม่ต้องมาละ เพราะว่าต่างคนต่างจะได้มีเวลาทำงาน ท่านก็จะได้มีเวลาทำงาน ผมก็จะได้มีเวลาทำงาน เพราะว่าผมเข้าใจแล้วว่าพี่น้องประชาชนห่วงใย ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง รับรองว่า การที่ผมรับอาสามาทำหน้าที่นายกฯ ก็เพราะต้องการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ผมไม่ต้องการทำอะไรให้ตัวเอง พอแล้ว ชีวิตมันไม่มีอะไร อยากทำงาน อยากทุ่มเทเต็มที่ให้กับพี่น้องประชาชน
ถ้าพี่น้องประชาชนมีความสุข ได้รับอานิสงฆ์จากการทำงาน การทุ่มเทของรัฐบาลของผม ผมก็มีความสุข แรงดลใจของผมอยากเรียนให้ฟังว่า จุดหนึ่งที่กระตุ้นผมขึ้นมาอันหนึ่ง ก็คือ วันที่ผมไปหาเสียงช่วงก่อนการเลือกตั้งปี ๒๕๔๔ ก็ได้พบคนแก่คนหนึ่ง ขณะนั้นผมเหนื่อย ผมเริ่มหมดแรงเพราะว่ามันร้อนมาก แล้วผมก็ถูกรัดผ้าขาวม้าเต็มที่ ก็มีคนแก่คนหนึ่งมานั่งยองๆ เป็นผู้ชาย นั่งยองๆยกมือไหว้แล้วก็บอกว่า "ท่านครับ ช่วยเป็นนายกฯให้คนจนหน่อย"
มันทำให้ผมมีความรู้สึกว่า ผมมีความรับผิดชอบแล้วนะ ผมต้องทุ่มเทเต็มที่นะ เพราะว่ายังมีคนจนอีกจำนวนมาก ซึ่งเขาไม่มีความหวัง เขาไม่เห็นแสงสว่างแห่งชีวิต เขากำลังมองหาว่าใครจะช่วยอะไรเขาได้ ในเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าผมมีความรับผิดชอบ ผมต้องทำ ผมต้องทำแล้วล่ะ ผมต้องทุ่มเทเต็มที่แล้วล่ะ แล้ววันนี้ผมต้องเรียนว่า ผมอยากจะทำอะไรได้มากและเร็วกว่านี้ ตอนนี้มันยังไม่เร็วเต็มที่ ซึ่งจะต้องทุ่มเทต่อไป นะครับก็ต้องขอบคุณที่หลายฝ่ายที่มาให้กำลังใจ
ผมอยากจะเรียนว่า ผมไม่อยากเห็นการขัดแย้งใดๆในสังคม ถ้าหากว่าฝ่ายหนึ่งก็ให้กำลังใจ ฝ่ายหนึ่งก็ออกมาขับไล่ มันจะเกิดความขัดแย้งในสังคม ผมไม่อยากเห็นเลย ความจริงแล้วในสังคมประชาธิปไตย มันเป็นเรื่องของความหลากหลาย มันเป็นเรื่องของการเสนอความคิดที่หลากหลาย ความจริงแล้วความคิดที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หลายอย่างเป็นเรื่องที่ดีครับ
มีหนังสือฝรั่งอยู่เล่มหนึ่ง ชื่อว่า Ideas are Free แปลว่าความคิดนี้ฟรี ไม่เสียตังค์หรอก เขาบอกว่าในองค์กรๆหนึ่งบางครั้ง ยามรักษาการมันพูดอะไรสักคำ ก็อาจนำไปสู่การเปลี่ยนวิธีการการให้บริการหรือการดูแลลูกค้าได้ และทำให้ผลประกอบการดีขึ้นได้ทันที บางทีคำเดียวก็มีความหมาย เพราะฉะนั้น ideas are free ไม่เสียตังค์หรอก
เพราะฉะนั้น ใครจะแสดงความคิดเห็น ใครจะเสนอแนะ ใครจะเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น เพราะฉะนั้นขอให้การแสดงความเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นประโยชน์ต่อสังคม แล้วเราก็หยิบมาใช้ ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็รับฟังแล้วก็จบกันไป
ประชาธิปไตยมันมีสัญญาประชาคมของมัน เพราะการที่ผู้คนจะมาอยู่ร่วมกัน ก็หมายความว่ามันจะต้องมีกติกา เพราะว่าอำนาจอธิปไตยมันเป็นของปวงชน โดยปวงชน เพื่อปวงชน เพราะฉะนั้นเขาก็มีกติกาว่าให้ทุกคนที่รวมอยู่ด้วยกัน มีการเลือกตัวแทนไปออกกติกา ให้การอยู่ร่วมกันนั้น อยู่ด้วยกันอย่างสันติ ไม่มีการข่มเหงรังแกซึ่งกันและกัน สัญญาประชาคมนี้ก็เลยออกมาเป็นรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นกฎหมายซึ่งเราถือว่าเป็นกฎหมายของประชาชน โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญที่เราภูมิใจกันมาก วันนั้นเรามีธงเขียว ธงเหลืองกันวุ่นวายเหมือนกัน เราก็เชียร์กันว่ารัฐธรรมนูญนั้นเป็นของประชาชน ฉบับประชาชน ไปทำการประชาพิจารณ์ ไปทำกันอะไรต่างๆ ทุกคนบอกว่าดีมาก รัฐธรรมนูญฉบับนี้ภูมิใจกันมาก
เสร็จแล้วพรรคไทยรักไทยหรือรัฐบาลผมก็เป็นผลผลิตของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รัฐบาลพรรคไทยรักไทยเกิดทีหลังรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญเกิดก่อน ก็เป็นพรรคการเมืองแรกที่ไปจดทะเบียนภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แล้วก็ผ่านการเลือกตั้งภายใต้กติกา แล้วในที่สุดก็มาเป็นรัฐบาลภายใต้กติกานี้
แต่วันนี้ คนหลายๆคนโดยเฉพาะคนบางคนซึ่งเป็นคนที่เชียร์รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็มาบอกว่ารัฐธรรมนูญไม่ดีแล้ว จะแก้ล่ะ คือซ้ายไม่ถูกใจไปขวา ขวาไปถูกใจไปซ้าย ผมคิดว่ามันต้องมีหลักครับ
อย่าลืมนะครับ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน เพื่อปวงชน โดยปวงชน เพราะฉะนั้นจะต้องมีกติกา วันนี้มีกลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจรัฐธรรมนูญ คือไม่พอใจรัฐธรรมนูญฉบับนี้ บอกว่าให้อำนาจรัฐบาลมากเกินไป รัฐบาลมีอำนาจมาก ความจริงแล้วก็เป็นไปตามกติกากำหนด ประชาชนก็ไปตามกติกา ก็ลงไปเลือกตั้งตามกติกา เสร็จแล้วพอผลพวงออกมาบอกว่าไม่พอใจ ไม่เป็นไร ผมถือว่าไม่มีใครผูกขาดความคิด เพราะว่าความคิดในการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญหรือเปลี่ยนแปลงสัญญาประชาคมนี้ มันเป็นเรื่องของประชาชน มันไม่ใช่เรื่องของบุคคล เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจึงได้หารือกันคร่าวๆ
สัญญานเสียงขัดข้องจากทางสถานีส่ง
พี่น้องครับ เรื่องการซื้อขายหุ้นทั่วไปนั้น ทุกประเทศมีตลาดหลักทรัพย์ เพราะตลาดหลักทรัพย์เป็นที่ระดมทุน เขาเรียกว่าตลาดทุน เพื่อจะทำให้กิจการของบริษัทต่างๆนั้นได้ขยายตัว จะได้มีคนซึ่งเอาเงินมาลงทุน แล้วบริษัทที่เข้าตลาดนั้น เขาดึงแนวโน้มที่เข้าไปเพื่ออะไร เพื่อให้เสียภาษี เพราะเขาเสียภาษีเงินจากการประกอบการคือภาษีนิติบุคคล ภาษีลูกจ้าง ลูกอะไร เป็นภาษีคือภาษีบุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะภาษีที่เข้ามาในตลาดมีระบบตรวจสอบหลายชั้น ผู้ถือหุ้นรายย่อย, กลต., ตลาดหลักทรัพย์, พวกโบรกเกอร์ทั้งหลาย นักวิเคราะห์ทั้งหลายก็จะช่วยกันดู ช่วยกันขึงพืดทุกบริษัท ดูให้เห็นเลย
เพราะฉะนั้นอันนี้ บริษัทเหล่านั้นก็จะเป็นบริษัทที่เสียภาษีอย่างต่อเนื่องถูกต้อง เขาก็เลยจูงใจว่าเอาล่ะนะ ถ้าใครเอาหุ้นขายในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ กำไรจากการซื้อขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษี นี้คือแรงจูงใจที่กำหนดและมันเป็นกติกา
เพราะฉะนั้นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไม่มีใครเสียภาษี เพราะเขาไม่รับภาษี เพราะเขาถือว่ามันไปเสียภาษีในช่องทางอื่นแล้ว ตรงนี้จึงเลยไม่เอาภาษีที่เกิดจากการซื้อขายหุ้น ไม่มีภาษี ไม่มีใครเสียภาษีเลยนะครับ ช่วยบอกหน่อยว่าใครที่เสียภาษีในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์บ้าง ไม่ใช่ปริมาณมากปริมาณน้อย (อันนี้)ไม่เกี่ยว นั่นคือกติกาครับ
แต่ถ้าซื้อขายหุ้นนอกตลาด ไม่ขายในตลาดหลักทรัพย์ ถ้าขายหุ้นที่ราคาพาร์ก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าขายเกินพาร์ต้องเสียภาษี ขายราคาพาร์ไม่เสียภาษี ขายต่ำกว่าพาร์ไม่เสียภาษีครับ นี่คือหลักการเป็นกติกานะครับ
ส่วนที่ผมถูกกล่าวหาอีกเรื่องก็คือว่า ซุกหุ้นบ้าง หนีภาษีบ้าง บริษัท Ample Rich ที่ไปจดทะเบียนที่ British Virgin Islands แหมมีบางคนเขียนวงเล็บว่าลอนดอน คือตั้งใจจริงๆ British Virgin Island เป็นเกาะเล็กๆ อยู่แถวมหาสมุทรแอตแลนติค แถวเคย์แมน แถวปานามาแถวโน้น ลอนดอนคือประเทศอังกฤษ คำว่า British Virgin Islands นี่ มันไม่ได้แปลว่าประเทศอังกฤษ แต่ประเทศอังกฤษมันเรียกว่า Great Britain, เอ้อ! United Kingdom หรือ Britain ตรงนี้เขาก็พยายามไปบอกว่าลอนดอน แล้วก็บอกว่า Ample Rich มีอีกบริษัทหนึ่งอยู่ที่อังกฤษ บางทีอาจจะมีบริษัทชื่อซ้ำก็อาจเกิดขึ้นได้ ใครจะไปรู้
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมขอเรียนว่า ผมได้ตั้งบริษัท Ample Rich ได้ถูกตั้งขึ้นมานี้ เพื่อหวังทำธุรกรรมด้านต่างประเทศ การจดทะเบียนในบริษัทใน BVI (British Virgin Islands) ทั้งหลายนี่ ก็ทำกันทั่วไป ธนาคารในประเทศไทยก็ทำกันทั้งนั้น ทำเพื่อทำธุรกรรมในต่างประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อทำธุรกรรมในประเทศ ถ้าอะไรที่เป็นธุรกรรมในประเทศ เขาก็จะใช้บริษัทในประเทศ แต่ถ้าต้องทำธุรกรรมในต่างประเทศเขาถึงจะใช้บริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ เพื่อทำธุรกรรมในต่างประเทศ นั่นคือหลักของการทำธุรกิจทั่วไป
เพราะฉะนั้น Ample Rich มันเป็นบริษัทที่ไม่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมใดๆเลย เขาถูกตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับธุรกรรมในต่างประเทศเท่านั้นเอง แล้วก็ไม่ได้ไปทำอย่างอื่นเลย ไม่ได้ไปซื้อขายหุ้นเพิ่มเติม ไม่ได้อะไรเลย โอนขายให้ลูกในราคาพาร์ตั้งแต่ ๑ ธันวาคม ๔๓ ก่อนที่จะเลือกตั้งด้วยซ้ำในปี ๔๔ เพราะฉะนั้นอันนี้ผมไม่เกี่ยว
ส่วนหลังจากนั้น ลูกเขาจะไปจัดการอย่างไร เขาก็จ้าง เขาบรรลุนิติภาวะแล้วครับ. ๒๗ แล้ว, ๒๔ แล้ว เขาก็ไปจ้างมืออาชีพไปทำ เขาก็ทำให้มันถูกต้องทุกอย่าง ทั้งผมและทั้งลูกไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรไม่ดีเลย เพราะวันนี้เรามีศรัทธาประชาชน เรามีความไว้วางใจที่ระชาชนใช้ให้มาทำงาน แล้วเราจะไปทำอะไรไม่ดี ผมขอกราบเรียนประชาชนว่า ขอให้มั่นใจว่าคนๆนี้ ครอบครัวนี้ ไม่ทำอะไรที่เลว ไม่ทำอะไรที่ทำให้ผิดหวังแน่นอน และก็จะมุ่งมั่นทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ส่วนเรื่องของการไปหาเรื่องโบรกเกอร์ตรงนั้น เทรดเพิ่มตรงนั้น ไม่จริงทั้งสิ้นนะครับ พี่น้องครับไม่รู้จะอธิบายอย่างไร มันไม่จริง จริงๆ นะครับ รับรองว่าตรงไปตรงมาทุกอย่าง
คนที่กล่าวหานี่ เวลากล่าวหาผิดไม่เคยขอโทษ ไม่เคยขออภัย ไม่เคยคิดว่าตัวเองหาเรื่องหรือกล่าวผิด หรือเข้าใจผิด แต่ตั้งใจจริงๆ ดังนั้นพี่น้องครับ ขอให้มั่นใจว่า คนที่พี่น้องได้ใช้ให้มาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนนี้ จะไม่ทำอะไรไม่ดีเด็ดขาด และจะมุ่งมั่นทำงานให้พี่น้องประชาชน ทำให้ประเทศเข้มแข็ง วางอนาคตให้ลูกหลานอย่างเต็มที่ แล้วอะไรที่ไม่ดี ผมฟัง ผมได้ยินทั้งนั้น แต่ว่าอะไรที่มันมีความหมาย มีผลสมกับที่ Ideas are free การแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องที่ฟรี ไม่เสียตังค์หรอก ใครแสดงมา มาเลย เพียงแต่ว่าขอให้รักษาวัฒนธรรมไทยหน่อย จะพูดจะจาอะไรขอให้รักษาวัฒนธรรมไทยหน่อยเถอะ อย่างไงก็เราเป็นคนไทยด้วยกันนะ มาช่วยกันทำให้ประเทศไทยได้เข้มแข็งดีกว่า
เหมือนกับผมดูฟุตบอล ผมเชียร์ลิเวอร์พูลครับ แต่วันนั้นแพ้ชาร์ลตันไปสองศูนย์ ซึ่งผมต้องยอมรับกติกาว่ามันแพ้ แพ้ก็ต้องแพ้ คราวหน้าแข่งกันใหม่ก็ค่อยเชียร์ลิเวอร์พูลใหม่ พอชนะผมก็ดีใจ พอแพ้ก็แล้วไป ก็คราวหน้าก็แข่งกันใหม่ อันนี้ก็ต้องยอมรับกติกา ผมอยากจะเรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพรักว่า ผมจะทำหน้าที่ของผมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และผมจะไม่เอาเปรียบสังคม ผมทำตามกติกา ผมเคารพกติกา ผมเคารพความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นก็ขอให้คนไทยทุกคนนั้น ได้มีความรักความสามัคคีกันเถอะ ไม่ใช่เพื่อใครกันหรอก เพื่อชาติบ้านเมืองของเรา
ก็ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ที่ร่วมรับฟังรายการนี้มาโดยตลอด ขอขอบคุณครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Ample
Rich Investments Limited มี 2 บริษัท
เรื่องจริงครับ
บริษัท Ample Rich Investments Limited มี 2 บริษัท ที่เรียกว่าเป็นคู่แฝด
เพราะใช้ชื่อเหมือนกันและครอบครองหุ้นของบริษัทชินเหมือนกันเพียงแต่ บริษัท
แอมเพิลริช ของคุณทักษิณถือ สัญชาติ British Virgin Island ส่วนคู่แฝด ถือสัญชาติอังกฤษ
ถึงวันนี้พวกเรายังไม่ทราบ ว่าเป็นผู้ดีอังกฤษจริง ๆ หรือเป็น ฝรั่งหัวดำรายที่
2
คงจำกันได้ว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เล่าให้ท่านผู้อ่านฟังถึงความเป็นคนช่างสงสัยของผม สงสัยว่าหุ้นชิน ที่คุณพานทองแท้ และคุณพิณทองทา ถือไว้ทำไมถึงมีเพิ่มขึ้นเพราะหุ้นทั้งหมดที่ขายให้ เทมาเซค มีจำนวนมากกว่าที่ได้รับโอนจากคุณทักษิณ ความจริงได้ถูกเปิดเผยว่าทั้งสองพี่น้อง ซื้อหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากบริษัท แอมเพิลริช เพียง 1 วัน ก่อนจะนำมาขายต่อ และที่เป็นเรื่องแปลก และสังคมรู้สึกแปลกใจมาก ก็คือความจริงเปิดเผยออกมาอีกว่า บริษัท แอมเพิลริช นั้นแท้ที่จริง เจ้าของก็คือคุณพานทองแท้ และคุณพิณทองทา นั่นเอง
ท่านผู้อ่านครับ
เชื่อไหมว่า บริษัท แอมเพิลริช มีการซื้อหุ้นเพิ่มก่อนจะนำมาขายให้สองพี่น้องเหมือนกัน
ก่อนบริษัท แอมเพิลริช ขายหุ้น ให้คุณพานทองแท้ และคุณพิณทองทา บริษัท แอมเพิลริช
มีหุ้นในครอบครองเพียง 229,200,000 หุ้น ตอนขายให้บุตรชาย และบุตรสาว คุณทักษิณ
ขายหุ้นทั้งหมด 329,200,000 หุ้น มีเพิ่มขึ้นอีกถึง 100 ล้านหุ้น
ไม่น่าเชื่อ!
บริษัท แอมเพิลริช ซื้อหุ้นเพิ่ม ถึง 100 ล้านหุ้น จากใคร? ซื้อเมื่อไหร่?
ทั้งหมดมีที่มา ที่ไปครับ ท่านผู้อ่าน อ่านช้าช้า ลำดับเหตุการณ์ให้ดี แล้วจะเข้าใจว่าคนพวกนี้เขาทำธุรกิจกันแบบตรงไปตรงมาหรือไม่?
๐ วันที่ 11 มิถุนายน 2542 บริษัท แอมเพิลริช ซื้อหุ้นชิน จำนวน 32.92 ล้านหุ้นหรือ 329.2ล้านหุ้น(หลังลดราคาพาร์) จาก คุณทักษิณ๐ วันที่ 1 ธันวาคม 2543 คุณทักษิณ โอนสิทธิความเป็นเจ้าของบริษัทให้บุตรชาย จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ เพราะคุณทักษิณไม่เคยนำเอกสารการโอนบริษัทให้ลูกมาให้พวกเราได้ชมกัน๐ ปรากฏว่าบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทชิน ที่รายงานต่อกระทรวงพาณิชย์ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2544 ไม่มีชื่อบริษัท แอมเพิลริช ว่าเป็นผู้ถือหุ้นชิน แม้แต่หุ้นเดียว เจ้าของ แอมเพิลริช คนใหม่ คือคุณพานทองแท้ สั่งให้บริษัท แอมเพิลริช โอนหุ้น ชิน 32.92 ล้านหุ้น ไปซุกไว้ที่ไหนครับ!๐ ตรวจสอบบัญชีผู้ถือหุ้นวันที่ 30 เมษายน 2544 สองเดือนต่อมา ปรากฏว่าชื่อของบริษัทแอมเพิลริชของคุณพานทองแท้ถือ หุ้นชิน จำนวน 22.92 ล้านหุ้น และคู่แฝด คือบริษัท แอมเพิลริช ที่มีสัญชาติอังกฤษ ถือไว้อีก 10 ล้านหุ้น
เดาได้ว่าจำนวนหุ้นเดิมทั้งหมด
32.92 ล้านหุ้น มีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
- ส่วนแรก ให้ แอมเพิลริช สัญชาติ British Virgin
Island ถือ 22.92 ล้านหุ้น
- ส่วนที่สอง ให้ แอมเพิลริช สัญชาติอังกฤษ ถือ
10 ล้านหุ้น
เป็นไงครับ ! อ่านแล้วพอจะเข้าใจหรือยัง ? เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาบริษัท แอมเพิลริช ผู้ดีอังกฤษของผม ก็ขายหุ้น 10 ล้านหุ้นไปหมดครับ และ บริษัทนี้ก็หายไปในกลีบเมฆ! ส่วน บริษัท แอมเพิลริช ของคุณพานทองแท้ คงถือหุ้นชิน 22.92 ล้านหุ้น หรือ 229.2 ล้านหุ้น มาโดยตลอด
จนกระทั่งก่อนที่จะนำหุ้นมาขายให้ตนเอง และน้องสาว บริษัท แอมเพิลริช ได้มีการซื้อหุ้นขึ้นเพิ่มอีก 100 ล้านหุ้น และมีการนำหุ้นทั้งหมดไปฝากไว้ ให้ธนาคาร UBS ซึ่งเป็นธนาคารจาก สวิตเชอร์แลนด์ สาขาสิงคโปร์ เป็นผู้ดูแลหุ้นไว้ ข้อมูลทั้งหมดได้จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นทั้งสิ้น
อาจสรูปได้ง่าย ๆ ว่า หุ้นของคุณทักษิณที่โอนไปต่างประเทศ มีการซื้อขายหลายครั้งในจำนวนประมาณ 100 ล้านหุ้น ผมไม่อยากเดาว่าฝรั่งหัวดำปั่นหุ้น แต่ดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นอื่น คู่แฝดที่เป็นผู้ดี อังกฤษ ใครเป็นเจ้าของ หรือว่า ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์มีการ ติ๊ก ผิดอีก!
ทั้งหมดน่าจะเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ คุณทักษิณพยายามชี้แจงถึงเหตุผลของการไปตั้งบริษัท แอมเพิลริช ไว้ที่หมู่เกาะ British Virgin Island เป็นการเตรียมการเพื่อนำหุ้นชิน ไปจำหน่ายในตลาด NASDAQ ในรูปแบบของ ADR คำชี้แจงนี้ไม่มีน้ำหนักเลยครับ เพราะปรากฏว่า หุ้นชิน ที่บริษัท แอมเพิลริช ถือไว้ ได้มีการซื้อและขายมาโดยตลอด ไม่ได้เก็บสำรองไว้เหมือนที่กล่าวอ้าง
ผมขอความจริงอีกสักครั้งครับ ผมอยากให้ความจริงปรากฏเพื่อจะได้ลบข้อครหานินทาของผู้คนทั้งบ้านทั้งเมือง โดยเฉพาะในหมู่นักเล่นหุ้นทั้งหลาย ที่พูดกันว่า ฝรั่งหัวดำ ชอบปั่นหุ้น
ฟังผมเล่าเรื่องนี้แล้ว
อย่าไปทึกทักนะว่า " จับได้แล้วว่า ใครคือฝรั่งหัวดำที่ปั่นหุ้น "
(นักตรวจสอบ: รายงาน)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ข้อมูลเกี่ยวเนื่องการขายหุ้นชินคอร์ปที่มีอยู่บนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
823.
ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๑)
(กองบรรณาธิการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน : รวบรวมและเรียบเรียง)
824.
ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๒)
(รายการวิทยุ - ทักษิณคุยกับประชาชน - ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙)
825. ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๓)
(บทวิเคราะห์ 20 ประเด็นหลัก ในดีลเทคโอเวอร์กลุ่มชินคอร์ป)
826. ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๓)
(ต่อ) (บทวิเคราะห์
20 ประเด็นหลัก)
828.
ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๔)
(แก้วสรร อติโพธิ,
คำสารภาพกลางเมืองของนายกฯทักษิณ)
831.
ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๕)
(มายาภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีการขายหุ้นชินคอร์ป)
บทความที่นำเสนอก่อนหน้านี้ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
หากนักศึกษาและสมาชิกท่านใตสนใจ
สามารถคลิกไปอ่านได้จากที่นี่...คลิกที่ภาพ
ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I
สารบัญเนื้อหา 3 I สารบัญเนื้อหา
4
ประวัติ
ม.เที่ยงคืน
สารานุกรมลัทธิหลังสมัยใหม่และความรู้เกี่ยวเนื่อง
e-mail :
midnightuniv(at)yahoo.com
หากประสบปัญหาการส่ง
e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com
ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกำลังจัดทำบทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ทั้งหมด
กว่า 800 เรื่อง หนากว่า 11500 หน้า
ในรูปของ CD-ROM เพื่อบริการให้กับสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านในราคา 150 บาท(รวมค่าส่ง)
(เริ่มปรับราคาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548)
เพื่อสะดวกสำหรับสมาชิกในการค้นคว้า
สนใจสั่งซื้อได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ
midnight2545(at)yahoo.com
สมเกียรติ
ตั้งนโม และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(บรรณาธิการเว็บไซค์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
หากสมาชิก ผู้สนใจ และองค์กรใด ประสงค์จะสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชุมชน
และสังคมไทยสามารถให้การสนับสนุนได้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในนาม สมเกียรติ
ตั้งนโม
หมายเลขบัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารกรุงไทยฯ สำนักงานถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หรือติดต่อมาที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com
สถานการณ์การเมืองมันบีบคั้นให้ท่านต้องแถลงเคลียร์เรื่องนี้ด้วยตนเอง เพื่อชิงมวลชนกับการชุมนุมในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์(จัดโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า) แต่ท่านไม่รู้ไม่ระวังในทางกฎหมาย ท่านยังนึกว่านี่คือคดีซุกหุ้นเช่นที่ท่านเคยโดนมา หารู้ไม่ว่านี่คือคดีขาดคุณสมบัติฐานมีประโยชน์ทับซ้อน ที่จะดูกันที่พฤติการณ์ความเป็นจริง ไม่ใช่ที่ "ชื่อ" ซึ่งโอนกันไปมาได้ หลอกกันได้ เชิดกันได้ทั้งนั้น ดังนั้น ถ้าพิสูจน์ในศาลรัฐธรรมนูญได้เมื่อใดว่าท่านยังคงครองอำนาจครอบงำจัดการหุ้นชินคอร์ปตามความเป็นจริง ท่านก็หลุดจากนายกฯทันที คำอธิบายในรายการนายกฯ คุยกับประชาชนที่ผ่านมาจึงกลายเป็นคำรับสารภาพที่สำคัญที่สุดในคดีนี้