เว็ปไซค์ที่บอกไม่ได้ว่ามีคุณภาพหรือไม่
เพราะคุณต้องตัดสินใจเอาเองว่าจะใช้คำคุณศัพท์ที่เหมาะสมกับเว็ปนี้อย่างไร?
เว็ปไซค์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำความรู้ที่นำเสนอไปใช้ประโยชน์ทางวิชาการและสังคม
หากนำเอางานวิชาการไปใช้ กรุณาแจ้งให้ทราบที่
midnight2545(at)yahoo.com
หรือ midnightuniv(at)yahoo.com
แถลงข่าวกรณีความขัดแย้งการสร้างท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย
การเปิดการเจรจาอย่างสันติทั้งสองฝ่าย
เรียนพี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ
สืบเนื่องจากที่รัฐบาลอนุมัติให้บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(ปตท.) เข้าไปดำเนินการก่อสร้างท่อส่งก๊าซไทย-มาเลเซียที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ดำเนินการก่อสร้างและชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้าง จนต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากเข้าไปคุ้มกันการก่อสร้าง ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในพื้นที่เป็นอย่างมาก และเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงได้
ความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในทุกสังคม การใช้กำลังและอำนาจรัฐเข้าไปแก้ไขความขัดแย้ง แม้ว่าอาจทำให้ความขัดแย้งเฉพาะหน้าไม่บานปลาย แต่ก็เป็นผลให้เกิดการแบ่งแยกที่ลึกลงไปกว่านั้น อันไม่เป็นผลดีต่อส่วนรวมแต่อย่างใด
ทั้งสองฝ่ายของความขัดแย้งในกรณีนี้ ต่างก็อ้างว่ามีเหตุผลสนับสนุนการดำเนินงานของตน และต่างก็ใช้สื่อเพื่อโฆษณาจุดยืนของตนเอง ฝ่ายใดที่เข้าถึงสื่อได้มากกว่าก็มีโอกาสโฆษณาเผยแพร่ได้แพร่หลายกว่า
แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองฝ่ายไม่มีโอกาสนั่งลงเจรจากันอย่างสันติ ยกข้อมูลและเหตุผลของแต่ละฝ่ายขึ้นโต้แย้งกันอย่างเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชนไทย เพื่อที่ว่ารัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ตัดสินใจ ไม่ว่าจะตัดสินใจไปในทางหนึ่งทางใด ก็ต้องรับผิดชอบต่อความชอบธรรมของโครงการเบื้องหน้าสังคมไทยเอง
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ในฐานะตัวแทนของรัฐผู้ดูแลจัดสรรทรัพยากรของชาติอย่างเป็นธรรม ออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยจัดให้เกิดการพบปะระหว่างตัวแทนของปตท.ฝ่ายหนึ่ง กับ กลุ่มผู้คัดค้านอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อคลี่คลายปัญหาความขัดแย้ง ผ่านทางการชี้แจงพูดคุยกันอย่างสันติ ตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ของชาวบ้าน เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ทั้งนี้โดยเปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง เป็นสักขีพยานและทำความจริงให้ปรากฏผ่านสื่อ หรือถ่ายทอดสดผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเชื่อว่า การเปิดการเจรจาอย่างสันติ ด้วยข้อมูลและเหตุผล เป็นการแก้ไขความขัดแย้งที่สร้างสรรค์ อันเหมาะกับกระบวนการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
ดังนั้นจึงใคร่เรียกร้องพี่น้องประชาชนชาวไทย ให้ร่วมกันกดดันให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตอบสนองข้อเรียกร้องนี้ เพราะเราประชาชนชาวไทยเท่านั้น ที่จะร่วมกันประคับประคองให้ระบอบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมดำรงคงอยู่ในระดับที่ลึกกว่ารูปแบบได้ต่อไป เพื่อที่ว่าสังคมไทยจะสามารถเผชิญความขัดแย้ง ซึ่งต้องเกิดมากขึ้นเป็นธรรมดาได้อย่างสงบสุขสืบไป
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
๒๖ กรกฎาคม ๒๕๔๖
ขอประนามการกระทำแบบเผด็จการของรัฐบาลทักษิณ
รัฐบาลต้องยุติโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซียโดยด่วน
สืบเนื่องมาจากขณะนี้ได้มีกองกำลังตำรวจประมาณ 400 คน ได้เข้าไปพื้นที่ก่อสร้างโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย เพื่อทำการสลายการชุมนุมด้วยสันติวิธีของเครือข่ายประชาชนคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซ โรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซียฯ โดยอ้างว่าเพื่อเข้าไปคุ้มครองการดำเนินโครงการของบริษัทผู้ดำเนินโครงการฯนี้
เราในนามสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.)และองค์กรประชาชนภาคเหนือดังรายนามข้างล่าง มีความคิดเห็นและข้อเรียกร้องดังนี้ คือ
1.รัฐบาลได้สร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างภาพให้ประชาชนผู้คัดค้านเป็นพวกใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด เพื่อจะเป็นเหตุผลความชอบธรรมต่อการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมอย่างสันติวิธีของประชาชนผู้คัดค้าน เราขอประนามการกระทำของรัฐบาลในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการกระทำที่จงใจข่มขู่คุกคามสิทธิการชุมนุมของประชาชน ผู้คัดค้านที่กฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติรับรองไว้
2.รัฐบาลควรยุติโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนักวิชาการนับพันคนทั่วประเทศที่ได้ลงชื่อให้รัฐบาลทบทวนโครงการนี้ เนื่องจากว่ารัฐบาลไม่ยอมรับการมีส่วนร่วมของประชาชนและเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วย เช่น การทำประชาพิจารณ์แบบไม่โปร่งใส การไม่สนใจถึงผลกระทบที่คณะกรรมการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเสนอ ที่สำคัญประเทศไทยต้องเสียเปรียบประเทศมาเลเซียและโครงการนี้ไม่คุ้มทุน เสียมากกว่าได้ เป็นต้น
3.หากรัฐบาลยังไม่ฟังเสียงของประชาชนดื้อรั้นที่จะดำเนินโครงการฯนี้ต่อไป ก็เท่ากับว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะรับใช้นายทุนทั้งต่างชาติและนายทุนไทยผู้ได้รับผลประโยชน์ส่วนตนจากโครงการฯนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการกอบโกยทรัพยากรธรรมชาติของประเทศชาติ และเป็นไม่เคารพสิทธิตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของการกระทำเยี่ยงของการปกครองแบบเผด็จการ อำนาจนิยมของรัฐบาลทักษิณมากกว่าการสร้างสรรค์ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ด้วยความเชื่อมั่นพลังประชาชน
สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.)
เครือข่ายป่าชุมชนภาคเหนือ(คปช.)
แนวร่วมกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ(นกน.)
เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ(คกน.)
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ 75 องค์กร
เรียกร้องการปลดปล่อย ออง ซาน ซู จี
ความเป็นมา
วันที่ 30 พฤษภาคม 2546 รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าได้วางแผนเป็นอย่างด ีและจัดให้มีการซุ่มโจมตีนักการเมืองและนักกิจกรรมฝ่ายค้านที่เรียกร้องประชาธิปไตยของพม่าประมาณ
70 คน พวกเขาถูกตีอย่างโหดร้ายด้วยไม้ไผ่แหลมจนตาย และบางคนหายตัวไปโดยไร้ร่องรอย
นางออง ซาน ซู จี ผู้นำฝ่ายค้านหัวหน้าพรรคสันนิบาตชาติ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะที่ศรีษะ และถูกลักพาตัวไปขังไว้ในคุกของทหารพม่า ส่วนรองหัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติ นายอู ทิน อู ซึ่งอายุกว่า 70 ปีได้หายตัวไปเช่นกัน และไม่มีข่าวคราวว่าเขาอยู่ที่ไหน หรือปลอดภัยหรือไม่ ุ สมาชิกฝ่ายเยาวชนส่วนใหญ่ของพรรคสันนิบาติชาติประมาณ 20 คน หลายฝ่ายเชื่อว่าพวกเขาถูกจับไปขังไว้ในคุกที่เลื่องชื่อในความโหดร้ายของพม่าชื่อ "คุกอินเส่ง"
ผู้แทนพิเศษขององค์การสหประชาชาติในกิจการของประเทศพม่า
นายราซาลี อิสเมล ได้เดินทางถึงพม่าเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเขาได้รับมอบหมายจากองค์การสหประชาชาติในการเข้าพบนาง
ออง ซาน ซู จี และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอ แต่จนถึงวันนี้รัฐบาลเผด็จการทหารพม่ายังไม่อนุญาตให้เขาเข้าพบกับนาง
ออง ซาน ซู จี เท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาของรัฐบาลพม่า ในการหมิ่นประมาทและไม่ใส่ใจต่อองค์การสหประชาชาติ
ซึ่งแสดงออกโดยหัวหน้าของรัฐบาลพม่า นายพล ตันฉ่วย ได้เดินทางออกจากกรุงย่างกุ้งเพื่อไปพักผ่อน
มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั้งหมดในพม่าถูกปิดลงโดยไม่มีกำหนด
ผู้นำทางการเมืองของพม่าที่ได้รับการเลือกตั้งและถูกกักบริเวณในบ้านของตนเอง
นางออง ซาน ซู จีและพรรคสันนิบาตแห่งชาติชนะการเลืกตั้งอย่างท่วมท้นจากประชาชนชาวพม่า
ตั้งแต่ พ.ศ. 2533 แต่รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าปฏิวัติในผลการเลือกตั้งดังกล่าว
และยังคงเดินหน้าปกครองประเทศอย่างผิดกฎหมายด้วยระบอบเผด็จการทหาร
พ.ศ.2534 นางออง ซาน ซู จี ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในฐานะที่เธอต่อสู้และเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าด้วยวิธีการสันติวิถี ปราศจากความรุนแรง
ออง ซาน ซู จี ถูกกักในบริเวณบ้านของเธอจนถึง พ.ศ.2539 ระหว่างที่เธอถูกกักตัวในบริเวณบ้านพักนั้น เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนเลย แต่ทุกๆวันอาทิตย์จะมีกลุ่มประชาชนที่มารอพบเธอข้างๆกำแพงบ้าน และออง ซาน ซู จีจะออกมาพูดกับประชาชนจากหลังกำแพงในบ้านเธอ
ใน พ.ศ.2539 ออง ซาน ซู จีได้รับการปล่อยตัว เธอพยายามที่จะออกเดินทางไปปราศรัยกับประชาชนที่ให้การสนับสนุนเธอ แต่ละครั้งที่ออง ซาน ซู จี เดินทางออกจากเมืองหลวงคือเมืองย่างกุ้ง ทหารจะหยุดรถของเธอและไม่อนุญาตให้เธอไปถึงจุดหมายได้
พ.ศ. 2543 ออง ซาน ซู จี ถูกกักบริเวณภายในบ้านของเธออีกครั้งเป็นเวลา 19 เดือน
ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2544 การเจาจรลับระหว่างออง ซาน ซู จี กับผู้นำเผด็จการทหารพม่าเริ่มขึ้น ก่อให้เกิดความหวังว่าการเจรจาพูดคุยในครั้งนี้ว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการปรองดองแห่งชาติ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างการสนทนาระหว่างรัฐบาลเผด็จการ พรรคสันนิบาตแห่งชาติและชนกลุ่มน้อยต่างๆ
อิสรภาพระยะสั้น
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2545 ออง ซาน ซู จีได้รับการปล่อยจากการกักบริเวณในบ้านพัก
และประกาศว่าช่วงเวลาแห่งการสร้างความไว้ใจได้หมดลงแล้ว ขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้คือ
การก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดการเจรจา แต่หลังจากที่เธอได้รับการปล่อยตัว รัฐบาลพม่าไม่ได้เชิญเธอกลับไปทำการเจรจา
อย่างไรก็ตามเธอมีอิสรภาพมากขึ้นในการเคลื่อนไหว ออง ซาน ซู จีเริ่มที่จะเดินทางไปทั่วประเทศพม่าทันที
เพื่อเยี่ยมเยือนพบปะประชาชนและเปิดที่ทำการสาขาพรรคสันนิบาตชาติของเธอ
ในทุกที่ที่เธอเดินทางไปประชาชนจำนวนมากจะเฝ้ารอ ระหว่างทางที่เธอเดินทางไปมากครั้งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อฟังคำปราศรัยและให้การสนับสนุน ออง ซาน ซู จีและพรรคของเธอ
ช่วงเวลาหนึ่ง เธอ ได้รับอนุญาตให้เดินทางและปราศรัยโดยอิสระ แต่แรงสนับสนุนออง ซาน ซู จีที่มากขึ้นนั้น ทำให้รัฐบาลเผด็จการทหารพม่ากลัวว่าจะมีประชาชนจำนวนมากขึ้นที่สนับสนุนเธอ และจะลุกขึ้นมาต่อต้านระะบอบการปกครองแบบเผด็จการที่เป็นอยู่ หกเดือนต่อมา รัฐบาลพม่าเริ่มที่จะทำให้การเดินทางเธอลำบากขึ้น ในเดือนธันวาคม พนักงานดับเพลิงของรัฐใช้รถดับเพลิงในการสลายฝูงชนจำวนมากที่มารอและให้การต้อนรับออง ซาน ซู จี แต่นางออง ซาน ซู จีได้ปีนขึ้นไปบนรถดับเพลิงนั้น และปราศัยต่อกับประชาชนที่ให้การสนับสนุนเธอ อย่างไรก็ตาม การคุกคามจากฝ่ายรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไป และส่อเค้าว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นการกลับมาของการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคม 2546 ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงเพื่อตอบโต้ ออง ซาน ซู จีที่พึ่งเกิดขึ้น ก่อนหน้านั้นรัฐบาลพม่าได้จัดส่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและปล่อยนักโทษคดีอุกฉกรรจ์จากคุก เพื่อให้ออกไปทำร้ายและฆ่าผู้สนับสนุนพรรคสันนิบาตชาติของ ออง ซาน ซู จี
แผนการการปราบปรามอย่างรุนแรงและการวางแผนฆ่านักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ในพื้นที่ทางตอนเหนือของพม่าที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศพม่าเข้าสู่สถานการณ์วิกฤตมากขึ้น ความหวังในกระบวนการสันติภาพเพื่อการเปลี่ยนแปลงและกระบวนการในการสร้างการเจรจาได้ถูกทำให้พังทลายไป ด้วยการกระทำที่ผิดกฎหมายและไร้ซึ่งความรับผิดชอบของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า
ไม่มีใครรู้ว่าขณะนี้นางออง ซาน ซู จีและสมาชิกพรรคสันนิบาตชาติถูกกักตัวอยู่ที่ไหน รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าออกมาบอกว่า " เป็นการกักขัง เพื่อการปกป้อง" แต่การปกป้องโดยไร้เหตุผลและป่าเถื่อนดังกล่าวจากรัฐบาลพม่า ไม่ได้ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าออง ซาน ซู จีจะปลอดภัยและได้รับอิสรภาพ ในประเทศพม่าขณะนี้ประชาชนถูกตัดขาดจากการสื่อสารต่างๆ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยถูกปิด
สิ่งที่คุณทำได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ทั่วโลกประณามพฤติกรรมอันผิดกฎหมายดังกล่าวของรัฐบาลพม่า
แต่กลุ่มประเทศASEAN ยังคงไม่มีการแสดงท่าทีใดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ในฐานะที่เราเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
เราประชาชนชาวเชียงใหม่ สามารถที่จะเขียนไปรษณีย์บัตร ส่งถึงนายกรัฐมนตรี ทักษิณ
ชินวัตร แสดงความห่วงใยและเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีของเรากระทำดังนี้
- เรียกร้องให้รัฐบาลพม่าปล่อยตัวนาง ออง ซาน ซู จีและสมาชิกพรรคสันนิบาตชาติทันที
- กระตุ้นให้รัฐบาลพม่าเริ่มต้นกระบวนการปรองดองแห่งชาติพม่าใหม่
- ยุติการจ่ายเงินจำนวน 36 ล้านบาทต่อปีเพื่อซื้อก๊าชธรรมชาติจากรัฐบาลที่มีเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม ุ หยุดทำธุรกิจหรือลงทุนในประเทศพม่า
ุ - โทรไปที่สถานีวิทยุขอเพลงของวงคาราบาว ชื่อเพลง "ออง ซาน ซู"และเพลง" Walk on " ของวง U2 ที่แต่งให้นางออง ซาน ซู จี
- กรุณาเขียนไปรษณีย์บัตรทันทีและส่งไปถึง นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ทำเนียบรัฐบาล
- หากคุณเป็นชาวต่างประเทศ กรุณาเขียนจดหมาย ส่งอีเมล์ โทรสาร โทรศัพท์ ไปที่ สถานทูตของคุณโดยทันที
วันที่ 19 มิถุนายน วันคล้ายวันเกิดปีที่ 58 ของ นางออง ซาน ซู จี ขอเชิญคุณ ครอบครัวและเพื่อนๆของคุณร่วมกิจกรรมจุดเทียนภาวนาที่ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ เวลา 20.00 น เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยสันติวิถี และสนับสนุนนางออง ซาน ซู จี
ปลดปล่อยพม่า, ปลดปล่อย ออง ซาน ซู จี วันที่ 19 มิถุนายน 2546 ร่วมกิจกรรมจุดเทียนภาวนา ณ ประตูท่าแพ 20.00 น เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดออง ซาน ซู จี เพื่อเรียกร้องอิสรภาพของ ออง ซาน ซู จีและอิสรภาพทางการเมืองของพม่า
ขอบคุณแรงสนับสนุนจากทุกท่าน พวกเราจะเตรียมเทียนไว้สำหรับทุกท่าน
(อ่านเพิ่มเติม
คลิกที่นี่)
สรุปรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
กรณี ความรุนแรงอันเนื่องมาจากโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย
ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โดย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
วันที่ 11 มิถุนายน 2546
ตามที่ได้มีเหตุการณ์ความรุนแรง สืบเนื่องจากการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย -มาเลเซีย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2545 ระหว่างที่มีการเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลมาเลเซีย ณ โรงแรมเจบี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลานั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและตรวจสอบกรณีเหตุการณ์รุนแรงอันเนื่องมาจากโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซียขึ้น คณะอนุกรรมการได้พิจารณาศึกษาและตรวจสอบ พร้อมได้ข้อยุติ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีมติให้ความเห็นชอบในรายงานผลการตรวจสอบแล้ว จึงขอแถลงมาให้ทราบโดยทั่วกัน ดังนี้
ความเป็นมา
รัฐบาลชุดก่อนได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซียไปโดยมิได้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม
และมิได้มีการจัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในสองกระบวนการดังกล่าว
ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ในการนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงได้ทำการศึกษากรณีเรื่องนี้อย่างรอบด้าน
พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนและสั่งการแก้ไขคลี่คลายปัญหาเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวถึงสองครั้ง
แต่ก็มิได้รับการพิจารณาและชี้แจงถึงเหตุผลในการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไปแต่อย่างใด
ดังนั้นเมื่อรัฐบาลได้มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรดังกล่าว กลุ่มผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ซึ่งได้รวมตัวชุมนุมอย่างต่อเนื่องตลอดมา ณ บริเวณลานหอยเสียบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จึงได้รวมตัวกันเพื่อมายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนโครงการนี้อีกครั้ง ณ บริเวณโรงแรมเจบี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ในการเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ได้มีการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุมคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซียดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมา เมื่อครั้งที่รัฐบาลลงไปฟังข้อเท็จจริงจากผู้ชุมนุมคัดค้านดังกล่าว ณ บริเวณลานหอยเสียบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ก็โดยการประสานงานของนายวัชรพันธุ์ จันทรขจร ในฐานะกรรมการอำนวยการประสานงานและติดตามผลการปฏิบัติราชการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ในการประสานงานครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน นายวัชรพันธุ์ จันทรขจร ก็ได้ทำหน้าที่ประสานงานอีกครั้งหนึ่งดังเช่นที่เคยปฏิบัติมา หากแต่กลับไม่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาล เนื่องจากมิได้มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เป็นเหตุให้ประเด็นการเจรจาเรื่องสถานที่ชุมนุมระหว่างผู้ชุมนุมที่ต้องการไปชุมนุมบริเวณสวนหย่อมริมคลองห่างจากโรงแรมเจบีประมาณ 150 เมตร กับฝ่ายรัฐบาลที่ต้องการให้ชุมนุมบริเวณธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาถนนเพชรเกษม จึงไม่อาจเป็นที่ตกลงกันแน่ชัด
ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ปรากฏว่าได้มีการมอบหมายจากรัฐบาลให้บุคคลผู้อื่นใดเข้ามารับผิดชอบประสานงานตามที่ฝ่ายชุมนุมคาดหวัง สถานการณ์ที่เริ่มต้นจากการชุมนุมเรียกร้องโดยสันติ จึงกลายเป็นการเผชิญหน้าโดยไม่จำเป็น
สรุปข้อเท็จจริงก่อน
ขณะเกิด และหลังความรุนแรง
ในระหว่างการเดินทางของผู้ชุมนุมฯ
จากบริเวณลานกีฬาโคกสัก อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มายังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัดขบวนรถยนต์ของผู้ชุมนุมฯ ที่อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา
ทำให้ขบวนผู้ชุมนุมต้องหยุดอยู่ประมาณ ๒ ชั่วโมง แต่ก็ตกลงกันได้ในที่สุด และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำขบวนรถยนต์ผู้ชุมนุมเดินทางมายังอำเภอหาดใหญ่
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. โดยมิได้นำไปยังเส้นทางเดิมที่ตกลงกันไว้ระหว่างผู้ชุมนุมกับนายวัชรพันธุ์
จันทรขจร แต่ได้นำมาจนถึงบริเวณใกล้แยกวงเวียนน้ำพุ ซึ่งรถตำรวจนำขบวนได้หลบไป
ส่วนผู้ชุมนุมต้องหยุดอยู่บนถนนจุติบุญสูงอนุสรณ์ (ใกล้วงเวียนน้ำพุ) โดยไม่สามารถเคลื่อนขบวนต่อไปได้เพราะมีแนวรั้วเหล็กและเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เป็นจำนวนมากหลังแผงรั้วเหล็กดังกล่าว
ขบวนผู้ชุมนุมจึงหยุดพักรับประทานอาหาร และผู้ชุมนุมที่เป็นชาวมุสลิมได้ทำละหมาด ทั้งนี้เพื่อรอฟังผลการเจรจาระหว่างนายวัชรพันธุ์ จันทรขจร กับฝ่ายรัฐบาลในกรณีของสถานที่ชุมนุม ในระหว่างที่รอฟังผลการเจรจาอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งขบวนบริเวณหน้าแผงเหล็กกั้น แล้วให้สัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้โล่ห์และกระบองเป็นเครื่องมือในการสลายการชุมนุมดังกล่าว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ปฏิบัติงานขององค์กรพัฒนาเอกชนไปจำนวน 12 คน โดยนำไปคุมขังไว้มิให้พบทนายความ และปรึกษา พร้อมร่วมฟังการสอบสวน อีกทั้งมิได้แจ้งสถานที่คุมขังให้ญาติทราบ และไม่ยอมให้ญาติเยี่ยมแต่อย่างใด ในภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาและฟ้องเป็นคดีอาญาหลายข้อหากับผู้ถูกจับกุมทั้ง 12 คน โดยอ้างว่าร่วมกับพวกรวม 35 คน ต่อศาลจังหวัดสงขลา
ดังนั้นจากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น คณะอนุกรรมการฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงมีความเห็น ดังนี้
ก. การที่รัฐบาลไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ในการจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์อย่างสมดุลและยั่งยืนจากโครงการที่มีผลกระทบต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 46, มาตรา 56, มาตรา 58, มาตรา 59, มาตรา 60, มาตรา 76 และมาตรา 79
ข. การที่รัฐบาลใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ในขณะที่ผู้ชุมนุมใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยปราศจากหลักฐานและเหตุผลรองรับว่าผู้ชุมนุมได้ใช้หรือจะใช้กำลังบุกฝ่าแนวกั้นของตำรวจแต่อย่างใดนั้น เป็นการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมเกินกว่าความจำเป็น จึงเป็นเหตุทำให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 31, มาตรา 44 และมาตรา 48
ค. กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและรายละเอียดแห่งการจับ ห้ามผู้ถูกจับกุมมิให้พบและปรึกษาทนายความ รวมทั้งไม่ได้แจ้งให้ญาติผู้ต้องหาทราบในโอกาสแรก และมิให้ญาติเยี่ยมผู้ต้องหา และไม่อนุญาตให้ทนายความร่วมฟังการสอบปากคำผู้ต้องหานั้น ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ถูกจับกุมหรือผู้ต้องหา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 237, มาตรา 239 และมาตรา 241
มาตรการแก้ไขปัญหา
1. เพื่อเป็นการคลี่คลายความเสียหายเฉพาะหน้าให้แก่ผู้ชุมนุม อันเป็นผลจากการละเมิดสิทธิของกลุ่มผู้ชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ขอให้เยียวยาความเสียหาย โดยการชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สิน ตลอดจนยุติการดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุม ภายใน 30 วัน
2. เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้เกิดเหตุการณ์อันก่อให้เกิดความรุนแรงและล่วงละเมิดสิทธิ และเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เฉกเช่นกรณีนี้ขึ้นอีกในอนาคต คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อประกอบเป็นแนวทางที่พึงปฏิบัติโดยชอบต่อประชาชนผู้ใช้สิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ และในการนี้ ชอบที่ได้มีการกำหนดบทบาทความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับสั่งการ และระดับปฏิบัติการ ในการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ว่านี้ อนึ่งในการสอบสวนหากปรากฏผู้กระทำผิด ก็ชอบที่จะมีการแสดงความรับผิดชอบ และลงโทษตามควรแก่กรณี
ในการทำหน้าที่ตรวจสอบกรณีเหตุการณ์รุนแรงดังกล่าวนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความตระหนักเป็นอย่างดี ในความสำคัญของภาระหน้าที่ความรับผิดชอบในการบริหารประเทศและดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านเมืองของรัฐบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกระดับ แต่ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็ปรารถนาที่จะได้เห็นการปฏิบัติของรัฐบาลและ เจ้าหน้าที่รัฐต่อประชาชนคนไทยเป็นไปอย่างถูกต้อง ชอบธรรม สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญของประเทศ เพื่อความสมัครสมานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชนในชาติสืบไป.
บทความใหม่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ๒๕๔๖
บทความใหม่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
๑
อิรักในอุ้งเล็บอินทรีอเมริกัน
โดยคณะเศรษฐศาสตร์
และคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ร่วมกับสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บทความใหม่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
๒
ฐานคิดความยุติธรรมตะวันตก(กรีก-คริสเตียน)
เรียบเรียงโดย สมเกียรติ ตั้งนโม
บทความใหม่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
๓
กฎหมายกับการเบียดบังคนจน
ไพสิฐ พาณิชย์กุล : สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บทความใหม่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
๔
ไทยกับ
WTO กับทางออกที่ดีที่สุด
พอล เลอมัง - สมาชิกทางไกลมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
- เจนีวา
บทความใหม่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
๕
Semiology
สัญญศาสตร์-การศึกษาเรื่องเครื่องหมาย
โดย สมเกียรติ ตั้งนโม
คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บทความใหม่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
๖
ข่าวเด่นที่ไม่เป็นข่าว
25 อันดับ ประจำปี 2544-2545
โดย : ภัควดี
นำมาจากกระดานข่าวขนาดยาวของ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน