มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
กลางวันเรามองเห็นอะไรได้ชัดเจน
แต่กลางคืนเราต้องอาศัยจินตนาการ
Website ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
สร้างขึ้นมาเพื่อผู้สนใจในการศึกษา
โดยไม่จำกัดคุณวุฒิ
สนใจสมัครเป็นสมาชิก
กรุณาคลิกที่ปุ่ม member page
ส่วนผู้ที่ต้องการดูหัวข้อบทความ
ทั้งหมด ที่มีบริการอยู่ขณะนี้
กรุณาคลิกที่ปุ่ม contents page
และผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็น
หรือประกาศข่าว
กรุณาคลิกที่ปุ่ม webboard
หากต้องการติดต่อกับ
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ส่ง mail ตามที่อยู่ข้างล่างนี้
(midnightuniv(at)yahoo.com)
ศัพท์คำว่า อุตสาหกรรมวัฒนธรรม(culture industry) ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในหนังสือชื่อ Dialectic of Enlightenment, ซึ่ง Horkheimer และ Adorno ได้พิมพ์ขึ้นในอัมสเตอร์ดัม ในปี 1947. ในฉบับร่างของพวกเขา เขาได้พูดคุยถึงเรื่องเกี่ยวกับ"วัฒนธรรมมวลชน"(mass culture) และพวกเขาแทนคำ"วัฒนธรรมมวลชน"นี้ด้วยคำว่า "อุตสาหกรรมวัฒนธรรม" ทั้งนี้เพื่อที่จะแยกมันออกมาจากบรรดาผู้ที่เห็นด้วย หรือสนับสนุนเรื่องของ"วัฒนธรรมมวลชน"นั่นเอง:
ดังนั้น ความหมายของสองคำนี้
จึงแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว
ใน"อุตสาหกรรมวัฒนธรรม"ผู้บริโภคไม่ใช่ราชา ดังที่พวกนั้นจะทำให้เราเชื่อ
มวลชนไม่ใช่ตัวประธานอีกต่อไป แต่เป็นตัวกรรมของมัน
อาจารย์มารค
ตามไท ได้พูดถึง รากฐานเกี่ยวกับความจริง 4 ประเภท ที่ผู้คนยึดถือ
และนักคิดหลังสมัยใหม่ มองความจริงอย่างไร ?
สาระสำคัญในที่นี้ก็คือ
การนำเสนอเรื่องดังกล่าว
เป็นการนำเสนอในที่ประชุมของนักสังคมวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มช.
ซึ่ง อาจารย์อานันท์ กาญจนพันธุ์ และ อาจารย์ไชยันต์ รัชชกูล ร่วมสนทนาด้วย
บันทึกเทปโดย"โครงการสนทนาปัญหาศิลปะ
ปรัชญา และวิทยาาสตร์ "
คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - มอบให้มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
เพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับการศึกษาไทย
ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา
e-mail : midnightuniv(at)yahoo.com
1. GMO สำหรับอาหารมื้อเย็นนี้
(บทความแปล)
2. วิธีคิด
(รายการสนทนามหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
3. ความเป็นเพศ
[gender] วารุณี ภูริสินสิทธิ์
4. โฮโมเซ็กซ์ชวลลิทีในมุมมองจิตวิทยา
(บทความแปล)
5. บทสนทนาเรื่องเพศกับศิลปะ
(กามารมณ์ 101)
6. เศรษฐศาสตร์ชาวบ้าน(ธนาคารบ้านนอก-ระบบการเงิน
ทางเลือก
(ครูชบ ยอดแก้ว - มหาวิทยาลัยชาวบ้าน)
7. พื้นฐานทางเศรษฐกิจของความสุข
(รายการสนทนา มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน / ความสุข 101)
8. ท่าทีต่อชีวิตและความตาย
(รายการสนทนา มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ความสุข 101)
9. การดื้อแพ่งต่อกฎหมายของประชาชน
(สมชาย ปรีชาศิลปกุล / สาขานิติศาสตร์ มช. / ม.เที่ยงคืน)
10. ทุนบ้านนอก
(รายการโทรทัศน์ ม.เที่ยงคืน ทีทรรศน์ท้องถิ่น / ถอดเทป)
11. คณิตศาสตร์ปากมูล:
เกษียร เตชะพีระ
12. เขื่อนไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล
ชัชวาล ปุญปัน
13. ธุรกิจการเมือง
(รายการโทรทัศน์ ม.เที่ยงคืน ทีทรรศน์ท้องถิ่น / ถอดเทป)
14. ความขัดแย้งในปัญหาทรัพยากรและหนทางแก้ไข
เก็บมาจากการอภิปรายของ นิธิ เอียวศรีวงศ์
15. ทฤษฎี
3 อำนาจ เก็บมาจากการอภิปรายของ ประเวศ วะสี
16. นโยบายเพื่อคนจน
ประเวศ วะสี
17. วัฒนธรรมฮาเฮ
(รายการสนทนาวันเปิดบ้าน มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
18. ความรู้ช้า(slow knowledge)
(บทความแปลของ ม. เที่ยงคืน / สมเกียรติ ตั้งนโม)
19. ภาษาของธรรมชาติ
(language of nature) (บทความแปลของ ม.เที่ยงคืน)
20. ไซเบอร์สเพสและธรรมชาติของมนุษย์
(cyberspace and human nature) (บทความแปล ของ ม.เที่ยงคืน / สมเกียรติ
ตั้งนโม)
21. พรมแดนใหม่ของวิทยาศาสตร์(บทความแปล)
22.ศิลปะในสายตาสังคมวิทยา(บทความแปล)
23.วัฒนธรรมแห่งความเมตตา(บทความแปล)
24. ประวัติความเป็นมาของทรราชและเผด็จการ
(แปลจากสารานุกรม)
25. การปรับปรุงทักษะความคิดสร้างสรรค์
(Melvin D. Saunders / ม.เที่ยงคืน เรียบเรียง)
26. ฟูโกในสารานุกรมสุนทรียศาสตร์
(สมเกียรติ ตั้งนโม / เรียบเรียง[ปรับปรุงใหม่])
27. เปิดพรมแดนวิทยาศาสตร์สู่พรมแดนแห่งจริยธรรม
(John Ziman)
28. ร่ำรวยวัตถุ
แต่ยากจนเวลา (บทความเชิง เศรษฐศาสตร์-เขียนโดย Wolfgang Sachs)
29. แก้วิกฤติสังคมด้วยสันตวิธี
(กรณีสมัชชาคนจน กับรัฐบาล - พิษณุเรียบเรียง)
30. ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
(แถลงการณ์ที่ซีแอตเติล โดยหัวหน้าชนเผ่าอินเดียนแดง)
31.การนอนหลับและการฝัน(การศึกษาทางวิทยาศาสตร์
และจิตวิทยา / บทความแปล-เรียบเรียง)
32. เศรษฐศาสตร์การตลาดที่มีหัวใจ
(David Korten)
33.การเมืองแบบ"ทางสายที่
3 : วาทกรรมแบบ หลังสังคมนิยม (ศิโรตม์
คล้ามไพบูลย์)
34. อัตลักษณ์และความหมายของวิทยาศาสตร์
(Charles van Doren จากหนังสือ A History of Knowledge)
35. นักวิชาการเครื่องซักผ้า
(รายการทีทรรศน์ท้องถิ่น)
36. วิกฤตพุทธศาสนากับสังคมไทย
(ถอดเทปมาจากห้อง เรียนมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
37. สนทนาเรื่อง"ธรรมบท"(ประมวล
เพ็งจันทร์ / มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
38.
สาระจากโทรทัศน์ (anthology from Thai
TV)
39. มหัศจรรย์แผ่นดินจีนในสายตามาร์โคโปโล
(บทความแปล)
40. จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ
จากมุมมองของพระเจ้า มาสู่มุมมองของมนุษย์
(สมเกียรติ ตั้งนโม : เรียบเรียง)
41. เจ้าโลกเป็นเจ้าโลกจริงหรือ
? (ถอดเทปบทสนทนา ของ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
42. มนุษย์เรอเนสซองค์
[Renaissance Man] (แปล)
43. ฟูโกสำหรับผู้เริ่มต้น
(Foucault for Beginners)
44. กำเนิดคลินิค
(Foucault for Beginners)
45. แบบแผนของสิ่งต่างๆ
(The Order of Things) (Foucault for Beginners)
46. วินัยและการลงโทษ
(Discipline and Punish) (Foucault for Beginners)
47. ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องเพศ
(History of Sexuality) (Foucault for Beginners)
48. วอลเดน
เบลโล ซักฟอกธนาคารโลก และ ไอเอมเอฟ
(นิธิ เอียวศรีวงศ์ แปลสรุปความ)
49. ความรู้ช้า (Slow
Knowledge : David Orr)
50. โพส์ทโมเดิร์นในศิลปะและปรัชญา
(ชมรมเสวนาและการดนตรี คณะวิจิตรศิลป์ มช.)
51. เลือกตั้งกับการเมืองภาคประชาชน
(ถอดเทปรายการทีทรรศน์ท้องถิ่น)
52. ศาสตร์ว่าด้วยเรื่องคนจน
(ที่มาของสมัชชานักวิชาการเพื่อคนจน / บทความถอดเทป)
53.ความยิ่งใหญ่และข้อจำกัดของฟรอยด์
(สมเกียรติ ตั้งนโม)
54.วาระแห่งชาติภาคประชาชน
(แถลงการณ์ของประชาชนระดับรากหญ้า)
55. นิติศาสตร์แหกคอก
(สมชาย ปรีชาศิลปกุล)
56. โฉมหน้าความเป็นหญิงในวิทยาศาสตร์
(Linda Jean Shepherd)
57. ข้อเสนอการศึกษากับทางเลือกของชีวิต
(นิธิ เอียวศรีวงศ์)
58.ความเป็นผู้หญิงในสังคมไทย
(วารุณี ภูริสินสิทธิ์)
59. ทุนนิยมธรรมชาติ
(สมเกียรติ ตั้งนโม : แปล)
60.
ดิบงามในงานสร้างสรรค์ (Raw Creation / John Maizels / สมเกียรติ
ตั้งนโม : เรียบเรียง)
61. เสวนาเรื่อง"การศึกษาเพื่อสันติภาพ"
(นิธิ เอียวศรีวงศ,์ คณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน และผู้เข้าร่วมเสวนา)
62. เลือกที่จะไม่เลือก (นิธิ
เอียวศรีวงศ์) และ แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
63.สิทธิบัตรเกี่ยวกับชีวิต
(สมเกียรติ ตั้งนโม / Patents on Life)
64. หนังสือกรรมสิทธิ์ของโคลัมบัสยุคใหม่
(บทความแปล / สมเกียรติ ตั้งนโม)
65. วัฒนธรรมโลก กับ ความเป็นอเมริกัน
(มกราคม 44 / สมเกียรติ ตั้งนโม)
66.ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
(สมเกียรติ ตั้งนโม)
67.Deconstruction
(ทฤษฎีรื้อโครงสร้าง)(สมเกียรติ ตั้งนโม / เรียบเรียง)
68.พลวัติของความรู้ชาวบ้าน
ในกระแสโลกาภิวัตน์
(อานันท์ กาญจนพันธุ์)
69.หลักรัฐศาสตร์
และหลักนิติศาสตร์ (ไพสิฐ พาณิชย์กุล)
70. โลกาภิวัตน์กับวัฒนธรรมไทย
(อานันท์ กาญจนพันธุ์)
71. เศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัตน์
(ผาสุก พงษ์ไพจิตร)
72. กระแสชุมชนท้องถิ่นในยุคโลกาภิวัตน์
(ศ.เสน่ห์ จามริก)
73. ฉันทามติรัตนโกสินทร์ในยุคโลกาภิวัตน์
(รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
ไปหน้าแรกของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน I สมัครสมาชิก I สารบัญเนื้อหา
e-mail : midnightuniv(at)yahoo.com
ถ้าประชาธิปไตยเป็นการปกครองของฝูงชน
อุดมคติเรื่องชาติอันยิ่งใหญ่ก็คือ อุดมคติที่มองหาผู้นำที่เต็มไปด้วยบารมี ชาติที่ยิ่งใหญ่เรียกร้องผู้นำที่ยิ่งใหญ่
และผู้นำที่ยิ่งใหญ่ก็เรียกร้องความสนับสนุน
จากประชาชนในสัดส่วนที่ ยิ่งใหญ่ตามขึ้นไปด้วย.
ภายใต้อุดมคติทางการเมืองทั้งหมดนี้ ผู้นำกลายเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับสังคมการเมืองไทย
และด้วยเหตุเช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่คำถามเรื่ององค์อธิปัตย์ ไม่เคยเป็นคำถามสำคัญในสังคมการเมืองไทย
ไม่แม้กระทั่ง
ในแวดวงปัญญาชนสาธารณะแบบไทยๆ.
โศกนาฏกรรมที่ตึกเวิลด์เทรดผ่านไปแล้วช่วงหนึ่ง
โลกเรียนรู้อะไรบ้างจากความสูญเสียดังกล่าว?
ขณะนี้โลกกระหึ่มก้องไปด้วยความปรารถนาที่จะแก้แค้น ของยักษ์ที่โกรธเกรี้ยว ฉันทานุมัติสู่สงครามตั้งอยู่บนข้ออ้างที่จะทวงความยุติธรรมแก่ผู้ตาย
และการปกป้องโลกจากการก่อการร้าย ดูเหมือนว่าผู้นำรัฐต่างๆในโลกที่สนับสนุน หรือจำต้องสนับสนุนสหรัฐ
จะคิดว่าวิธีการแสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมดังกล่าว คือการสนับสนุนการตามล่าผู้ก่อการร้าย
การคิดเช่นนี้นับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเป็นการให้ความชอบธรรมต่อการใช้ความรุนแรง
บนการปกป้องผลประโยชน์ของรัฐชาติ
อันที่จริง ความตายที่เวิลด์เทรดเตือนพวกเราว่าสิ่งอันตรายที่สุดอย่างหนึ่งที่เป็นผลผลิตของโลกยุคสมัยใหม่ก็คือ อุดมการชาตินิยม ซึ่งหากผนวกกับอุดมการทางเชื้อชาติและศาสนาแล้วก็อาจจะกลายเป็นกรงขังทางความคิดที่ทำให้มองเห็น "ผู้อื่น" เป็นศัตรูโดยง่าย
การยอมรับความชอบธรรมและอำนาจของรัฐชาติทำให้รู้สึกว่าความรุนแรงใดๆที่ละเมิดกติกาของรัฐชาติเป็นสิ่งผิด ถูกปิดป้ายว่าเป็นการกระทำของ "ผู้ก่อการร้าย" ที่มุ่งทำลายอารยธรรมและเสถียรภาพของโลก ในขณะที่หากรัฐเป็นผู้ใช้ความรุนแรงแบบเดียวกันบ้างทั้งกับคนเชื้อชาติเดียวกัน คนต่างชาติหรือกับชนกลุ่มน้อย จะถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงและผลประโยชน์ของรัฐนั้น
พฤติกรรมของอเมริกาในสงครามเวียดนาม ในลาตินอเมริกาและอเมริกากลางตลอดจนในตะวันออกกลางซึ่งทำลายชีวิตนับล้านและทรัพย์สินนับไม่ถ้วนนั้นจัดเป็นพฤติกรรมของ "ผู้ก่อการดี" ที่โหดร้ายน้อยกว่าการถล่มตึกเวิลด์เทรดกระนั้นหรือ ?
ความรุนแรงมีพลังพลวัตรในตัวเอง การสนับสนุนให้ตามล่ากลุ่มก่อการทำให้มองไม่เห็นว่า ที่จริงต้นตอส่วนหนึ่งของปัญหามาจากตัวกติกาสากลของรัฐชาติต่างๆที่อนุญาตให้รัฐหลายๆรัฐบีบคั้น ปิดป้ายและล้อมกรอบกลุ่มที่คิดขัดแย้งกับตนให้จนมุมจนไม่เหลือพื้นที่ที่ชอบธรรมหรือสันติทางอื่นอีก การปลุกเร้าอุดมการชาตินิยมในอเมริกาขณะนี้ทำให้เกิดกระแสเกลียดชังคนมุสลิมทั้งภายในอเมริกาและในประเทศคนผิวขาวทั้งยุโรปและออสเตรเลีย ทั้งๆที่ยังมิได้มีการสรุปชัดแล้วว่าผู้ลงมือเป็นกลุ่มมุสลิมจริงหรือไม่
มีการทำร้ายและสังหารคนมุสลิมผู้บริสุทธิ์เกิดขึ้นแล้ว มันไม่เป็นสิ่งน่าสมเพชดอกหรือหากเราจะแสดงความเคารพต่อชีวิตที่ดับสูญไปด้วยการเร่งเร้าให้มีการคร่าชีวิตเพิ่มเติม? จะต้องมีการสังเวยชีวิตทหารอเมริกันในสงครามอีกเท่าใดจึงจะทำให้คนอเมริกันและผู้นำรัฐต่างๆได้สติและมองเห็นความไร้สาระของสงคราม?
โลกควรแสดงความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อผู้จากไปด้วยการสำเหนียกถึงคุณค่าของชีวิต และหันมาพิจารณาร่วมกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับมาตรการต่างๆในการสร้างสันติภาพในโลก ทำอย่างไรจะให้การประชุมลดอาวุธมีผลจริงในทางปฏิบัติ ทำอย่างไรจึงป้องกันไม่ให้สิทธิมนุษยชนถูกละเมิดในนามของรัฐ ทำอย่างไรจึงจะเกิดการถ่วงดุลย์อำนาจที่ได้ผลในองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ทำอย่างไรศาสนิกของศาสนาต่างๆจะไม่บิดการตีความและใช้ศาสนาของตนเป็นเครื่องมือของความรุนแรง
ขณะนี้ดูเหมือนชาวโลกจะรู้สึกว่าปัจเจกแต่ละคนไร้พลัง
ไม่อาจเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐได้ กระนั้นก็ตามเสียงที่แผ่วเบาหากรวมกันเป็นหมื่นเป็นแสนก็สามารถเป็นเสียงที่ผู้ปกครองไม่อาจเพิกเฉยได้
ขอให้เสียงจากใจที่แสวงศานติทั่วโลกจงมาผนึกพลังร่วมกันเถิดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
เสียงจากปลายดอย ๑๙ กันยายน ๒๕๔๔