โครงการก้าวสู่คริสตศตวรรษที่ ๒๑ ด้วยการทบทวนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา




Update: 2 June 2007
Copyleft2007
บทความทุกชิ้นที่นำเสนอบนเว็บไซต์นี้เป็นสมบัติสาธารณะ และขอประกาศสละลิขสิทธิ์ให้กับสังคม
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเปิดรับบทความทุกประเภท ที่ผู้เขียนปรารถนาจะเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน โดยบทความทุกชิ้นต้องยินดีสละลิขสิทธิ์ให้กับสังคม สนใจส่งบทความ สามารถส่งไปได้ที่ midnightuniv(at)gmail.com โดยกรุณาใช้วิธีการ attach file
H
บทความลำดับที่ ๑๒๖๔ เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ตั้งแต่วันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๐ (June, 02, 06,.2007)
R
power-sharing formulas, options for minority rights, and constitutional safeguards.

บรรณาธิการแถลง: บทความทุกชิ้นซึ่งได้รับการเผยแพร่บนเว็บไซต์แห่งนี้ มุ่งเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อวัตถุประสงค์ในการขยายพรมแดนแห่งความรู้ให้กับสังคมไทยอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังมุ่งทำหน้าที่เป็นยุ้งฉางเล็กๆ แห่งหนึ่งสำหรับเก็บสะสมความรู้ เพื่อให้ทุกคนสามารถหยิบฉวยไปใช้ได้ตามสะดวก ในฐานะที่เป็นสมบัติร่วมของชุมชน สังคม และสมบัติที่ต่างช่วยกันสร้างสรรค์และดูแลรักษามาโดยตลอด. สำหรับผู้สนใจร่วมนำเสนอบทความ หรือ แนะนำบทความที่น่าสนใจ(ในทุกๆสาขาวิชา) จากเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก สามารถส่งบทความหรือแนะนำไปได้ที่ midnightuniv(at)gmail.com (กองบรรณาธิการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน: ๒๘ มกาคม ๒๕๕๐)

ตนรู้จัก พ.ต.ท. ทักษิณฯ ตั้งแต่บิดาของตนดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทย ...สิ่งที่ทำให้ตนและ พ.ต.ท. ทักษิณฯ ขัดแย้งกันคือ การละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการประกาศสงครามกับยาเสพติดในปี 2544 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่รัฐบาลทักษิณสนับสนุนให้มีการฆ่าตัดตอน โดย พ.ต.ท. ทักษิณฯ ประกาศอยู่เสมอว่า มีสถานที่สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2 แห่ง คือ คุก และโลงศพ และมีการนับจำนวนผู้ตายจากสงครามยาเสพติด โดย 15 วันแรก พ.ต.ท. ทักษิณฯ ประกาศว่ามีผู้เสียชีวิตจากนโยบายดังกล่าว 518 ศพ และเพิ่มเป็นราว 2,800 ภายใน 3 เดือน
02-06-2550

Propaganda
Midnight University

 

H
R
ทุกท่านที่ประสงค์จะติดต่อมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กรุณาจดหมายไปยัง email address ใหม่ midnightuniv(at)gmail.com
-Free Documentation License-
Copyleft : 2007, 2008, 2009
Everyone is permitted to copy
and distribute verbatim copies
of this license
document, but
changing it is not allowed.

เรียนรู้อย่างใช้วิจารณญาน สนับสนุนพลังของการตรวจสอบ
รายงานสรุปการโฆษณาของนักวิชาการให้รัฐบาลและ คปค (ตอนที่ ๒)

กองบรรณาธิการ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน : รวบรวม
ขอขอบคุณสื่อมวลชน ซึ่งส่งรายงานฉบับนี้มาให้

รายงานสรุปฉบับนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งได้เดินทางไปต่างประเทศ ราวปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
ความจำเป็นในการทำรัฐประหาร และการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว หลังโค่นอำนาจรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
กองบรรณาธิการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้เปิดพื้นที่สาธารณะนี้ขึ้นเพื่อการตรวจสอบ
บนพื้นฐานของประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ (deliberative democracy)
หากผู้อ่านมีความคิดเห็นเป็นอื่นใดในเชิงโต้แย้งรายงานสรุปฉบับนี้
และต้องการพื้นที่ในการนำเสนอความเห็นของตน สามารถส่งมาเผยแพร่ได้ที่
midnightuniv(at)gmail.com

บทความเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา
ข้อความที่ปรากฏบนเว็บเพจนี้ ได้รักษาเนื้อความตามต้นฉบับ
เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงทุกประการ ในการนำไปใช้อ้างอิงได้ทางวิชาการ

บทความมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ลำดับที่ ๑๒๖๔
เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๐
(บทความทั้งหมดยาวประมาณ ๑๑.๕ หน้ากระดาษ A4)

+++++++++++++++++++++++++++++++++

เรียนรู้อย่างใช้วิจารณญาน สนับสนุนพลังของการตรวจสอบ
รายงานสรุปการโฆษณาของนักวิชาการให้รัฐบาลและ คปค (ตอนที่ ๒)

กองบรรณาธิการ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน : รวบรวม

(๓) สรุปผลการอภิปรายที่มูลนิธิ Friedrich Ebert Stiftung
ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐยอรมนี
วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ระหว่างเวลา ๑๑.๐๐ - ๑๕.๐๐ น.

ดร. Beate Bartodus (หัวหน้ากรมเอเชียและแปซิฟิก มูลนิธิ FES) กล่าวนำถึงการได้รับรายงานและการประเมินสถานการณ์ในประเทศไทยจาก FES กรุงเทพฯ ว่า กว่าร้อยละ 70 ของประชาชนทั่วไปเห็นด้วยกับการรัฐประหารเพื่อหยุดความขัดแย้งทางการเมือง กอปรกับพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องดังกล่าว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า บางครั้งการใช้กำลังทางทหารเป็นที่ยอมรับได้ หากเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

ศ. ดร. Derichs Claudia (มหาวิทยาลัย Hildesheim) - การอภิปรายจะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนผ่านทางการเมือง และสถานการณ์การเมืองไทยหลังการรัฐประหาร

1. อนาคตทางการเมือง
ดร. ไกรศักดิ์ฯ - อนาคตเกี่ยวกับพัฒนาการทางการเมืองไทยยังคงมีไม่แน่นอน ตนเชื่อว่าหากรัฐบาลอ่อนแอ ประชาชนจะเข็มแข็งขึ้น

ศ. ดร. Alfred Mols
(มหาวิทยาลัย Mainz) - ประเทศไทยยังขาดสถาบันทางประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง พรรคการเมืองและภาคประชาสังคมที่เข้มแข็ง อาจช่วยก่อให้เกิดประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง

ผศ. สุรัตน์ฯ - พรรคไทยรักไทยไม่สามารถเป็นสถาบันทางการเมืองได้ เพราะเป็นพรรคที่อยู่ภายใต้อดีตหัวหน้าพรรคโดยสิ้นเชิง ในขณะที่พรรคอื่นๆ เช่นประชาธิปัตย์มีศักยภาพในการเป็นสถาบันทางการเมือง

2. การทำรัฐประหาร
ผศ. สุรัตน์ฯ - จุดประสงค์ในการเยือนของคณะผู้ทรงคุณวุฒิคือ

1) ทำความเข้าใจในประเด็นที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเทศไทย อาทิ การใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร, การแก้ไข พรบ. ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว, และมาตรการอื่นๆ ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันดำเนินมา และ

2) อธิบายถึงความจำเป็นในการก่อรัฐประหาร

- การประณามประเทศไทยในการปกป้องธุรกิจของประเทศตนเอง และการให้บริการสาธารณสุขแก่ประชาชนของตน แสดงให้เห็นว่า มาตรฐานจริยธรรมของประชาคมระหว่างประเทศตกต่ำ และการเปรียบรัฐบาลไทยกับรัฐบาลทหารพม่านั้น เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่มีมูลความจริง เเละสะท้อนให้เห็นว่าผู้กล่าวหามีวาระซ่อนเร้น

- รัฐบาลทักษิณกระทำการยึดอำนาจทางการเมือง โดยรวบรวมพรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กเข้ากับพรรคไทยรักไทยโดยการใช้เงินซื้อ และในบางครั้งมีการข่มขู่ให้ ส.ส. เข้าร่วมพรรคไทยรักไทย ทำให้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น องค์กรอิสระถูกแทรกแซงโดยการควบคุมเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา อิสรภาพของสื่อถูกแทรกแซง

- มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นำไปสู่ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การประกาศนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด และการหายตัวของทนายสมชาย นีละไพจิตร

- มีการประกาศยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และให้ตนและพวกทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการเกินกว่า 90 วันตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ และมีการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่ให้ความร่วมมือด้วย (boycott) การที่ศาลสถิตยุติธรรม และศาลต่างๆ มีความเห็นว่าผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ และมีคำสั่งให้จำคุก กกต. ชุดที่ดำเนินการจัดการเลือกตั้งดังกล่าว เนื่องจากมีหลักฐานว่า มีการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินเป็นจำนวนกว่าหกล้านใบ

- (ในช่วงที่เกิดวิกฤตกับระบอบทักษิณ มีการเปิดเวทีที่สนามหลวงโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อขับไล่รัฐบาล) ในที่สุดรัฐบาลทักษิณมีการจัดตั้งกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลเพื่อให้ปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงขับไล่รัฐบาล

- สิ่งที่นโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังดำเนินการ ซึ่งไม่ได้มีการปฏิบัติในยุคทักษิณ คือ

1) การที่นายกรัฐมนตรีออกมาขอโทษประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในนามของรัฐบาล และ
2) การต่อสู้กับบริษัทข้ามชาติ โดยการประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร

ตนเห็นว่า บางครั้งการกระทำรัฐประหารไม่ได้เป็นการต่อต้านประชาธิปไตยแต่อย่างใด ตราบใดที่การกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนเเละสื่อมวลชน เเละยังคงรักษาไว้ซึ่งหลักนิติรัฐเเละหลักนิติธรรม

นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ - รัฐบาลทักษิณเป็นรัฐบาลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย รัฐบาลทักษิณให้สัญญาว่าจะช่วยผู้ยากไร้ แต่กลับหักหลัง โดยการใช้ลูกไม้ในการเอื้อประโยชน์ให้ประชาชนที่มีฐานะยากจนบ้างบางประการ แต่กลับเอื้อประโยชน์ให้ตนและพวกพ้องมากกว่า และยังใช้เงินซื้อผู้ยากไร้ในชนบทให้ชุมนุมสนับสนุนตน. โดยส่วนตัวแล้วตนไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร แต่ พ.ต.ท. ทักษิณฯ ก็มีการเตรียมการทำรัฐประหารเช่นกัน ตนเห็นว่าการรัฐประหารครั้งนี้ไม่มีการใช้อำนาจอย่างเด็ดขาด โดยมีการใช้หลักกฎหมายและหลักนิติธรรมในการดำเนินอรรถคดีต่างๆ จึงทำให้เกิดความล่าช้าไปบ้าง

การก่อรัฐประหารเป็นเพียงฟางเส้นสุดท้ายของกระบวนการขับไล่ทักษิณ ซึ่งมีที่มาจากความต้องการความเป็นธรรมทางสังคมของคนในชาติ การรวมตัวระหว่างผู้ยากไร้กับชนชั้นกลางในสังคมจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในยุคเปลี่ยนผ่านคือ การให้ความรู้แก่ประชาชน และต้องมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในระบอบประชาธิปไตย

ศ. ดร. Aurel Croissant (มหาวิทยาลัย Hildesheim) - การทำรัฐประหารในประเทศไทยเป็นการที่ทหารจะอยู่ในอำนาจชั่วคราว และให้รัฐบาลพลเรือนเข้ามาบริหารประเทศต่อไป จะทำอย่างไรไม่ให้มีการสืบทอดอำนาจ และไม่ให้มีทหารที่เข้ามาควบคุมรัฐบาลทางใดทางหนึ่ง โดยต้องควบคุมไม่ให้ทหารหลงในอำนาจ รัฐบาลต้องสามารถอออกคำสั่งแก่ทหารได้เช่นกัน

- บทเรียนจากการเปลี่ยนผ่านจากการยึดอำนาจของทหารไปสู่รัฐบาลพลเรือน คือการการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างช้าๆ และค่อยๆ มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานอำนาจระหว่างทหารและรัฐบาลพลเรือน การที่ประชาชนไทยบางคนสนับสนุนให้มีการทำรัฐประหาร เพื่อกำจัดทักษิณเป็นสิ่งที่อันตราย เนื่องจากเป็นการอนุญาตให้มีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นซ้ำอีก

- ตนไม่เชื่อว่าทักษิณจะเป็นผู้เดียวที่กระทำผิดอย่างร้ายแรงในรอบหกเดือนที่ผ่านมา และเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะนำพาประเทศไทยก้าวถอยหลังไปสู่ยุคก่อนปี 2535 ซึ่งประชาชนไม่มีสิทธิในการเลือก

ผศ. สุรัตน์ - รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ได้เป็นรัฐบาลทหาร เป็นเพียงแต่รัฐบาลที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาหลังการทำรัฐประหาร และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ใช่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยเสมอไป เช่น รัฐบาลไทยรักไทยที่มาจากการเลือกตั้ง เเต่มีความเป็นเผด็จการสูง เหตุผลในการยึดอำนาจคือ ไม่เคยปรากฏความแตกแยกในสังคมไทยเท่ายุครัฐบาลทักษิณมาก่อน

3. การร่างรัฐธรรมนูญ
ผศ. สุรัตน์ฯ - จุดประสงค์ของการร่างรัฐธรรมนูญคือ

1) ปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
2) ส่งเสริมให้มีศีลธรรมในการเมือง
3) ให้อำนาจองค์กรอิสระมากขึ้น และเป็นอิสระมากขึ้น

ดร. Gerhard Will (Stiftung Wissenschaft und Politik) - ตนขอตั้งข้อสังเกตต่อการเมืองในประเทศไทยในฐานะคนนอก ตนมีโอกาสเยือนไทยในระหว่างเดือน มี.ค. 2549 โดยในช่วงเวลาดังกล่าวความแตกแยกในสังคมไทยและความตึงเครียดรู้สึกได้อย่างชัดเจน มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่างผู้ที่สนับสนุนทักษิณ และผู้ที่ต่อต้านทักษิณอย่างชัดเจน และมีความกลัวว่าจะเกิดการเผชิญหน้า เมื่อตนรับทราบข่าวการรัฐประหารในระหว่างที่อยู่ ณ กรุงย่างกุ้ง รู้สึกคลายความกังวลลง เนื่องจากเป็นการป้องกันการปะทะกันและการนองเลือด และปัจจุบันชาวไทยมีโอกาสได้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี คตส. ยังไม่มีผลงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม และการร่างรัฐธรรมนูญดูเหมือนเป็นไปอย่างลับๆ โดยเป็นการร่างเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทหารและข้าราชการระดับสูง การประนีประนอมระหว่างผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีความเป็นได้ยาก

ศ. ดร. Aurel Croissant (มหาวิทยาลัย Hildesheim) - รัฐบาลทักษิณมิได้มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ แต่ปัญหาของประเทศไทยคือ ไม่มีการหาทางออกแก่ปัญหาทางการเมืองด้วยวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย โดยมีการใช้สถาบันทหารที่ไม่เป็นสถาบันประชาธิปไตย

ขอทราบว่าในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีการระบุให้มีมาตรา 4 และมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 หรือไม่อย่างไร (มาตรา 4 ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง. มาตรา 7 ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) และขอทราบว่าจะมีการกำหนดให้ผู้ที่ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือไม่

ศ.ดร. จรัส สสร.- แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ให้เกิดเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาลทักษิณ สสร. ต้องการให้มีระบบการถ่วงดุลระหว่างรัฐ และองค์กรอิสระ นอกจากนี้ยังมีระบบการใช้ตุลาการณ์วิวัฒน์ ในการตัดสินใจแก้ปัญหาทางการเมือง สนับสนุนสิทธิในการเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สำหรับเรื่องมาตรา 7 ยังคงไว้อย่างเดิมในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และมิได้กำหนดให้ส.ส. ต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของประชาชนจากการทำประชาพิจารณ์. ส่วนประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ในช่วงแรกของการร่างรัฐธรรมนูญอาจดูเสมือนว่าเป็นการร่างโดยไม่เปิดเผย (closed door) แต่หลังจากเสร็จสิ้นการร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก สสร. ได้เปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและภาคประชาสังคมมาอย่างต่อเนื่อง และรับฟังในรายละเอียดเกี่ยวกับทุกมาตรา

- ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังมุ่งให้อำนาจประชาชนเพิ่มมากขึ้น โดยบัญญัติแนวทางการมีส่วนร่วมโดยตรงของประชาชน และให้อำนาจประชาชนถอดถอนนายกรัฐมนตรี ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และข้าราชการตุลาการ

- จากประสบการณ์การเมืองในยุคทักษิณ ซึ่งเป็นการเมืองแบบรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียว เป็นสิ่งอันตราย และทำให้ สสร. ตระหนักว่าการมีรัฐบาลผสมควบคู่กับระบบการตรวจสอบที่ดีเป็นสิ่งจำเป็น

ศ. ดร. Heinz- Rudiger Korff (มหาวิทยาลัย Passau) - รัฐธรรมนูญจะอยู่รอดได้หากประชาชนให้โอกาสวิถีทางประชาธิปไตยภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญดำเนินไป อย่างไรก็ดี ในประเทศไทยไม่มีผู้ใดยืนหยัดปกป้องรัฐธรรมนูญ - ต้องยอมรับว่าอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณฯ เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ประชาชน เพราะเป็นผู้ที่สามารถเอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนได้มาก และเอื้อประโยชน์ให้แก่เกือบทุกภาคส่วน

4. ปัญหาด้านเศรษฐกิจ
ดร. Gerhard Will - ควรมีการเปลี่ยนโครงสร้างการกระจายอำนาจในประเทศไทย เนื่องจากกว่าร้อยละ 60 ของประชาชนชาวไทยประกอบอาชีพทางเกษตรกรรม แต่คนเหล่านี้มีสัดส่วนใน GDP เพียงแค่ร้อยละ10 เท่านั้น ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใดที่จะแก้ไขได้

ดร. ไกรศักดิ์ฯ - รัฐบาลทักษิณฯ เปิดตลาดเกษตรกรรมของไทยซึ่งยังไม่มีความเข้มแข็ง สู่ตลาดต่างประเทศ ในการทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ (FTA) ซึ่งทำให้สินค้าเกษตรมีราคาตกต่ำ และการผลิตสินค้าเกษตรลดลงกว่าร้อยละ 70 ในภาคเหนือ หากรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่มีมาตรการแก้ไขเรื่องดังกล่าว ประเทศไทยจะได้รับความเดือดร้อนในอนาคตอันใกล้

5. เสรีภาพสื่อ
อ. พิรงรอง - มาตรา 40 ซึ่งบัญญัติไว้เป็นมาตรา 47 ระบุว่า ให้มีการดำเนินการปฏิรูปสื่อ โดยการตั้งคลื่นความถี่ใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้สำเร็จในยุครัฐบาลทักษิณ เนื่องจากสมาชิกคณะกรรมการปฏิรูปสื่อให้การสนับสนุนบริษัท Shin Corp และ พ.ต.ท. ทักษิณฯ

- ปัจจัยที่ทำให้ทักษิณฯ เป็นที่ชื่นชอบคือ บุคลิกที่สามารถเป็นนักธุรกิจที่สามารถนำประเทศรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี ค.ศ. 1997 ได้ กอปรกับการที่มีการใช้การเบี่ยงเบนประเด็นเพื่อเป็นที่สนใจ เช่นการซื้อสโมสรฟุตบอลต่างๆ ทำให้สื่อลักษณะ tabloid เช่น ไทยรัฐ และเดลินิวส์ตีพิมพ์ และเป็นที่สนใจของประชาชน

- ภายใต้รัฐบาลทักษิณ สิทธิในการแสดงออกถูกละเมิดอย่างเป็นระบบ โดยรัฐบาลเลือกซื้อโฆษณาแก่หนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าวเป็นประโยชน์กับตนเองเท่านั้น. - สิ่งที่ประหลาดใจคือ ประเทศไทยกำลังจะมีการเปิดทีวีที่เป็นสื่อสาธารณะอย่างแท้จริง ภายใต้รัฐบาลและ คมช. ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมิได้มาจากการเลือกตั้งเเต่กลับมีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่ารัฐบาลทักษิณ เเละตระหนักถึงความสำคัญของสื่อในระบอบประชาธิปไตยมากกว่ารัฐบาลทักษิณ. สิ่งที่ตนอยากเห็นในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ได้แก่

1) การผลักดันการปฎิรูปสื่อ ให้มีการแบ่งสรรคลื่นการออกอากาศใหม่ โดยแบ่งเป็น
รัฐร้อยละ 40 ภาคเอกชนร้อยละ 40 และภาคประชาสังคมอีกร้อยละ 20
2) การให้สื่อควบคุมกันเองโดยเป็นทางการ
3) ออกกฎหมายคุ้มครองข่าวสารข้อมูล และ
4) ปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และระวังรักษาไม่ให้มีการมีผูกขาดทางสื่อ

6. การละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายสุรสีห์ฯ (กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) - ในช่วงสมัยรัฐบาลที่แล้ว องค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้ไทยอธิบายข้อกล่าวหาในการละเมิดสิทธิมนุษยชน (รวม 26 คดี) ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร โดยนายสุรสีห์ฯ ได้เน้นหนักว่า ปัญหาร้ายแรงที่สุดในประเด็นเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในยุคของทักษิณฯ คือ ปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย หรือปัญหาด้านหลักนิติธรรม (rule of law) อาทิ การฆ่าตัดตอน โดยการขึ้นบัญชีดำผู้ที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพย์ติด โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมและใช้เป็นเครื่องมือสนองนโยบายของรัฐบาล และการกำจัดหัวคะแนนของนักการเมือง

ฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้อำนาจของตำรวจ การใช้ พรก.บริหารราชการแผ่นดินในยามฉุกเฉินซึ่งทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม เนื่องจากเป็นนโยบายที่สนับสนุนความรุนแรง เหตุการณ์กรือเซะ และตากใบ การเปิดสวนสัตว์ไนท์ซาฟารีซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นการบุกรุกป่าสงวน ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้ออกแถลงการณ์ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในยุครัฐบาลทักษิณ ซึ่งเทียบเท่ากับการปกครองในรัฐบาลทหารในอดีต

อ. ไกรศักดิ์ฯ - ตนได้เคยเปิดบ้านเพื่อรับเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิ์ แต่ผู้คนที่มาร้องทุกข์กับตนได้รับการข่มขู่และถูกจดชื่อโดยตำรวจซึ่งมีอาวุธปืนอยู่ในมือ ตนได้ร้องขอให้นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเริ่มกระบวนการปฏิรูปวงการตำรวจ ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้. เราต้องการความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ ในการเปิดโปงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงรัฐบาลทักษิณ โดยตนต้องการแค่ให้รัฐบาลต่างชาติรับรู้ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และกำหนดนโยบายต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน

7. สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ดร. Gerhard Will - ให้ความเห็นว่า มีโอกาสเป็นไปได้น้อยในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้โดยสันติวิธี

ดร. ไกรศักดิ์ฯ - นโยบายในการใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ผู้ที่มีความคิดแบ่งแยกดินแดนอยู่บ้าง หันไปร่วมกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหัวรุนแรง อย่างไรก็ดี มีความพยายามในการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งไม่เคยมีการปฎิบัติในช่วงรัฐบาลทักษิณ แม้ว่ากลุ่มที่เรียกร้องการแบ่งแยกดินแดนแต่ละกลุ่มจะมีความต้องการที่ต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกกลุ่มมีเหมือนกัน คือการต้องการให้เกิดความเป็นธรรม

8 ความสัมพันธ์ไทย - ยุโรป และความสัมพันธ์ไทย - เยอรมนี
ศ. ดร. Manfred Mols (มหาวิทยาลัย Mainz) - ในความเห็นของตนประเทศไทยก่อนรัฐบาลทักษิณก็มิได้มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ คำถามคือทำอย่างไรให้การรัฐประหารครั้งล่าสุดเป็นครั้งสุดท้าย

- ไทยเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของเยอรมนี ทั้งในเวทีพหุภาคี อาทิ East Asian Community และอาเซียน

ผศ. สุรัตน์ฯ - ตนอยากให้สหภาพยุโรป และประเทศที่ประณามการก่อรัฐประหารในประเทศไทย หันมาให้ความสนใจกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในยุครัฐบาลทักษิณด้วย โดยตนเคยมีจดหมายถึงเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมดในประเทศไทย ขอให้มีแถลงการณ์ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทักษิณ อาทิ นโยบายการประกาศสงครามกับยาเสพย์ติด ซึ่งทำให้ผู้บริสุทธิ์จำนวนประมาณ 1,800 รายเสียชีวิต และขอให้ประเทศเหล่านี้มีมาตรฐานที่ชัดเจนในการเข้าไปลงทุนในประเทศที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน เเต่กลับไม่ได้รับความสนใจหรือการตอบสนองเเต่อย่างใด

ดังเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลอดกว่า 5 ปี ของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในยุคของรัฐบาลทักษิณ ที่มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 5,000 คน ทางสหภาพยุโรปไม่เคยมีการออกเเถลงการณ์เเสดงความกังวลห่วงใยในเรื่องนี้ ไม่มีการประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นอย่างร้ายเเรงในยุครัฐบาลทักษิณเเต่อย่างใด

นาย Hans-Gunter Loffler (เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหพันธ์รัฐเยอรมนี) - สหภาพยุโรปและเยอรมนีให้ความสนใจกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างสหพันธ์รัฐเยอรมนี กับ ประเทศไทย ขอยืนยันว่าตนได้บรรจุประเด็นดังกล่าวเพื่อให้มีการหยิบยกโดยฝ่ายสหพันธ์ฯ ในการเตรียมการการเยือนสหพันธ์ฯ โดยข้าราชการและข้าราชการการเมืองระดับสูงของไทย แต่ไม่เคยมีการเยือนเกิดขึ้น

(๔) สรุปสาระสำคัญผลการหารือระหว่างคณะผู้ทรงคุณวุฒิ กับ ดร. Jurgen Eckel
Head of International Section of the Confederation of German Trade Unions
ณ สหพันธ์เเรงงานกรุงเบอร์ลิน ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐ระหว่างเวลา ๑๐.๔๕ - ๑๒.๓๐ น.

ดร. Eckel สหพันธ์เเรงงาน (DGB) - ได้จัดทำบทวิเคราะห์เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลทักษิณ ที่ส่งผลให้มีการละเมิดสิทธิของผู้ใช้เเรงงาน และนำเสนอต่อที่ประชุมแรงงานระดับนานาชาติ

- นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ผู้นำเเรงงานรัฐวิสาหกิจของไทย ได้รับรางวัลจาก DGB ในด้านการส่งเสริมสิทธิของผู้ใช้เเรงงาน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า สหภาพเเรงงานไทยไม่มีการรวมตัวกัน

- เเม้ว่าประเทศไทยจะลงนามในสัญญาว่าด้วยสิทธิของผู้ใช้เเรงงานขององค์การเเรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization- ILO) เเต่ไม่มีการให้สัตยาบันเเก่กฎหมายระหว่างประเทศใดที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องสิทธิของผู้ใช้เเรงงาน

ดร. ไกรศักดิ์ฯ - รายงานดังกล่าวเเสดงให้เห็นว่า DGB ใส่ใจกับการปกป้องสิทธิของผู้ใช้เเรงงานอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ในประเทศไทย สถานภาพของสหภาพเเรงงานในประเทศไทยไม่ถูกกฎหมาย เเม้สหภาพเเรงงานที่ใหญ่ที่สุดยังเป็นการจัดตั้งโดยผิดกฎหมาย เเละการว่าจ้างเเรงงานนั้น เป็นการว่าจ้างเเบบชั่วคราว ทำให้ลูกจ้างไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องสิทธิอันพึงมีของตนได้ เเละเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกจ้างไม่กล้าจัดตั้งสหภาพเเรงงานเนื่องจากกลัวการบอกเลิกสัญญาจ้าง สถานภาพของสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างกว่า 800,000 รายที่มีการจดทะเบียนในประเทศไทยย่ำเเย่มาก (grave)

- นักสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยมีความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้เเรงงาน (forced labour) ในพม่า เนื่องจากการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองทางชายเเดนไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก เเละกลายเป็นเเรงงานเถื่อนซึ่งมีอัตราจ้างถูกกว่าลูกจ้างชาวไทย ทำให้ลูกจ้างชาวไทยไม่สามารถเเข่งขันได้ตามกลไกของตลาด. ตนเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีในการปฏิรูปการคุ้มครองสิทธิเเรงงานในประเทศไทยช่วงเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย

นายสุลักษณ์ฯ - เสนอให้ ดร. Eckel หยิบยกประเด็นด้านการปฏิรูปการคุ้มครองสิทธิเเรงงาน และการที่ประเทศไทย ควรให้สัตยาบันต่อกฎหมายระหว่างประเทศคุ้มครองสิทธิเเรงงาน ขึ้นหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในระหว่างการประชุม ASEM ที่จะมีขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ รวมทั้งขอให้ประเทศเยอรมนีในฐานะประธานสหภาพยุโรป พิจารณาเเสดงท่าทีออกมาอย่างเป็นทางการที่จะเป็นการสะท้อนให้ประชาคมระหว่างประเทศเห็นได้ว่า ประเทศเยอรมนีเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในไทย ภายหลังการเปลี่ยนเเปลงเมื่อวันที่ 19 กนยายน 2549 รวมทั้งสนับสนุนเเละมั่นใจในกระบวนการประชาธิปไตยที่ดำเนินอยู่ในไทยในปัจจุบัน

- ในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475 นายปรีดี พนมยงค์ มีเเผนการปฏิรูปเศรษฐกิจเเละสังคม โดยกำหนดให้นโยบายการปกป้องสิทธิของผู้ใช้เเรงงานเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก เเต่เนื่องจากการเปลี่ยนเเปลงทางการเมือง นโยบายดังกล่าวจึงไม่ได้รับการปฏิบัติ

ดร. Eckel - เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดี ตนเห็นว่าประเทศไทยควรเป็นผู้ริเริ่มการเปลี่ยนเเปลงด้านการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้เเรงงาน รวมถึงการให้สถานะทางกฎหมายเเก่สหภาพเเรงงานด้วยตนเอง เนื่องจากหลักการของสหภาพเเรงงานเป็นหลักการสากล และตนพร้อมที่จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารือในการประชุม ASEM เเละการประชุมอื่นๆ

- ในช่วงรัฐบาลทักษิณ DGB เคยมีจดหมายถึง พ.ต.ท. ทักษิณฯ เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนเเปลง ในด้านสิทธิของผู้ใช้เเรงงาน เเต่ไม่ได้รับการพิจารณาตอบสนองเเต่อย่างใด

ผศ. สุรัตน์ฯ - สหภาพเเรงงานไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อรวมตัวกันเรียกร้องสิทธิของผู้ใช้เเรงงานเท่านั้น เเต่เป็นการเรียกร้องเเละปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานอื่นๆ ด้วย. รัฐบาลทักษิณดำเนินนโยบายประชาธิปไตยเเบบประชานิยม เเต่ไม่ได้ช่วยเหลือคนยากจนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นเพียงความพยายามในการสร้างภาพเท่านั้น และตนเป็นผู้เรียกร้องให้บริษัท Tesco จ่ายค่าเเรงในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์

- รัฐบาลทักษิณใช้ธนาคารเพื่อการส่งออก (Exim Bank) ในการส่งเสริมธุรกิจของตน โดยให้พม่า กู้เงินจาก Exim Bank เพื่อลงทุนในธุรกิจสื่อสารกับบริษัท Shin Corp

- เราต้องการให้ DGB ตีพิมพ์หรือมีเเถลงการณ์เรียกร้องให้ประเทศไทยปฏิรูปการปกป้องสิทธิเเรงงานในทัศนะของ DGB

รอง ลธน. สุรพงษ์ฯ - ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่าประชาธิปไตยไม่ใช่เกี่ยวกับการมีการเลือกตั้งอย่างเดียว ประเทศเยอรมนีควรให้ความสนใจกับมิติอื่นๆ ของประชาธิปไตยด้วย นอกเหนือจากการเรียกร้องเเละเร่งรัดให้มีการจัดการเลือกตั้งอย่างเดียว ทั้งนี้ ย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัดเเจ้งทั่วไปอยู่เเล้วว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหาใช่ว่าจะเป็นสิ่งค้ำประกันว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้นจะมีความเป็นประชาธิปไตยโดยปริยาย ดังกรณีรัฐบาลยุคอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณฯ เป็นเหตุการยืนยันให้เห็นความจริงข้อนี้ เเละประเทศไทยยังต้องการการสนับสนุนเเละความเข้าใจจากมิตรประเทศทั้งหลาย

ศ.ดร. จรัสฯ - ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกันสิทธิของผู้ใช้เเรงงานในการรวมตัวเพื่อจัดตั้งสหภาพเเรงงาน เเละจะกำหนดให้ทีการให้สัตยาบันกับกฎหมายระหว่างประเทศที่คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคโดยอัตโนมัติ

(๕) สาระสำคัญผลการหารือระหว่างคณะผู้ทรงคุณวุฒิ กับนาย Hubertus Heil เลขาธิการพรรค SPD
ณ ที่ทำการพรรค SPD กรุงเบอร์ลิน ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ระหว่างเวลา ๑๒.๔๕ - ๑๓.๓๐ น.

นาย Heil - ตระหนักดีว่าประเทศไทยเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน เข้าใจดีว่าไม่มีเรื่องใดที่เป็นขาวเเละดำทั้งหมด เเละเข้าใจว่าทำไมจึงเกิดการรัฐประหาร พร้อมทั้งมีความมั่นใจว่าประเทศไทยจะกลับคืนสู่ประชาธิปไตย

นายสุลักษณ์ฯ - พรรค SPD ช่วยเหลือประเทศไทยในการพัฒนาสิทธิของผู้ใช้เเรงงาน ควรช่วยเหลือรัฐบาลปัจจุบันในการเปลี่ยนผ่านทางประชาธิปไตย เนื่องจากไม่ใช่เป็นสิ่งที่ง่าย เพราะ พ.ต.ท. ทักษิณฯ เคลื่อนไหวพยายามล้มล้างรัฐบาล

ผศ. สุรัตน์ - ในระหว่างที่ตนดำรงตำเเหน่งเป็นรองคณบดี ภาคยุโรปศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตนมีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตของสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เพื่อให้มีปฎิกิริยาตอบโต้นโยบายการประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาลทักษิณ ซึ่งก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายเเรง เเต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองเเต่อย่างใด

ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของที่ทำการสำนักงานองค์กรส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เเต่สิทธิมนุษยชนเเละองค์กรดังกล่าวกลับถูกกดขี่ในช่วงรัฐบาลทักษิณ. ทักษิณอ้างว่าได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วยคะเนนเสียง 16 ล้านเสียง เเต่มีการพิมพ์บัตรเลือกตั้งปลอม 6 ล้านใบ เเละคน 10 ล้านเสียงลงคะเเนนไม่เลือกผู้ใด (no vote) ในการเลือกตั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคเดียวที่ลงรับเลือกตั้ง

ตนตระหนักดีว่าจุดยืนในการเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งในประเทศไทย มิได้เป็นจุดยืนของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทุกประเทศ ควรมองว่าช่วงเวลาที่นำไปสู่การเลือกตั้งหลังการเกิดรัฐประหารเป็นช่วงเวลาในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เเละวางรากฐานที่ถูกต้องให้เเก่ประเทศ

นาย Heil - ตอบว่า ตนเข้าใจดีถึงรัฐบาลไทยที่รู้สึกว่า ต่างประเทศตัดสินเเละประเมินสถานการณ์ในประเทศไทยผิดไป และขอทราบความเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวที่ว่า ประชาชนที่ร่ำรวยในเขตเมืองจะไม่ลงคะเเนนให้ พ.ต.ท. ทักษิณฯ เเต่ผู้ที่มีฐานะยากจนในต่างจังหวัดเเละท้องถิ่นห่างไกลมักลงคะเเนนให้ พ.ต.ท. ทักษิณฯ

ผศ. สุรัตน์ - สมมุติฐานดังกล่าวมาจากหนังสือ "สองนคราประชาธิปไตย" ซึ่งเเต่งโดยนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เเละตีพิมพ์ในปี 2537 ซึ่งตนเห็นว่าสมมุติฐานในหนังสือฉบับดังกล่าวไม่จริงอีกต่อไป เนื่องจากประชาชนในปัจจุบันมีความรู้เท่าทันการเมืองมากขึ้น อาทิ ชาวจังหวัดภาคใต้ที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ เเละมีฐานะยากจน เเต่ลงคะเเนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ความนิยมที่ประชาชนมีต่อ พ.ต.ท. ทักษิณฯ หากเเต่เป็นการทำลายระบบการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ การเเทรกเเซงสื่อ การเเทรกเเซงองค์กรอิสระ เเละการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายเเรง ที่นำไปสู่การเดินขบวนประท้วงต่อต้าน พ.ต.ท. ทักษิณฯ

อ. สุลักษณ์ฯ - ต้องการให้เยอรมนีเเละสหภาพยุโรปส่งเสริมประชาธิปไตยเเละสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ด้วยการมองเหตุการณ์เเละปัญหาที่ไทยเผชิญอยู่จากมุมมองที่เป็นจริง ไม่ใช่จากการสมมุติขึ้นมาเอง เเละละเว้นการใช้ทวิมาตรฐาน (double standard) และต้องการให้มีการผลักดันให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) ไต่สวน พ.ต.ท. ทักษิณฯ

ผศ. สุรัตน์ - กฎหมายระหว่างประเทศเปิดมีช่องทางชัดเจนในการดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมกับ พ.ต.ท. ทักษิณฯ ในฐานการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายเเรง เช่นเดียวกับที่มีการไต่สวน นาย Slobodan Milosevic อดีตประธานาธิบดีเเห่งประเทศเซอร์เบีย

นาย Heil - เห็นด้วยกับการที่เยอรมนีเเละสหภาพยุโรปควรส่งเสริมประชาธิปไตยเเละสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ในช่วงเดือนหน้าประธานพรรค SPD จะมีโอกาสพบหารือกับเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน โดยตนอาจหารือกับพรรคให้มีการใช้โอกาสดังกล่าว หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามความเป็นจริง และเห็นว่าการจะมีประชาธิปไตยได้ ประเทศต้องมีความมั่นคง ในการนี้ขอทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้

อ. สุลักษณ์ฯ - เห็นว่าควรให้การเคารพความเเตกต่างทางด้านชาติพันธ์เเก่คนไทยภาคใต้ ซึ่งมีเชื้อสายมาเลย์เป็นสิ่งสำคัญ จำเป็นต้องมีการยอมรับการดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ภายใต้ความหลากหลายของชุมชนต่างเชื้อชาติศาสนา นโยบายของรัฐบาลทักษิณคือ การใช้ความรุนเเรง เเละการสังหารผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ ในขณะที่รัฐบาลปัจจุบันมีเเนวทางชัดเจนในการสร้างความสมานฉันท์

เอกราชทูต. สุรพงษ์ - ยุทธศาสตร์ทางการทูตเเละการเมืองระหว่างประเทศของ พ.ต.ท. ทักษิณฯ ที่ใช้โจมตีรัฐบาลปัจจุบันคือ การให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรปโดดเดี่ยวรัฐบาลโดยเเสดงว่ารัฐบาลที่มีจากการรัฐประหาร ไม่มีความชอบธรรม เเละ พ.ต.ท. ทักษิณฯ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง การที่รัฐบาลต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหภาพยุโรป โดดเดี่ยวรัฐบาลไทยโดยลดระดับการติดต่อทางการเมืองระหว่างรัฐบาล มีผลช่วยยุทธศาสตร์ดังกล่าวของ พ.ต.ท. ทักษิณฯ

ผศ. สุรัตน์ฯ - ต้องการเห็นมาตรฐานเชิงเปรียบเทียบ (benchmark) ทางประชาธิปไตยของสหภาพยุโรปที่ชัดเจน หากสหภาพยุโรปสามารถทำการค้ากับพม่าเเละจีนได้ ในความเห็นตน ก็ควรมีปฎิสัมพันธ์ในระดับสูงกับไทยได้

นาย Heil - ตนจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับสมาชิกพรรค SPD สหภาพเเรงงาน เเละสหภาพการค้าเเห่งสหภาพยุโรป ตนเพิ่งตระหนักในบัดนี้ว่า เยอรมนีมีความรับผิดชอบในการผลักดันกระบวนการประชาธิปไตยในไทย โดยตนจะหารือภายในพรรค SPD เพื่อหาทางผลักดันให้เยอรมนีปรับ/เปลี่ยนท่าทีให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งตนเห็นว่าการ รมว.กระทรวงต่างประเทศระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนเเละสหภาพยุโรป ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคมศกนี้ น่าจะเป็นเวทีที่สามารถใช้เป็นการเเสดงจุดยืนที่ถูกต้องของเยอรมนีได้เป็นอย่างดี



คลิกไปอ่านรายงานสรุปฉบับนี้ ตอนที่ ๓


บทความที่เกี่ยวเนื่อง ๖๓๑
ปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
26 คำถาม"ยูเอ็น" ปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยนชนในไทย

 

 

คลิกไปที่ กระดานข่าวธนาคารนโยบายประชาชน

นักศึกษา สมาชิก และผู้สนใจบทความมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ก่อนหน้านี้ สามารถคลิกไปอ่านได้โดยคลิกที่แบนเนอร์



สารบัญข้อมูล : ส่งมาจากองค์กรต่างๆ

ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา 1I สารบัญเนื้อหา 2 I
สารบัญเนื้อหา 3
I สารบัญเนื้อหา 4 I สารบัญเนื้อหา 5 I สารบัญเนื้อหา 6
ประวัติ ม.เที่ยงคืน

สารานุกรมลัทธิหลังสมัยใหม่และความรู้เกี่ยวเนื่อง

webboard(1) I webboard(2)

e-mail : midnightuniv(at)gmail.com

หากประสบปัญหาการส่ง e-mail ถึงมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจากเดิม
midnightuniv(at)yahoo.com

ให้ส่งไปที่ใหม่คือ
midnight2545(at)yahoo.com
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะได้รับจดหมายเหมือนเดิม

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกำลังจัดทำบทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ทั้งหมด กว่า 1200 เรื่อง หนากว่า 20000 หน้า
ในรูปของ CD-ROM เพื่อบริการให้กับสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านในราคา 150 บาท(รวมค่าส่ง)
(เริ่มปรับราคาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548)
เพื่อสะดวกสำหรับสมาชิกในการค้นคว้า
สนใจสั่งซื้อได้ที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ
midnight2545(at)yahoo.com

สมเกียรติ ตั้งนโม และคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(บรรณาธิการเว็บไซค์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
หากสมาชิก ผู้สนใจ และองค์กรใด ประสงค์จะสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชุมชน
และสังคมไทยสามารถให้การสนับสนุนได้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในนาม สมเกียรติ ตั้งนโม
หมายเลขบัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารกรุงไทยฯ สำนักงานถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หรือติดต่อมาที่ midnightuniv(at)yahoo.com หรือ midnight2545(at)yahoo.com