The Midnight University

นายกทักษิณกับคำชี้แจงทางวิทยุ
ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป (๔)
แก้วสรร อติโพธิ : สมาชิกวุฒิสภา
ผลประโยชน์ทับซ้อน
คำสารภาพกลางเมืองของนายกฯทักษิณ
นำมาจากโทรทัศน์รายการ คม-ชัด-ลึก คืนวันจันทร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙

หมายเหต
บทความถอดเทปชิ้นนี้ได้รับมาจากอาจารย์ท่านหนึ่ง ส่งมาให้กองบรรณาธิการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ทางกองบรรณาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า มีเนื้อหาน่าสนใจในประเด็นทางกฎหมาย
โดยเฉพาะเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๐๙ และ ๒๙๕
midnightuniv(at)yahoo.com

(บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ 828
เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
(บทความทั้งหมดยาวประมาณ 13.5 หน้ากระดาษ A4)

ผลประโยชน์ทับซ้อน" : คำสารภาพกลางเมืองของนายกฯทักษิณ
โดย แก้วสรร อติโพธิ

คำพูดของนายก ทักษิณ ชินวัตร ในรายการ
"นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน" ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
"แต่พอเข้าสู่การเมืองก็ถูกโจมตีว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ลูกๆ ก็ทนมาอยู่ ๔ ปี พอดีมีคนสนใจอยากจะซื้อ ลูกๆ เขาก็บอกว่า "พ่อขายไปเถอะ" เพราะว่ามันไม่ดีหรอกถูกโจมตีอยู่อย่างนี้ เห็นพ่อทำการเมือง พ่อทุ่มเท พ่อชอบทำงานการเมืองให้บ้านเมือง พ่อทำเต็มที่ไปเลย ไม่ต้องห่วง เพราะว่าลูกๆ ก็จะทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ เอง"

มาตรา ๒๐๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐
"มาตรา ๒๐๙ รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไป ทั้งนี้ ตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ ในกรณีที่รัฐมนตรีผู้ใดประสงค์จะได้รับประโยชน์จากกรณีดังกล่าวต่อไป ให้รัฐมนตรีผู้นั้นแจ้งให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทราบภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง และให้รัฐมนตรีผู้นั้นโอนหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทดังกล่าว ให้นิติบุคคลซึ่งจัดการทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

ห้ามมิให้รัฐมนตรีผู้นั้นกระทำการใด อันมีลักษณะเป็นการเข้าไปบริหารหรือจัดการใดๆ เกี่ยวกับหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทดังกล่าว"

ช่วงถาม - ตอบ ทีวี รายการ คม-ชัด-ลึก เมื่อคืนวันจันทร์ที่ ๖ กพ.๔๙
ถาม - ท่านนายกฯ บอกว่า คดีซุกหุ้นของท่านนั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินไปแล้ว ส่วนหุ้นชินคอร์ป ในแอมเพิล ริช ท่านก็ไม่ได้ซุกเพราะได้โอนแอมเพิล ริช ไปให้ลูก ก่อนเข้ารับตำแหน่งแล้ว แล้วทำไม สว.๒๗ คน จึงยังมาฟ้องท่านต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกครับ

ตอบ - คดีที่รอดไปนั้นมันเป็นหุ้นส่วนที่ซุกไว้ในนามคนใช้ที่กล่าวหากันว่าคุณหญิงไปซุกไว้ ส่วนหุ้นชินคอร์ป ในแอมเพิล ริช นี่มันอีกก้อนหนึ่ง
ในปี ๒๕๔๒ นั้น ท่านมีอยู่ ๒ ก้อน ก้อนละ ๑๑.๒๕% ก้อนแรกท่านไปซุกไว้ในแอมเพิล ริช ที่ท่านถือหุ้นอยู่ ๑๐๐% อีกก้อนหนึ่งยังเป็นชื่อของท่านอยู่

ในปี ๒๕๔๓ ท่านรายงานในแบบแจ้งโอนต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ก้อนหลังนี้ท่านได้โอนให้บุตรชายแล้ว ส่วนก้อนในแอมเพิล ริช ท่านปิดเงียบ โดยแจ้งในแบบฟอร์มว่าไม่มีหุ้นเหลืออยู่ในมืออีกแล้ว นี่คือซุกที่ ๑

ในกุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ และมกราคม ๒๕๔๘ ท่านได้ขึ้นเป็นนายกฯ แต่รายงานบัญชีทรัพย์สินของท่านทั้งสองสมัยก็ไม่ระบุหุ้นชินคอร์ปในแอมเพิล ริช เลย นี่คือ ซุก ๒ และซุกที่ ๓. ทั้งสามซุกนี่ ถ้า ตลท.หรือ ป.ป.ช.ในเวลานั้นๆ ลงมือจัดการในทันที ป่านนี้ท่านก็โดนคดีไปนานแล้ว

ถาม - ก็ท่านนายกฯ บอกว่าท่านโอนไปให้ลูก ตั้งแต่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๓ แล้ว มิใช่หรือครับ

ตอบ - นั่นเป็นคำอธิบายที่เกิดขึ้นในกรกฎาคม ๒๕๔๔ เพราะ ก.ล.ต.ไปพบ แอมเพิล ริช ในเอกสารการโอน ปี ๒๕๔๒ จึงได้รู้ว่ามีหุ้นตัวนี้อยู่ เจ้าหน้าที่จึงสอบถามมา เมื่อความมันแดงขึ้นมาท่านจึงหมุนโลกกลับทำเท็จให้เป็นจริง อธิบายย้อนหลังไปเมื่อ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๔ ว่า ผมได้โอนแอมเพิล ริช ให้ลูกไปแล้วตั้งแต่ ธันวาคม ๒๕๔๓ ก.ล.ต.ก็พยักหน้า ระบุในรายงานว่าได้ตรวจสอบแล้ว พวกผมก็งงจริงๆ ว่า ได้ตรวจสอบกันจริงหรือไม่ ตรวจสอบจากอะไรในเมื่อเกาะบริติชเวอร์จิ้น นี้มันเป็นสวรรค์ของการซุกตัวฟอกเงิน จึงไม่มีทะเบียนพาณิชย์สาธารณะอยู่เลย

เทคนิคแจ้งย้อนหลัง ไปเปลี่ยนความจริงในอดีต เหมือนนั่งไทม์แมชชีนกลับไปทำเท็จให้เป็นจริงนี่ ท่านนายกฯ ใช้บ่อยมาก เท่าที่สำคัญนอกจากบินไปแก้ว่าโอนแอมเพิล ริช ให้ลูกเพื่อหนีรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๐๙ และ ๒๙๕ แล้ว เราก็ยังค้นพบอีกสองเที่ยวบินด้วยกัน. ตุลาคม ๔๔ บินกลับไป ๑๓ เดือน เพื่อแก้รายงานกันยายน ๔๓ ว่า การขายหุ้นให้ลูกนั้นแท้ที่จริงแล้วยังเหลือหุ้นอีก ๑๑.๒๑% ซึ่งก็เป็นการบินเพื่อหนีคดีรายงานเท็จต่อตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง
(มาตรา ๒๙๕ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ หรือจงใจยื่นรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่ครบกำหนดต้องยื่นตามาตรา ๒๙๒ หรือนับตั้งแต่วันที่ตรวจพบว่ามีการกระทำดังกล่าว แล้วแต่กรณี และผู้นั้นต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆเป็นเวลาห้าปี นับจากวันที่พ้นจากตำแหน่ง...)

๒๕ มกราคม ๔๙ บินกลับ ไป สามวัน ไปแก้รายงานการโอนจากแอมเพิล ริช ให้บุตร จากในตลาด เป็นนอกตลาด โดยอ้างว่า "ติ๊กผิด"

เมื่อซ้ำซากอย่างนี้ มีเทคโนโลยีหมุนโลกกลับไปแก้ไขได้ไปมาอย่างนี้ แล้วคุณจะให้ผมเชื่อได้อย่างไร ว่าท่านไม่ได้บินจากกรกฎาคม ๔๔ ไปแก้หุ้นแอมเพิล ริช ในปี ๔๓ จากชื่อตัวเอง ไปเป็นชื่อบุตรชายอีก เรื่องจึงต้องเป็นคดีให้ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวน ค้นพบไทม์แมชชีนของท่านให้ได้

ถาม - เครื่องพาข้ามกาลเวลา หรือไทม์แมชชีนนี่ มันมีอยู่จริงหรือครับ

ตอบ - จากการสอบสวนของเรา ทราบว่า โดราเอมอนของญี่ปุ่นมีอยู่เครื่องหนึ่ง ทางอเมริกาก็มีอีกเครื่อง. ในเรื่อง Man in Black เครื่องนั้นก้าวหน้ากว่า สามารถลบความทรงจำของผู้คนได้ด้วย คณะทำงานของ ส.ว.ยังไม่ทราบว่าท่านนายกฯ เอาเครื่องนี้มาจากไหน เพราะทั้งสองประเทศเขาหวงนวัตกรรมตัวนี้มากจริงๆ นะคุณนะ

ถาม - เอาล่ะครับๆ สมมติว่า ท่านนายกฯ ไม่ได้โอนแอมเพิล ริช ให้บุตรชายจริงๆ ท่านก็ต้องโดนคดีซุกหุ้นอีกครั้ง และไม่ใช่เรื่องฟ้องซ้ำเพราะเป็นก้อนใหม่ก็ตาม แต่คำถามผมก็ยังมีอยู่ว่า ส.ว.ทั้ง ๒๗ คนนี้มาเกี่ยวอะไรด้วยครับ เพราะเป็นเรื่อง ป.ป.ช.เท่านั้น ที่จะขุดคุ้ยและกล่าวหาต่อศาล รัฐธรรมนูญได้ว่า ท่านนายกฯ แจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ

ตอบ - เป็นคำถามที่ดีและสำคัญมากจริงๆ ครับ ขอชมเชย. คำตอบก็คือ ๒๗ ส.ว.มิได้กล่าวหาให้ท่านพ้นจากนายกฯ เพราะท่านซุกหุ้นแอมเพิล ริช แต่เรากล่าวหาว่าท่านขาดคุณสมบัติ ฝ่าฝืนมาตรา ๒๐๙ ที่ระบุให้ท่านตัดขาดจากหุ้นและกิจการชินคอร์ป แต่ท่านไม่ยอม เราค้นพบหลักฐานหลายประการที่ระบุได้ว่า ในความเป็นจริงนั้น ท่านยังถือครองอำนาจครอบงำจัดการหุ้นชินคอร์ป อยู่ตลอดมา

เมื่อท่านไม่ยอมตัดขาด ท่านก็ตกที่นั่งถือประโยชน์ทับซ้อน คือถือประโยชน์ชินคอร์ปทับซ้อนกับอำนาจหน้าที่สาธารณะที่มีอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พบเช่นนี้เมื่อใด ก็เป็นหน้าที่และอำนาจของ ส.ว.๒๐ คนขึ้นไป นำคดีขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยถอดถอนท่านนายกฯได้ ยื่นต่อประธานวุฒิสภาเมื่อใด ท่านประธานก็ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนหาความจริงตามคำร้องโดยพลัน

ถาม - อ้อ..คล้ายๆ กับที่คุณชูวิทย์ โดนถอดจาก ส.ส.เพราะสังกัดพรรคชาติไทยไม่ครบ ๙๐ วันใช่ไหมครับ

ตอบ - ครับ ถูกต้องแล้ว เรื่องขาดคุณสมบัตินี้ ไม่เกี่ยวกับ ป.ป.ช.เลย และ มาตรการ ๒๐๙ นี้ ลั่นไกแล้ว. ยิงแล้วก็โดนตัวนายกฯ ทันที ประธานสภาต้องส่งเรื่องทันที และศาลก็ต้องไต่สวนคำร้องทันทีเหมือนกัน

ถาม - แล้วศาลจะไต่สวนเรื่องอะไรครับ

ตอบ - ไต่สวนว่าท่านนายกฯ ได้วางมือจากกิจการและหุ้นชินคอร์ป จริงหรือไม่ ผู้ร้องไม่จำต้องพิสูจน์เรื่องหนีภาษี หรือซุกหุ้น หรือกล่าวหาว่าท่านมีพฤติกรรมทุจริตสั่งการเกี่ยวกับชินคอร์ปเรื่องใดเลย พิสูจน์ได้ว่ายังไม่วาง "มือ" จากหุ้นชินคอร์ปเท่านั้น ก็พอแล้ว ส่วนท่านนายกฯ จะใช้ "ชื่อ"ใครถือหุ้นใด ก็ไม่สำคัญ ตัวพฤติการณ์ในคดีนั้นก็นำสืบได้ทุกช่วงทุกเวลา ตั้งแต่ ปี ๒๕๔๓ จนปัจจุบันตั้งแต่การซุกหุ้นแอมเพิล ริช, การนั่งไทม์แมชชีนกลับมาแก้ไข,การรวมหุ้นในชื่อต่างๆ มารวมขายสิงคโปร์ พร้อมกฎหมายโทรคมนาคมที่แก้ไขรอไว้แล้วตลอดจนคำให้สัมภาษณ์ต่างๆ หลังจากนั้น ทั้งหมดนี้ล้วนเอาเข้าสู่สำนวนได้ทั้งสิ้น

ถาม - แม้กระทั่งถ้อยความในรายการ "นายกทักษิณฯ คุยกับประชาชน" เมื่อ ๔ กุมภานี้ ก็ใช้ได้หรือครับ

ตอบ - ครับ..ใช้ได้แน่นอน คุณย้อนขึ้นไปอ่านดูข้างบนสุดสิครับว่า ท่านนายกฯ สารภาพกลางเมืองแล้วใช่ไหมว่าในที่สุดแล้วท่านคือผู้ตัดสินใจขายหุ้นชินคอร์ป ให้แก่สิงคโปร์ โดยลูกๆ เป็นเพียงผู้ให้ความเห็นเท่านั้นเอง เมื่อท่านรับมาอย่างนี้แล้ว การไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญจะง่ายขึ้นมาก ท่านจะนั่งไทม์แมชชีน กลับไปแก้คำพูดที่ได้ยินกันทั่วเมืองก็ไม่ได้ เครื่องของท่านก็ไม่ทันสมัยเหมือนของอเมริกา ที่สามารถใช้ลบความทรงจำของผู้คนทั้งเมืองได้

ถาม - มือระดับนี้ ไม่น่าพลาดอย่างนี้เลยนะครับ

ตอบ - สถานการณ์การเมืองมันบีบคั้นให้ท่านต้องแถลงเคลียร์เรื่องนี้ด้วยตนเอง เพื่อชิงมวลชนกับการชุมนุมในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์(จัดโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า) แต่ท่านไม่รู้ไม่ระวังในทางกฎหมาย ท่านยังนึกว่านี่คือคดีซุกหุ้นเช่นที่ท่านเคยโดนมา หารู้ไม่ว่านี่คือคดีขาดคุณสมบัติฐานมีประโยชน์ทับซ้อน ที่จะดูกันที่พฤติการณ์ความเป็นจริง ไม่ใช่ที่ "ชื่อ" ซึ่งโอนกันไปมาได้ หลอกกันได้ เชิดกันได้ทั้งนั้น ดังนั้น ถ้าพิสูจน์ในศาลรัฐธรรมนูญได้เมื่อใดว่าท่านยังคงครองอำนาจครอบงำจัดการหุ้นชินคอร์ปตามความเป็นจริง ท่านก็หลุดจากนายกฯทันที คำอธิบายในรายการนายกฯ คุยกับประชาชนที่ผ่านมาจึงกลายเป็นคำรับสารภาพที่สำคัญที่สุดในคดีนี้ครับ

ถาม - ทำไมที่ปรึกษากฎหมายของท่านเขาไม่เตือนท่านล่ะครับ

ตอบ - พวกนี้เป็นมือกฎหมายเอกชนและตบแต่งภาษี เขาจึงไม่เข้าใจมาตรการตามมาตรา ๒๐๙ แห่งรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายมหาชน จึงต้องตีความและใช้บังคับต่างจากคดีแพ่ง คดีภาษี คดีอาญา

ถาม - มันต่างกันอย่างไรครับ

ตอบ - ต้องเข้าใจวัตถุประสงค์ ของกฎหมายนี้ก่อนครับว่า เป็นเรื่อง "คุณสมบัติ" ที่มุ่งป้องปัดการถือครอง "ประโยชน์ทับซ้อน" เป็นสำคัญ ประโยชน์ทับซ้อนคืออะไร ? คุณดูจากการ์ตูน "ปลาหมึก" ต่อไปนี้ก็จะเข้าใจได้ว่า ถ้าปล่อยให้อำนาจรัฐของนายกรัฐมนตรีทับกับอำนาจของนายกฯ ในหุ้นหรือกิจการของชินคอร์ปแล้ว ปลาหมึกตัวนี้จะสามารถโกงบ้านเมืองได้อย่างไร

(Picture1)

รัฐธรรมนูญมาตรา ๒๐๙ "ความเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องไม่มีประโยชน์ทับซ้อนฯ"

นี่คือประโยชน์ทางธุรกิจ ที่ "ปลาหมึก" ได้จาก "ประโยชน์ทับซ้อน"

นี่คือประโยชน์ทางธุรกิจ ที่ "ปลาหมึก" ได้จาก "ประโยชน์ทับซ้อน"

เมื่อเปลี่ยนประโยชน์ทางธุรกิจที่ได้ไปเป็นการขายเหมาหุ้น
เงินสดๆ ๗.๓๓ หมื่นล้าน คือคำตอบสุดท้ายที่ปลาหมึกได้มาจาก "ประโยชน์ทับซ้อน"

ถาม - การ์ตูนตัวนี้ใครเขียนครับ

ตอบ - เราต้องให้เกียรติและมอบความเสี่ยงภัยร่วมกันแก่คณะผู้สร้างสรรค์ด้วย เขาบอกผมว่าให้บอกไปเลยเขาไม่กลัว ก็มีที่ปรึกษา ส.ว.กทม.ชื่อนายขวัญสรวง อติโพธิ ฝาแฝดผมเอง, สถาปนิกอีก ๒ คน ชื่อนายกำแหง อติโพธิ หลานผมเองกับเพื่อนชื่อ นายเขมชาติ วงศ์ทิมารัตน์ กับเพื่อนผมอีกคนชื่อนายวิวัฒน์ รัตนพิทักษ์ พวกเราพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างในภาพการ์ตูนชุดนี้ครับ

ถาม - เรียกว่าพร้อมจะโดนทั้งตระกูล เลยนะครับ

ตอบ - ก็คงยังพอมีเหลือให้ส่งข้าวส่งน้ำอยู่บ้างครับ

ถาม - ในส่วนของข้อกฎหมายที่เขาจะสู้ว่าเขาได้โอนหุ้นไปให้ลูกแล้วล่ะครับ ส.ว.๒๗ คน จะสู้อย่างไร

ตอบ - ในกฎหมายเอกชนนั้น ถ้าปล่อยให้ใครกล่าวอ้างว่า ผู้มี "ชื่อ" ไม่มีสิทธิในหุ้นใดแล้วก็ยุ่งเหมือนกัน ความแน่นอนทางธุรกิจจะเสียไป แต่เมื่อเป็นเรื่องมหาชนมุ่งปกป้องประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่ ตลาดหุ้น เราจะดูที่ "ชื่อ" ไม่ได้ ต้องดู "มือ" หรืออำนาจครอบงำจัดการที่แท้จริงเป็นสำคัญ
ตัวอย่างเช่น

- กฎหมายว่าด้วยการถือครองบริษัทของคนต่างชาติ ถ้าบริษัทกุหลาบแก้วที่ร่วมซื้อหุ้นชินคอร์ป อ้างตัวว่าเป็นบริษัทไทย มีธนาคารไทยพาณิชย์ถือหุ้นอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ข้อเท็จจริงพบว่าเงินที่บริษัทนี้ใช้ซื้อหุ้นกว่า ๒ หมื่นล้านนั้น กู้มาจากบริษัทเทมาเส็ก และเทมาเส็กกู้มาจากธนาคารไทยพาณิชย์อีกชั้นหนึ่ง อย่างนี้คุณจะวินิจฉัยว่าหุ้นชินคอร์ปนี้ถือโดยกุหลาบแก้ว หรือโดยเทมาเส็ก ในเมื่อกฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่มุ่งป้องกันอำนาจครอบงำจัดการของต่างชาติ เราจะยอมยึดติดตีความตามชื่อที่ปรากฏในทะเบียนเช่นนั้นหรือ?

- รัฐธรรมนูญมาตรา ๒๐๙ กฎหมายนี้ก็เช่นกันมุ่งตัดขาดนายกรัฐมนตรีจากอำนาจครอบงำจัดการหุ้นและกิจการชินคอร์ปให้จงได้จริงๆ ความในวรรคสองก็สำทับไว้ชัดเจนว่าอย่าโอนแต่ชื่อ ต้องงดเว้นไม่เข้ายุ่งเกี่ยวจัดการโดยเด็ดขาด การตีความคำว่า "ไม่คงไว้ซึ่งความเป็นผู้ถือหุ้น" ในวรรคแรก จึงต้องดูที่ความเป็นจริง จะดูจากชื่อที่เปลี่ยนไปมาไม่ได้

ถาม - โอ..จอร์จ คดีนี้เราคงปวดหัวกับปัญหากฎหมายอีกเป็นแน่แล้ว ใช่ไหมครับ

ตอบ - มันไม่ยากที่จะทำความเข้าใจหรอก จอร์จเอ๋ย กฎหมายนั้นสามารถเข้าใจได้ด้วยสามัญสำนึกของผู้คนได้อยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่สามัญสำนึกนี้สูญหายจากนักกฎหมายไปเป็นอันมากแล้ว ดูการ์ตูน ต่อไปนี้แล้ว จอร์จ จะซึ้งได้ว่า "อำนาจครอบงำจัดการ" บริษัทและหุ้นชินคอร์ปนั้น แท้ที่จริง อยู่กับใคร (picture2)

ตัว "ทศหมึก"เกิดจาก ปลาหมึก + ทศกัณฐ์
มีฤทธิ์ ยึดครองบ้านเมืองและถือครองธุรกิจชนิดที่หากินจากเครือข่ายสาธารณะ
มีหลายหน้า ใช้ "ชื่อ" โอนหุ้นกันไปมา จนมีชื่อถือหุ้นแทนหัวหน้าที่อยู่บนสุดได้

ถาม - ดูมันน่ากลัวมากนะครับ แล้วเราจะรู้ทันมันได้อย่างไรครับ

ตอบ - ก็ต้องดูที่ "ตัว" อย่าไปดูที่ "ชื่อ" ไม่เช่นนั้นมาตรา ๒๐๙ จะใช้จัดการมันไม่ได้เลย เจ้านี่มักจะซ่อนตัวอยู่ในน้ำ ไม่ให้เราเห็นตัว โผล่แต่หน้าบนสุดให้เห็น หน้าอื่นหลบอยู่ใต้น้ำ แล้วส่งหนวดทางกฎหมาย ทั้งที่ปรึกษามืออาชีพ และ ก.ล.ต., กรมสรรพากร มาเล่านิทานว่าหุ้นอยู่ในมือบุตรชาย บุตรสาว หรือหุ้นแอมเพิล ริช โอนไปแล้ว ภาษีก็ไม่ต้องเสีย ฯลฯ ชาวบ้านดูแต่ในทีวีไม่เห็นตัวทศหมึก จึงสับสนลังเลกันไปหมด จนทุกวันนี้ เราต้องรู้คาถารู้ทันทศหมึก เสียก่อน (picture3)

ต้องดูที่ "ตัว" อย่าดูที่ "ชื่อ" ... อย่าแยกเป็นหัวๆ ต้องดูภาพรวมทั้งหมด

อย่าเชื่อคำบอกเล่าและหลักฐานเท่าที่ปรากฏให้เห็นว่า หุ้นเดินทางไปแล้วอย่างนั้นอย่างนี้
เพราะแท้ที่จริงคือ "อัครมหานิติกรรมอำพราง" ของทศหมึก จอมจำแลงกายแห่งยุค

แอมเพิล ริช เป็นแค่ "ปณ.ผี"
เป็นผีหุ้นจากเกาะลวงโลก ตรวจไม่ได้จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน ทศหมึกจะอธิบายอย่างไรก็ได้ อย่าไปเชื่อ

ถาม - หมดการ์ตูน แล้วหรือยังครับ

ตอบ - เอาแค่นี้ก่อน คุณยังมีอะไรไม่กระจ่างอีกไหมว่า ปัญหาการไต่สวนพิสูจน์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีประโยชน์ทับซ้อน ถืออำนาจรัฐและถืออำนาจในชินคอร์ป นั้น เราต้องรู้ทันและดูพฤติการณ์อะไรบ้าง ถ้ายังไม่เข้าใจผมจะได้ให้ดูการ์ตูนอีก

ถาม - พอแล้ว..พอแล้วครับ ผมกลัวตัวทศหมึกจริงๆ ว่าแต่ศาลรัฐธรรมนูญ เขาจะยอมตีความอย่างที่ อาจารย์และเพื่อน สว.ยื่นคำร้องหรือครับ

ตอบ - คดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญโยนคำร้องพวกผมทิ้งไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องไต่สวนมูลคดีที่ผมกล่าวอ้างก่อน ตรงจุดนี้ก็มีคำรับสารภาพกลางวิทยุของท่านนายกฯ เป็นหลักฐานสำคัญอยู่ในมือพวกผมแล้ว คดีน่าจะชี้ขาดกันด้วยข้อกฎหมายเท่านั้นว่า ตามมาตรา ๒๐๙ นั้น เราจะดูที่ "ชื่อ" หรือดูที่ "มือ" หรือตัวกันแน่ ถ้าศาลจะยกคำร้องพวกผมก็ต้องตีความว่า ๒๐๙ นั้นต้องดูที่ "ชื่อ" ตีความอย่างนี้ พวกผมถึงจะแพ้คดีไปได้ คดีนี้จึงไม่น่าจะเหนื่อย คงสู้กันที่ข้อกฎหมายเป็นสำคัญ

ถาม - แล้วไม่กลัวว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะถูกหนวดทศหมึก มัดเอาไว้หรือครับ

ตอบ - พวกผมมีหน้าที่ต้องทำตามมโนสำนึกอิสระที่มี ทำไปด้วยอำนาจที่รัฐธรรมนูญและประชาชนได้มอบให้ เมื่อรู้แล้ว เห็นแล้วไม่ทำ มันนอนไม่หลับจริงๆ ความปั่นป่วนของบ้านเมืองในทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากกลไกในระบบไม่ทำงาน ไม่ทำงานให้รัฐธรรมนูญเป็นจริงได้ ความร้อนจึงไหลไประบายในท้องถนน เรียกหากันแต่จริยธรรมของนายกฯ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องขาดคุณสมบัติที่กฎหมายจัดการได้

พวกผมสมาชิกวุฒิสภา ๒๗ คน ได้ทำตามหน้าที่ของตนแล้ว ยังเหลือแต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้นว่าจะร่วมทำหน้าที่กับพวกผมหรือไม่เท่านั้น คดีนี้คือโอกาสสุดท้ายที่ท่านในศาลรัฐธรรมนูญ จะพิสูจน์ให้คนไทยได้เห็นว่า รัฐธรรมนูญไทยนั้นสามารถเดินลงจากพานมาแก้ปัญหาให้บ้านเมืองได้จริงๆ อนาคตของระบบการปกครองโดยรัฐธรรมนูญ และชะตาบ้านเมืองอยู่ในมือท่านแล้วจริงๆ ครับ ศาลรัฐธรรมนูญที่เคารพ

(หมายเหตุ : ภาพการ์ตูนและข้อความในบทความนี้เป็นความรับผิดชอบตามเสรีภาพของผู้เขียน โดยลำพัง สมาชิกวุฒิสภาผู้ร่วมยื่นคำร้อง มิได้รู้เห็นด้วยแต่ประการใดทั้งสิ้น )

..........................................................................................

รายนาม สมาชิกวุฒิสภา ผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ให้วินิจฉัยความสิ้นสุดซึ่งความเป็นรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรี
๑. นายทองใบ ทองเปาด์ ๒. นายแก้วสรร อติโพธิ ๓. นายมนตรี สินทวิชัย ๔. นายพนัส ทัศนียานนท์
๕.นางพรหมจารี รัตนเศรษฐ์ ๖.นายวีรพล วัชรประทีป ๗. นายปราโมทย์ ไม้กลัด ๘. นายนิวัฒน์ พ้นชั่ว
๙.นายโอภาส รองเงิน ๑๐.นายวิญญู อุฬารกุล ๑๑.นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ๑๒.นายจอน อึ๊งภากรณ์ ๑๓.นางมาลีรัตน์ แก้วก่า ๑๔.นางเตือนใจ ดีเทศน์ ๑๕.นายสัก กอแสงเรือง ๑๖. นายวงศ์พันธ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ๑๗.พ.อ.สมคิด ศรีสังคม ๑๘.นายสราวุธ นิยมทรัพย์ ๑๙.นายการุณ ใสงาม ๒๐.พลตรีมนูญกฤต รูปขจร ๒๑.นายพิเชฐ พัฒนโชติ ๒๒.นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา ๒๓.นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ๒๔.นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ๒๕.นายโสภณ สุภาพงษ์ ๒๖.นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ๒๗.แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ

เก็บความโดย ธนาวุฒิ อัศวลักษณ์ / เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2549 : 18:32:52 น.

ข้อมูลเกี่ยวเนื่องที่มีอยู่บนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
823. ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๑) (กองบรรณาธิการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน : รวบรวมและเรียบเรียง)
824. ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๒) (รายการวิทยุ - ทักษิณคุยกับประชาชน - ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙)
825. ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๓) (บทวิเคราะห์ 20 ประเด็นหลัก ในดีลเทคโอเวอร์กลุ่มชินคอร์ป)
826. ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๓) (ต่อ) (บทวิเคราะห์ 20 ประเด็นหลัก)
828. ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๔) (แก้วสรร อติโพธิ, คำสารภาพกลางเมืองของนายกฯทักษิณ)
831. ถังความรู้เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป(๕) (มายาภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีการขายหุ้นชินคอร์ป)

บทความที่นำเสนอก่อนหน้านี้ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
หากนักศึกษาและสมาชิกท่านใตสนใจ
สามารถคลิกไปอ่านได้จากที่นี่...คลิกที่ภาพ